บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกชนะ ชลบุรี เอฟซี ครองจ่าฝูงไทยลีก พร้อมทิ้งห่างผู้ตาม 9 คะแนน

• Tweet
• 

การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2018 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2561 “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีคิวยกทัพออกทำศึกซูเปอร์บิ๊กแมตช์ เยือนสนามชลบุรี สเตเดียม ของ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี

เริ่มเกมครึ่งเวลาแรก ชลบุรี เป็นฝ่ายเขี่ยบอลเล่นก่อนได้บุกจากซ้ายไปขวา ส่วน บุรีรัมย์ บุกจากขวามาซ้ายของสนามแข่งขัน

นาทีที่ 2 ฉลามชล มาได้เตะมุมทางซ้าย วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ เปิดโค้งมาที่เสาสอง รัตนากร ใหม่คามิ โหม่งสกัดออกมาจากพื้นที่อันตรายได้ฉิวเฉียด

นาทีที่ 5 ปราสาทสายฟ้า ได้ฟรีคิกระยะอันตราย ดิโอโก หลุยส์ ซานโต สืบเท้าเข้าไปยิงด้วยเท้าขวาข้างถนัดบอลพุ่งเฉี่ยวคานออกหลังไปแบบได้เสียว

นาทีที่ 9 เจ้าถิ่นมาได้ลุ้น ซิโร่ อัลเวส ได้บอลทางขวาของสนามก่อนจะตัดสินใจปั่นโค้งบอลลอยตกใต้คานแบบได้เสียวเช่นกัน

นาทีที่ 12 ชลบุรี มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย กฤษดา กาแมน วิ่งเข้าไปยิงบอลทะลุกำแพง แต่ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน อ่านเกมยืนดักทางล้มตัวรับบอลไว้ได้สบาย

GOAL!!! นาทีที่ 14 ปราสาทสายฟ้า ได้เล่นสวนกลับ ออสวัลโด ฟิลโญ ได้บอลในแดนตัวเองก่อนที่จะกระชากขึ้นทางขวาแล้วจ่ายทะลุช่องมาให้ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต วิ่งเข้าไปยิงบอลผ่าน ชนินทร์ แซ่เอียะ เข้าประตูไป บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 26 ชลบุรี ที่สกอร์ตามหลังได้เตะมุม เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ เปิดบอลด้วยเท้าซ้ายบอลโค้งแรงผ่านเสาสองออกหลังไป

นาทีที่ 30 ยังเป็นโอกาสของเจ้าถิ่นที่ได้ลุ้นประตูตีเสมอ มัธธิอุส อัลเวส ได้บอลทางซ้ายก่อนจะตัดสินใจปั่นโค้งบอลจะเสียบใต้คาน ทว่า ศิวรักษ์ ยืนอยู่ถูกที่โดดปัดบอลออกหลังไปได้

นาทีที่ 36 บุรีรัมย์ เกือบได้ลูกที่ 2 หลังจากผู้เล่นเจ้าถิ่นพยายามเตะสกัดบอลแต่ไม่โดนทำให้ ออสวัลโด ฉกบอลไปได้ก่อนจะกระชากเข้าเขตโทษแล้วจ่ายยัดให้ ดิโอโก ได้ยิงติดบล็อกกองหลัง

GOAL!!! นาทีที่ 38 สกอร์ในสนามก็เปลี่ยนเป็น 2-0 ออสวัลโด ได้บอลก่อนจะแทงขึ้นหน้าให้ รัตนากร ที่วิ่งเปิดช่องไปทางริมเส้นฝั่งขวา แล้วจัดการจ่ายให้ ดิโอโก ที่ยืนอยู่โล่งๆ จับบอลแล้วจ่ายให้ จักรพันธ์ แก้วพรม ยิงง่ายๆ เข้าประตูไป

จากนั้นทั้ง 2 ทีมก็เปิดเกมแลกกันอย่างสนุกดุเดือดชนิดที่ไม่มีใครกลัวใคร แต่ก็ไม่มีทีมใดทำประตูได้ ทำให้จบครึ่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกนำ ชลบุรี เอฟซี 2-0

กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 52 ชลบุรี ที่โหมบุกอย่างหนักเกือบที่จะมาได้คืนเมื่อ ซิโร่ อัลเวส ได้บอลทางขวาก่อนจะเลี้ยงตัดเข้าเขตโทษแล้วยิงบอลแฉลบผู้เล่นปราสาทสายฟ้า ออกหลังไป

นาทีที่ 59 บุรีรัมย์ ได้เตะมุมทางขวา กรกช เปิดโค้งด้วยเท้าซ้ายไปในเขตโทษ พรรษา เหมวิบูลย์ ได้โขกกดลงพื้นบอลจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ ชนินทร์ แซ่เอียะ ผวาปัดบอลออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ

นาทีที่ 63 อันเดรส ตูเญซ ได้บอลก่อนจะจ่ายออกซ้ายให้ จักรพันธ์ หลุดไปถึงเส้นหลังแล้วเปิดข้ามมาที่เสาสอง รัตนากร พยายามจะวิ่งเข้าชาร์จ แต่ผู้เล่นเจ้าถิ่นสกัดบอลไว้ได้ก่อนทำให้พลาดการยิงประตู

นาทีที่ 69 ชลบุรี เกือบได้ประตูตีไข่แตก ซิโร่ อัลเวส เปิดบอลจากทางซ้ายเข้าไปกลางประตู มัธธิอุส อัลเวส โขกชนคานอย่างจัง ก่อนที่ นพนนท์ คชพลายุกต์ จะได้วิ่งเข้าซ้ำดาบสองติดบล็อก และเป็นผู้เล่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สกัดพ้นอันตรายออกมาได้ และกลายเป็นการสวนกลับเร็วเมื่อ ดิโอโก ได้ใช้ความเร็วเลี้ยงบอลเข้าเขตโทษก่อนจะล้มตัวยิงบอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 76 ยู จุนซู ได้บอลก่อนจะดึงรอจังหวะแล้วเลี้ยงขึ้นหน้าด้วยความเร็ว และแทงบอลทะลุให้ สุภโชค สารชาติ ได้แตะหนึ่งจังหวะก่อนจะยิงจากเส้นเขตโทษบอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกหลังไปแบบได้เสียว

จากนั้นเป็น ชลบุรี เอฟซี ที่ครองเกมบุกได้ดี แต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะได้ประตู ทว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เล่นเกมรับได้อย่างเหนียวแน่นก็มีโอกาสสวนกลับหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่มีประตูเพิ่ม ทำให้จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกเอาชนะ ชลบุรี เอฟซีไปได้ 2-0 ส่งผลให้ ปราสาทสายฟ้า คว้า 3 คะแนนไปครอง พร้อมกับนำเป็นจ่าฝูงต่อไป ด้วยการมี 59 คะแนน ทิ้งห่างผู้ตามอย่าง แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็น 9 คะแนนอีกครั้ง

รายชื่อผู้เล่นทั้ง 2 ทีม

ชลบุรี เอฟซี : ชนินทร์ แซ่เอียะ (ผู้รักษาประตู), กฤษดา กาแมน, คิม กยอง มิน, อลงกรณ์ ประทุมวงศ์, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (C) (เสฏฐวุฒิ วงค์สาย น.84), ภานุพงศ์ พลซา (นพนนท์ คชพลายุกต์ น.68), วัฒนศัพท์ เจริญศรี (เนบิญา บายรัมย์ น.61), สหรัฐ สนธิสวัสดิ์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ซิโร่ อัลเวส, มัธธิอุส อัลเวส

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), พรรษา เหมวิบูลย์, อันเดรส ตูเญซ, ชิติพัทธ์ แทนกลาง, กรกช วิริยอุดมศิริ, รัตนากร ใหม่คามิ, จักรพันธ์ แก้วพรม (C) (ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา น.90+2), ศุภชัย ใจเด็ด, ยู จุนซู (สุเชาว์ นุชนุ่ม น.77), ออสวัลโด ฟิลโญ (สุภโชค สารชาติ น.71), ดิโอโก หลุยส์ ซานโต

You must be logged in to post a comment Login