- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 11 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
อียูร่วมแก้สถานการณ์ฉุกเฉิน
รัฐมนตรีกลาโหมจาก 9 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ได้แก่ ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร เยอรมนี เบลเยียม เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ เอสโตเนีย โปรตุเกส และสเปน ร่วมกันลงนามในเอกสารว่าด้วยแนวคิดริเริ่มการแทรกแซงยุโรป (อีไอไอ) ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งมีขอบข่ายภารกิจรวมถึงความพยายามบรรเทาวิกฤตด้านมนุษยธรรมและปฏิบัติการอพยพผู้ประสบภัย ตลอดจนภารกิจทางทหารตามที่ได้รับมอบหมาย
ความร่วมมือดังกล่าวเป็นคนละส่วนกับโครงการป้องกันยุโรป หมายความว่าสหราชอาณาจักรจะยังคงอยู่ในสถานะของหนึ่งในประเทศผู้ร่วมก่อตั้งอีไอไอได้แม้พ้นสถานภาพสมาชิกอียูแล้วภายในสิ้นเดือนมีนาคมปีหน้า ขณะที่นางฟลอเรนซ์ ปาร์ลี รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่อยากให้ใช้คำว่ากองกำลังกับความร่วมมืออีไอไอ เนื่องจากภารกิจส่วนใหญ่ของอีไอไอมุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมากกว่า
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เป็นผู้เสนอแนวคิดจัดตั้งอีไอไอเพื่อหวังว่าจะเป็นความร่วมมือทางทหารที่มีประสิทธิภาพมากกว่ากองกำลังยูโรเปียน แบตเทิลกรุ๊ปส์ ที่ก่อตั้งเมื่อปี 2550 แต่ไม่เคยปฏิบัติการจริงด้วยเหตุผลทางการเมือง
ด้านอียูและจีนได้จัดการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจในกรุงปักกิ่งท่ามกลางการเผชิญกับความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐ ทั้งอียูและจีนเพิ่งประกาศมาตรการเก็บภาษีครั้งใหม่กับสินค้าสหรัฐเพื่อเป็นการตอบโต้มาตรการจัดเก็บภาษีนำเข้าของรัฐบาลสหรัฐ โดยนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนซึ่งดูแลด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ทั้งจีนและอียูมีความเห็นตรงกันว่าจะต่อต้านการดำเนินการเพียงฝ่ายเดียวและการกีดกันทางการค้า รวมทั้งป้องกันการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและสกัดการฉุดเศรษฐกิจโลกไปสู่ภาวะถดถอย
You must be logged in to post a comment Login