- ปีดับคนดังPosted 14 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
อาการบ้านหมุน / โดย พญ.กนกรัตน์ สุวรรณสิทธิ์
คอลัมน์ : พบหมอศิริราช
ผู้เขียน : พญ.กนกรัตน์ สุวรรณสิทธิ์
(โลกวันนี้วันสุข วันที่ 13-20 กรกฎาคม 2561)
คุณเคยอยู่ดีๆแล้วเวียนหัวเหมือนบ้านหมุนบ้างไหม เป็นสัญญาณเตือนของโรคอะไร อันตรายหรือไม่ เราจะพาไปรู้จักอาการบ้านหมุนกัน
อาการเวียนศีรษะไม่ใช่โรค เป็นเพียงกลุ่มอาการ อาจไม่ได้จำเพาะกับโรคใดโรคหนึ่ง ผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูง เบาหวาน ก็อาจทำให้มีอาการเวียนศีรษะได้ แต่หากมีบ้านหมุนร่วมด้วย สาเหตุอาจเกิดจากระบบประสาทส่วนกลาง เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต เส้นเลือดในสมองตีบ หรือเป็นโรคจากหู เช่น โรคมีเนียร์หรือน้ำในหูไม่เท่ากัน ตะกอนหินปูนหูชั้นในเคลื่อนหลุด หูชั้นในอักเสบ เป็นต้น
ผู้ป่วยที่มีอาการเวียนศีรษะอาจมีอาการเดินเซ โคลง ทรงตัวได้ไม่ค่อยดี แต่สำหรับอาการบ้านหมุนจะรู้สึกว่าตัวหมุนหรือสิ่งแวดล้อมรอบๆตัวหมุน ในกรณีที่เป็นมากมักมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
สาเหตุ ส่วนใหญ่มาจาก 2 ปัจจัยหลักคือ ปัจจัยที่ 1 โรคทางระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งอันตรายและรุนแรง ผู้ป่วยจะมีอาการของระบบประสาทส่วนกลางผิดปรกติร่วมด้วย เช่น พูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง ปากเบี้ยว ใบหน้าเบี้ยว หรือแขนขาอ่อนแรง 2 ข้างไม่เท่ากัน ซึ่งอาการเหล่านี้บ่งชี้ว่าอาจจะมีปัญหาหลอดเลือดสมอง เช่น หลอดเลือดในสมองตีบ โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง โรคหัวใจ เป็นต้น ถ้ามีอาการดังกล่าวควรรีบมาพบแพทย์ให้เร็วที่สุดภายหลังมีอาการ ส่วนปัจจัยที่ 2 โรคทางหู มักจะมีอาการทางหูร่วมด้วย เช่น หูอื้อ มีเสียงในหู หรือการได้ยินลดลง เป็นต้น
การวินิจฉัย ทำได้โดยการซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด รวมถึงการตรวจหู การตรวจระบบประสาทและการทรงตัว บางครั้งมีความจำเป็นในการตรวจการกลอกของลูกตาและการเคลื่อนไหวของลูกตาในท่าทางต่างๆ ผู้ป่วยบางรายจำเป็นต้องส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม โดยเฉพาะกรณีที่สงสัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองจำเป็นต้องได้รับการตรวจเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กหรือการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองเพื่อวินิจฉัยหาตำแหน่งรอยโรค
การรักษา ขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค แต่ละโรคมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน เช่น การสังเกตอาการ การใช้ยา การทำกายภาพในโรคตะกอนหินปูนหลุดของหูชั้นใน
ผู้ป่วยในขณะที่ยังมีอาการเวียนศีรษะบ้านหมุนควรดูแลตัวเองให้ปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงจากอาการที่เกิดจากโรค แนะนำให้งดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุ หรือพลัดตกหกล้ม เช่น การขับรถ ขี่มอเตอร์ไซค์ เพราะผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการเวียนศีรษะเวลาขยับศีรษะเร็วๆ การพักผ่อนให้เพียงพอ การออกกำลังกาย การควบคุมโรคประจำตัว เช่น ความดัน เบาหวาน ให้ดี จะบรรเทาอาการและทำให้อาการเวียนศีรษะหายเร็วขึ้น
You must be logged in to post a comment Login