วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

5 โรคฮิตต้นเหตุของปัญหาการพักผ่อนไม่เพียงพอ / โดย พจนา

On June 29, 2018

คอลัมน์ : โลกสุขภาพ

ผู้เขียน : พจนา

(โลกวันนี้วันสุข วันที่ 29 มิถุนายน-6 กรกฎาคม 2561)

ถึงแม้ว่าการพักผ่อนไม่เพียงพอในบางครั้งอาจจะเป็นเรื่องปรกติของใครหลายๆคน แต่สำหรับบางคนการนอนไม่หลับหรือพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นเกิดขึ้นติดต่อกันเป็นเวลานาน และมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

หลายๆครั้งอาการนอนไม่หลับมักจะเป็นผลจากสุขนิสัยการนอนของเราเอง แต่ก็มีบางคนที่อาการนอนไม่หลับนั้นเป็นผลที่มาจากโรคอื่น พญ.วรรณวิพุธ สรรพสิทธิ์วงศ์ แพทย์ทางด้านชะลอวัยของศูนย์ส่งเสริมสุขภาพไวทัลไลฟ์ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ได้ยกตัวอย่าง 5 โรคที่พบเห็นทั่วไป และเป็นต้นเหตุของอาการนอนไม่หลับหรือพักผ่อนไม่เพียงพอไว้ดังนี้

1.ต่อมไทรอยด์เป็นพิษ เป็นอาการที่ไทรอยด์ทำงานมากกว่าปรกติ และไปกระตุ้นระบบประสาท ส่งผลให้นอนไม่หลับและเหงื่อแตกพล่านขณะนอน นอกจากนี้ต่อมไทรอยด์ยังควบคุมอวัยวะต่างๆในร่างกาย อาการของต่อมไทรอยด์เป็นพิษนั้นจึงหลากหลายและยากต่อการชี้เฉพาะเจาะจง การตรวจเช็กความผิดปรกติของต่อมไทรอยด์นั้นไม่ยาก เพียงแค่เจาะเลือด

2.อาการปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน หรือ Nocturia การตื่นมาปัสสาวะบ่อยๆช่วงกลางดึกพบได้มากในหมู่คนมีอายุ ในกรณีรุนแรงจะพบว่าผู้ป่วยตื่นมาปัสสาวะบ่อยถึง 5-6 ครั้งในหนึ่งคืน อาการนี้มักจะแย่ลงเมื่อมีอายุเพิ่มขึ้น แต่ก็อาจเป็นอาการของคนที่มีปัญหาเรื่องเบาหวาน ต่อมลูกหมากโต หรือผลข้างเคียงจากยาบางชนิด เช่น กลุ่มยาขับปัสสาวะ

3.โรคไต เมื่อไตไม่สามารถทำงานได้ตามปรกติ โดยเฉพาะในเรื่องการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย ผู้ป่วยโรคไตจะพบปัญหาเรื่องการสะสมของของเสียในกระแสเลือด ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาการนอนไม่หลับ หรืออาการขาอยู่ไม่สุข (restless legs syndrome)

4.โรคไขข้อ กลุ่มคนที่เป็นโรคไขข้อต้องเผชิญกับความเจ็บปวดในกระดูก ซึ่งทำให้นอนไม่หลับ นอกจากนี้การใช้ยาประเภทสเตียรอยด์ยังมีผลกระทบต่อการนอนอีกด้วย

5.ปวดหัว ผู้ป่วยที่มีอาการปวดหัวบ่อยๆมักจะมีอาการนอนไม่หลับตามมา ยกตัวอย่างเช่น โรคไมเกรน หรือปวดศีรษะคลัสเตอร์ เป็นอาการปวดหัวที่ทำให้เส้นเลือดขยายออก ส่งผลให้รู้สึกปวดตื้อๆ รู้สึกไม่สบายตา

คุณหมอยังแนะนำว่า คนที่มีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับหรือพักผ่อนไม่เพียงพออาจมีความจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งอาจเป็นเพราะสุขนิสัยในการนอน หรือเป็นผลจากโรคอื่นๆที่ต้องรักษาโดยแพทย์ก็ได้

ต้นเหตุของอาการนอนไม่หลับที่ต้องกำจัด

 

เป็นที่รู้กันอยู่ว่าหากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ประสิทธิภาพในการทำงานของเราจะลดลง รวมถึงอาการสมองตื้อ ความจำไม่ค่อยดี และอารมณ์แปรปรวนด้วย โดยปรกติเรามักจะนึกถึงการนอนหลับในกลางคืน แต่ในความเป็นจริงแล้ววิถีชีวิตของเราในตอนกลางวันก็มีส่วนช่วยให้การนอนหลับพักผ่อนมีคุณภาพดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย

รู้ไหมว่าได้มีการวิจัยออกมาว่าคนเราสมัยนี้นอนน้อยกว่าคนรุ่นเมื่อ 100 ปีก่อนถึง 20% แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราในยุคนี้ หรือนิสัยการติดจอก่อนนอน ทำให้เกิดนิสัยนอนหลับยาก โดยเฉพาะในหมู่คนเมือง

“คนเราสมัยนี้ไม่รู้จักที่จะลดหย่อนผ่อนวาง หรือ power down และนั่นก็เป็นต้นเหตุของการพักผ่อนไม่เพียงพอ สังคมสมัยใหม่ทำให้เราเป็นคนที่ต้องทำงานหนักและติดตามโซเชียลตลอดเวล ทำให้เราขาดวินัยในการนอน” พญ.วรรณวิพุธกล่าว

