- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 9 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
สหรัฐเดินหน้าแลกหมัดจีน
นายโรเบิร์ต ไลท์ไธเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐเรียกร้องให้จีนยุติการกระทำที่ไม่เป็นธรรมและมีการแข่งขันอย่างแท้จริง แต่จีนกลับตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าสหรัฐทั้งที่ไม่มีเหตุอันสมควร เจ้าหน้าที่สหรัฐได้เปิดเผยรายชื่อสินค้าจีนที่จะถูกเก็บภาษีครั้งใหม่ครอบคลุมสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างกว้างขวาง อาหาร ยาสูบ สารเคมี ถ่านหิน เหล็ก อะลูมิเนียม ไปจนถึงอาหารแมวและสุนัข โดยมาตรการใหม่จะมีผลหลังจากเปิดให้สาธารณชนแสดงความเห็นเป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งสหรัฐเพิ่งประกาศเก็บภาษีร้อยละ 25 กับสินค้าจีนมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.13 ล้านล้านบาท) เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา และถูกจีนตอบโต้ด้วยมาตรการเดียวกันในวันเดียวกันแต่มีผลก่อนเนื่องจากเขตเวลาต่างกัน
นายออร์ริน แฮตช์ สมาชิกวุฒิสภาพรรครีพับลิกัน วิจารณ์การประกาศเก็บภาษีจีนครั้งใหม่ว่าไม่ตรงตามเป้าหมาย ขณะที่หอการค้าสหรัฐแถลงสนับสนุนรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่องลดภาษีในประเทศและลดระเบียบการทำธุรกิจ แต่ไม่เห็นด้วยกับการใช้มาตรการทางภาษี เพราะจะทำให้ชาวอเมริกันต้องซื้อสินค้าในชีวิตประจำวันในราคาแพงขึ้น ขณะที่คนงานชาวอเมริกันก็เดือดร้อนจากภาษีตอบโต้จากจีนที่ทำให้สินค้านำเข้าสหรัฐแพงขึ้น
ส่วนความเคลื่อนไหวอีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประกาศจะให้เงินกู้จำนวน 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 640,000 ล้านบาท สำหรับใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอาหรับ ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนโครงการต่างๆเพื่อช่วยสร้างโอกาสในการจ้างงานและผลเชิงบวกทางสังคมแก่ประเทศในกลุ่มอาหรับ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพิเศษสำหรับการฟื้นฟูเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม
นอกจากนี้จีนยังมีโครงการจัดสรรเงินอีก 1,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 5,000 ล้านบาท เพื่อช่วยพัฒนาขีดความสามารถในการรักษาเสถียรภาพ ที่ผ่านมาจีนเคยจัดสรรเงินช่วยเหลือประเทศในกลุ่มอาหรับไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การจัดสรรเงินจำนวนมหาศาลดังกล่าวก่อให้เกิดความวิตกกังวลทั้งในประเทศและต่างประเทศกรณีความเสี่ยงในการแบกรับภาระหนี้ของบรรดาประเทศยากจนเหล่านั้น
You must be logged in to post a comment Login