- อย่าไปอินPosted 1 day ago
- ปีดับคนดังPosted 2 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 5 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
พบสารพิษในชาย-หญิงอังกฤษ
ผลตรวจสอบยืนยันชายหญิงชาวอังกฤษซึ่งล้มป่วยตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้รับสารพิษโนวิช็อก แบบเดียวกับที่ส่งผลให้อดีตสายลับรัสเซียซึ่งลี้ภัยอยู่ในอังกฤษล้มป่วยอย่างหนักเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้า
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซาลส์บิวรี สหราชอาณาจักร ว่า กองกำกับการต่อต้านการก่อการร้ายของสำนักงานตำรวจนครบาลอังกฤษออกแถลงการณ์ว่า น.ส.ดอว์น สเตอร์เจสส์ อายุ 44 ปี และนายชาร์ลี โรว์ลีย์ อายุ 45 ปี ได้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองเอมส์บิวรีตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมา โดยผลการวิเคราะห์ทางพิษวิทยาปรากฏว่า ผู้ป่วยทั้ง 2 คนได้รับสารพิษร้ายแรงในกลุ่มโนวิช็อก และอาการยังอยู่ในขั้นวิกฤต
ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนให้ความสำคัญกับประเด็นที่ว่าชายหญิงคู่นี้ได้รับสารพิษโนวิช็อกได้อย่างไร ขณะที่เจ้าหน้าที่ยังไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงว่าสเตอร์เจสส์และโรว์ลีย์เป็นเป้าหมายจำเพาะเจาะจงของการทำร้ายครั้งนี้ และทั้งคู่มีความเกี่ยวข้องกันในทางใดหรือไม่ โดยพลเมืองดีพบร่างหมดสติของสเตอร์เจสส์เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ส่วนข้อมูลการพบร่างไร้สติของโรว์ลีย์ระบุว่าเป็นช่วงบ่ายของวันเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้น 4 เดือนพอดีหลังนายเซอร์เก สกรีพัล อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองทหารของรัสเซีย และบุตรสาวคือ น.ส.ยูเลีย สกรีพัล ได้รับสารพิษโนวิช็อกที่เมืองซาลส์บิวรีทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา
อนึ่ง เมืองเอมส์บิวรีกับเมืองซาลส์บิวรีตั้งอยู่ไม่ห่างจากกันมากนัก แม้ตำรวจยังคงเชื่อว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมืองเอมส์บิวรีมีความเสี่ยงต่อสาธารณชนในระดับต่ำ แต่ได้เผยข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ 5 แห่งซึ่งสเตอร์เจสส์และโรว์ลีย์เดินทางผ่านระหว่างวันที่ 29-30 มิถุนายนที่ผ่านมาว่ามีการปิดกั้นพื้นที่เรียบร้อยแล้ว และขอให้ประชาชนซึ่งอยู่ในสถานที่ตามช่วงเวลาดังกล่าวทำความสะอาดเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัว
ประเด็นเรื่องสารพิษโนวิช็อกยังคงเป็นชนวนความขัดแย้งทางการทูตระหว่างสหราชอาณาจักรกับรัสเซียจนถึงปัจจุบัน โดยรัฐบาลมอสโกยืนกรานปฏิเสธการมีส่วนเกี่ยวข้องในทุกกรณี และกล่าวหาว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรเจตนาปกปิดข้อมูลบางอย่างจากการไม่อนุญาตให้รัฐบาลมอสโกมีส่วนร่วมในกระบวนการสืบสวนสอบสวน
You must be logged in to post a comment Login