นอกจากนี้ยังได้ยกตัวอย่างต้นเหตุหลักของการนอนไม่หลับไว้ดังนี้

บริโภคกาเฟอีนมากเกินไป การดื่มกาแฟสมัยนี้นอกจากจะเป็นตัวช่วยให้ร่างกายแอ็คทีฟแล้วยังเป็นแฟชั่นอีกด้วย สังเกตได้จากร้านกาแฟหรือคาเฟ่ที่มีมากมายรอบตัวได้กลายเป็นจุดนัดพบแม้เวลาเย็นหรือมืด โดยที่การบริโภคกาแฟในเวลาเย็นๆมืดๆก่อนเข้านอนนั้น ร่างกายต้องใช้เวลา 8 ชั่วโมงขึ้นไปในการขับกาเฟอีนออกจากร่างกาย

การจ้องจอมากเกินไป คนส่วนใหญ่ในสังคมสมัยนี้มักจะเป็นโรคติดจอ ซึ่งทำให้สมองถูกกระตุ้นให้ทำงานตลอดเวลา ทำให้เราเคยชินและรู้สึกว่าต้องเช็กโทรศัพท์ตลอดเวลา เมื่อสมองถูกกระตุ้นบ่อยๆก็จะโปรแกรมระบบการทำงาน ทำให้เคยชินและไม่สามารถพักผ่อนได้เต็มที่

รับประทานอาหารมากเกินไป การรับประทานอาหารมากเกินไปในช่วงเย็นเป็นสาเหตุทำให้แน่นท้องและไม่สบายตัว เมื่อร่างกายเราไม่รู้สึกสบายผ่อนคลายก็จะส่งผลให้นอนไม่หลับในที่สุด

ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มากเกินไป จริงอยู่ว่าเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทำให้เราง่วงนอน แต่การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก่อนนอนนั้นทำให้เกิดผลกระทบตามมาหลายอย่าง ซึ่งส่งผลให้การนอนหลับไม่มีคุณภาพ เช่น นอนกรน และปัสสาวะกลางดึก เพราะแอลกอฮอล์มีคุณสมบัติขับปัสสาวะ

ความเครียด/ความวิตกกังวล อาการกังวลถือเป็นอุปสรรคเบอร์หนึ่งของการนอนเลยก็ว่าได้ เพราะไปกระตุ้นสมองให้ต้องขบคิดและทำงานตลอดเวลา คนที่มีความกังวลมากเกินไปมักจะสร้างวงจรการนอนไม่หลับให้กับตัวเอง เพราะความกังวลทำให้สมองต้องขบคิดทำงาน และเมื่อไม่ได้นอนหลับพักผ่อนก็มีเวลาให้สมองขบคิดกังวลไปได้เรื่อยๆ และมากขึ้นไม่สิ้นสุด

ถ้าอยากนอนหลับจงพักจอ

จากการสำรวจของ International Bedroom Poll โดย National Sleep Foundation ในปี 2556 พบว่ามีเพียง 50% ของผู้เข้าสำรวจจำนวน 1,500 คน ยอมรับว่าพักผ่อนเพียงพอในคืนของวันทำงาน

เป็นไปได้ว่าสาเหตุหลักของกลุ่มคน 50% ที่พักผ่อนไม่พอนั้นเกิดจากการจ้องจอ

มีการสำรวจพบว่า 50% ของคนในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดา และสหราชอณาจักร และ 66% ในญี่ปุ่น ใช้โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หรือแทบเล็ตก่อนนอน และ 66% ของคนทั่วโลกดูโทรทัศน์ก่อนนอน

จะเห็นได้ว่าตัวการไม่ใช่เพียงโทรศัพท์อย่างเดียว แต่ยังรวมถึงไอแพด โทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์อีกด้วย แสงไฟจากจอเหล่านี้ทำให้สมองถูกกระตุ้น และเป็นผลให้ร่างกายนอนไม่หลับ

คุณหมอได้ให้ความเห็นว่า “คนเรามักจะเสพติดจอ โดยทำให้สมองเสพติดข่าวและข้อมูล ส่งผลให้ร่างกายเกิดกระบวนการตอบสนองต่อข่าวและข้อมูลเหล่านั้น รวมถึงการหลั่งอะดรีนาลีนทำให้ร่างกายเราแอ็คทีฟ และไม่อยากนอนอีกด้วย”

การวิจัยของ Australia’s Sleep Health Foundation พบว่าการพักผ่อนที่น้อยกว่า 8 ชั่วโมง ทำให้ร่างกายไม่มีความกระตือรือร้น ตอบสนองช้า ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน และอารมณ์แปรปรวน นอกจากนี้การพักผ่อนไม่เพียงพอมักจะเป็นต้นเหตุของปัญหาโรคอ้วน เบาหวาน และโรคหัวใจอีกด้วย โดยคุณหมอได้ย้ำว่า “เราต้องพึงตระหนักไว้เสมอว่าการนอนหลับเปรียบเสมือนยาที่นำมารักษา ซ่อมแซม และเสริมสร้างร่างกายในส่วนที่สึกหรอ และเป็นสิ่งที่เราควบคุมได้”

ในเรื่องของการสร้างสมดุลเฉพาะบุคคลมักจะกล่าวถึงอาการนอนไม่หลับหรือพักผ่อนไม่เพียงพอว่าเป็นโรคของวิถีการดำเนินชีวิต เพราะการนอนไม่หลับหรือพักผ่อนไม่เพียงพอนั้นทำให้เกิดผลกระทบต่างๆต่อสมรรถภาพของร่างกายอย่างมาก ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการนอนได้เห็นพ้องต้องกันว่าการสร้างสุขนิสัยที่ดีในการนอนหลับนั้นเริ่มต้นจากการปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆรอบตัว โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมในการนอนที่ดีในห้องที่มืดสนิท ไม่มีแสงก่อกวน


You must be logged in to post a comment Login