วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ทหารยุคปฏิรูป

On July 18, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

การเมืองในยุคปฏิรูปที่ครั้งหนึ่งเคยพูดกันถึงขนาดที่ว่าห้ามข้าราชการเสียบสายชาร์จโทรศัพท์มือถือในสำนักงาน ห้ามใช้ซองจดหมายราชการในเรื่องส่วนตัว ห้ามขับรถราชการออกไปกินข้าวตอนกลางวัน หรือการไล่บี้เอาผิดตำรวจที่ไปติดตามอดีตนายกรัฐมนตรี แต่กลับมีประเด็นให้สังคมต้องหันมามองอย่างสงสัยว่าทำไมนายทหารสามารถเอาพลทหารไปเฝ้าเล้าไก่ได้ คำชี้แจงทำนองว่าเป็นเรื่องสมัครใจหรือเป็นการขอยืมตัวไม่ช่วยให้สังคมมองกองทัพในมุมที่ดีขึ้น เพราะไม่ได้ตอบคำถามที่ว่าเอาพลทหารไปรับใช้นายทหารในเรื่องส่วนตัวในเวลาราชการได้หรือไม่ ในเมื่อพลทหารกินเงินเดือนจากภาษีประชาชน

หลังมีข่าวฮือฮากรณีพลทหารอัดคลิปวิดีโอโพสต์ลงเฟซบุ๊คบอกเล่าเรื่องราวทำนองว่าสมัครใจมารับใช้ชาติแต่กลับต้องมาเลี้ยงไก่ให้นาย ป่วยไม่สบายก็โดนด่า จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วถึงความเหมาะสม

หลังปรากฏเรื่องนี้ออกมาไม่มีใครตั้งข้อสังเกตว่าสิ่งที่พลทหารออกมาเปิดเผยนั้นไม่จริง ทุกคนต่างเทใจเชื่อว่าคลิปที่นำมาเผยแพร่เป็นเรื่องจริง และเฝ้ารอดูคำชี้แจงของผู้ที่เกี่ยวข้องว่าจะชี้แจงเรื่องนี้อย่างไร

นอกจากสังคมอยากรู้ว่าจะชี้แจงอย่างไรแล้ว ยังอยากรู้ว่าการให้พลทหารไปรับใช้นายทหารในยุคที่เรียกว่า “ปฏิรูป” นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้หรือไม่ มีกฎหมายรองรับหรือไม่ เป็นเรื่องที่ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ แต่สิ่งที่มาจากการชี้แจงของผู้เกี่ยวข้องกลับสวนทางกับคำว่า “ปฏิรูป” อย่างสิ้นเชิง

คนที่ออกมาชี้แจงเป็นคนแรกคือ พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก จับประเด็นจากการชี้แจงได้ว่าเป็นการดำเนินการส่วนบุคคลในบ้านพักราชการของหน่วยที่ผู้เข้าพักใช้พื้นที่ด้านหลังเลี้ยงไก่เป็นงานอดิเรก คงมีการมอบหมายให้ทหารที่ดูแลบ้านพักของหน่วยช่วยดูแลไปด้วยในลักษณะไหว้วาน

อีกประเด็นที่ได้จากการชี้แจงของโฆษกกองทัพบกคือ ทางหน่วยจะตรวจสอบ หากมีการใช้วาจาไม่เหมาะสมต่อกันจริงเหมือนที่กล่าวอ้างในคลิปทางหน่วยจะตักเตือน

ขณะที่เจ้ากระทรวงกลาโหมอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ชี้แจงว่า เรื่องนี้มีระเบียบอยู่ ให้ว่ากันไปตามระเบียบ พร้อมยืนยันว่าไม่มีระบบทหารรับใช้ มีแต่ “ขอยืมตัวไปและต้องยอมรับด้วยกันทั้งสองฝ่าย”

สรุปง่ายๆคือขอตัวไปทำงานด้วยความสมัครใจยินยอม แต่ประเด็นคือไปนั่งเลี้ยงไก่ในเวลาราชการหรือไม่

ทั้งนี้ แม้กองทัพระบุว่าได้ทำการสอบสวนแล้วและให้พลทหารดังกล่าวกลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่หน่วยต้นสังกัดเรียบร้อยแล้ว แต่สังคมยังคลางแคลงใจว่าการให้พลทหารไปทำงานเหนือจากงานราชการให้นายนั้นสามารถทำได้หรือไม่ เป็นเรื่องถูกต้องที่สังคมควรยอมรับหรือไม่

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เข้ายื่นเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบเรื่องนี้ โดยระบุว่าพลทหารได้เงินเดือนและกินเบี้ยเลี้ยงจากเงินภาษีของประชาชน การให้พลทหารไปรับใช้ส่วนตัวถือเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบความผิดให้หน่วยงานสั่งเอาผิดและลงโทษนายทหารดังกล่าวและผู้บังคับบัญชา เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างนำทหารเกณฑ์ไปเป็นทาสรับใช้ในกองทัพอีกต่อไป

พร้อมกันนี้ยังได้เสนอแนะให้กระทรวงกลาโหมปรับปรุงกฎ ข้อบังคับ หรือคำสั่งที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน ความไม่เป็นธรรมต่อไป

เรื่องพลทหารเลี้ยงไก่ไม่ใช่เรื่องแรกที่ถูกเปิดเผย ก่อนหน้านี้มีหลายกรณีที่ถูกเปิดเผยออกมาให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์ และจบลงด้วยเรื่องเงียบหายไป

หากยังไม่มีการปรับแก้กฎระเบียบให้เกิดความชัดเจน เรื่องเอาพลทหารไปเลี้ยงไก่ เฝ้าบ่อปลา ขับรถรับส่งลูกนายทหารไปโรงเรียน ฯลฯ ก็จะมีปรากฏออกมาอีกเรื่อยๆ ทางแก้คือกระทรวงกลาโหมต้องประกาศให้ชัดเจนว่าการเอาพลทหารไปรับใช้หรือทำงานส่วนตัวให้กับบรรดานายทหารเป็นเรื่องที่ทำได้หรือไม่

ถ้าประกาศชัดเจนว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ถูกต้องตามกฎหมาย ถูกต้องตามกฎระเบียบ ถูกต้องตามประมวลจริยธรรม ประชาชนจะได้สิ้นสงสัย ไม่ต้องเกิดประเด็นดราม่าขี้นอีกในอนาคต

แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ถูกต้องตามกฎระเบียบ ไม่ถูกต้องตามประมวลจริยธรรม ก็ต้องมีบทลงโทษที่ชัดเจนต่อนายทหารที่ละเมิดหลักเกณฑ์เหล่านี้ เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของกองทัพ

การชี้แจงทำนองว่าเป็นเรื่องสมัครใจ เป็นการขอยืมตัว นอกจากไม่ช่วยให้สังคมรู้สึกดีขึ้นแล้ว ยังทำลายภาพลักษณ์ของกองทัพอีกด้วย

ถ้าบอกว่าจะปฏิรูปถึงขนาดห้ามข้าราชการเสียบสายชาร์จโทรศัพท์มือถือในสำนักงาน ห้ามใช้ซองจดหมายราชการในเรื่องส่วนตัว ห้ามขับรถราชการออกไปกินข้าวตอนกลางวัน หรือห้ามตำรวจไปติดตามนักการเมือง ก็ไม่ควรละเว้นที่จะห้ามเอาพลทหารไปรับใช้นายทหารในเรื่องส่วนตัวเช่นเดียวกัน


You must be logged in to post a comment Login