วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

วาจาเป็นพิษ

On July 6, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

“ชวน ชูจันทร์” ผู้จดทะเบียนขอจัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ผู้มีชื่อพัวพันอยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ดูดอดีต ส.ส. ออกมารักษาระยะห่างกับกลุ่มสามมิตรหลังกระแสดูดตีกลับ แม้จะประสบผลสำเร็จด้านตัวเลข แต่การยอมรับในวงกว้างติดลบ เพราะพฤติการณ์สวนทางกับธงปฏิรูปที่ปักไว้ตั้งแต่เข้ามายึดอำนาจ แถมอาจมีปัญหาข้อกฎหมายที่จะตามมา อย่างไรก็ตาม แม้การรักษาระยะห่างอาจเป็นแค่แทคติกทางการเมือง แต่ “วาจา” ที่ลั่นออกมาแล้วจะบีบให้หนทางสู่เป้าหมายแคบขึ้น เพราะสายตาทุกคู่จะจับจ้องที่การประชุมใหญ่เพื่อเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ถ้าปรากฏข้อเท็จจริงสวนทางกับคำพูดให้ระวัง “วาจาเป็นพิษ”

อัพเดทความเคลื่อนไหวในบ้านเมือง ล่าสุดที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติเอกฉันท์ 217 คะแนน เห็นชอบให้ร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ประกาศใช้เป็นกฎหมายตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ

หลักใหญ่ใจความสำคัญของกฎหมายนี้คือ ถวายคืนพระราชอำนาจในการแต่งตั้ง สถาปนา และถอดถอนสมณศักดิ์ของพระภิกษุในคณะสงฆ์ และแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) โดยการแต่งตั้งให้เป็นไปตามพระราชอัธยาศัย จะทรงปรึกษาหารือกับสมเด็จพระสังฆราชก่อนหรือไม่ก็ได้

วกกลับมาที่การเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีเรื่องให้ต้องอัพเดทกันทุกวันเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง

เริ่มมีความผิดปรกติเกิดขึ้นกับปรากฏการณ์ดูดอดีต ส.ส. ให้ไหลมารวมตัวกัน หลังจากที่พฤติการณ์ดูดทำกันอย่างโจ๋งครึ่งเกินไปจนเกิดภาวะเสี่ยงที่จะมีปัญหาข้อกฎหมายตามมาหลังจากนี้

ขณะนี้จะเห็นได้ว่าหลายคนที่ถูกนำชื่อไปเกี่ยวข้องกับการดูดอดีต ส.ส. เริ่มรักษาระยะห่างกับคณะสามมิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายชวน ชูจันทร์ แกนนำผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ

“ขอยืนยันว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มสามมิตร และไม่เคยเจอใครในกลุ่มสามมิตร อย่างไรก็ตาม มีหลายกลุ่มการเมืองและอดีตนักการเมืองแสดงความจำนงติดต่อขอเข้าร่วมทำงานกับพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งยังไม่ขอเปิดเผยว่ามีกลุ่มใดหรืออดีตนักการเมืองคนใดบ้าง พรรคพลังประชารัฐเปิดกว้างให้กับทุกๆ ฝ่ายที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เราต้อนรับทุกๆกลุ่มถ้ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย”

คำกล่าวของนายชวนแม้จะพยายามสื่อให้เห็นถึงการเว้นระยะห่างกับกลุ่มสามมิตร แต่น่าจะเป็นการเว้นระยะห่างทางเทคนิคเพื่อไม่ให้เข้าเงื่อนไขความผิดตามกฎหมายที่อาจทำให้พรรคพลังประชารัฐแท้งก่อนลืมตาดูโลก

ต้องไม่ลืมว่าสถานะของพรรคพลังประชารัฐในตอนนี้ยังไม่มีความเป็นพรรคการเมืองโดยสมบูรณ์ ความเป็นพรรคการเมืองจะครบถ้วนสมบูรณ์ตามกฎหมายเมื่อมีการประชุมใหญ่เพื่อเลือกบุคคลที่จะเป็นหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และผ่านการรับรองจากนายทะเบียนพรรคการเมืองแล้วเท่านั้น

ท่าทีของนายชวนสอดคล้องกับท่าทีของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาปฏิเสธเช่นกันว่าโดนเอาชื่อไปแอบอ้าง ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มสามมิตร

เมื่อนายสมคิดที่ถูกมองว่าเป็นมือประสานเรื่องนี้ และนายชวนที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ พยายามรักษาระยะห่างกับกลุ่มสามมิตร การประชุมใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมก่อนที่ คสช. จะปลดล็อกพรรคการเมืองในช่วงเดือนกันยายนจึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

เนื่องจากจะเป็นวันที่คนทั้งประเทศจะได้เห็นความจริงพร้อมๆกันว่า ทั้งนายสมคิดและพรรคพลังประชารัฐไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรจริงหรือไม่

ถ้าจริงก็คงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่อาจเกิดปรากฏการณ์วาจาเป็นพิษที่ไม่ยอมรับความจริง ไม่พูดตรงไปตรงมากับประชาชนตั้งแต่แรก

แต่ถ้าไม่จริงก็น่าติดตามว่ามีเหตุปัจจัยอะไรทำให้ดีลนี้ล่ม


You must be logged in to post a comment Login