วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“TEAMG”โชว์รับงานโครงการใหม่ๆต่อเนื่องในไตรมาส 2

On July 23, 2018

นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่งแอนด์แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEAMG เปิดเผยว่าหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมา บริษัทวางแผนจะนำเงินจากการระดมทุนจำนวน 436 ล้านบาทมาลงทุนในเทคโนโลยีก้าวหน้าและเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับรองรับการขยายตัวของงานโครงการทั้งในและต่างประเทศอีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนทางการเงินในการบริหารสภาพคล่องของบริษัทโดยบริษัทจะเริ่มนำเงินจากการระดมทุนดังกล่าวมาลงทุนตามแผนการใช้เงินภายในไตรมาสที่3 ของปี 2561นี้

“ณสิ้นไตรมาส 1 ปี 2561 บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 3,473.94 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา บริษัทยังได้รับงานโครงการใหม่เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท โดยคาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 3และไตรมาสที่ 4 backlog มีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเนื่องจากบริษัทรับงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะงานในประเภทกลุ่มคมนาคมระบบรางและงานโครงการที่เกี่ยวข้องกับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)รวมทั้งงานอาคารขนาดใหญ่ของภาครัฐซึ่งล้วนแต่เป็นโครงการที่ต่อเนื่องมาจากงานที่กลุ่มบริษัทเคยได้ดำเนินการศึกษาหรือออกแบบจากในอดีตและปัจจุบัน”นายชวลิตฯกล่าว

นายชวลิตฯ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าหลังจากที่หุ้นของบริษัทได้เข้าจดทะเบียนในSET แล้วบริษัทยังวางแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศและสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มศักยภาพและความแข็งแกร่งของบริษัทโดยจะเดินหน้าขยายธุรกิจให้ครอบคลุม 10 ประเทศในอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย บรูไน และสิงคโปร์ จากปัจจุบันที่ให้บริการใน 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ลาว เมียนมา และกัมพูชา

“บริษัทคาดว่ารายได้จากการให้บริการในปี 2561 จะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่า10% จากปี 2560 ที่มีรายได้อยู่ที่1,590 ล้านบาท อันจะส่งผลให้มีอัตรากำไรสุทธิสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ประมาณ 6%เนื่องจากการผลิตและการส่งมอบงานจาก Backlog ที่มีได้อย่างต่อเนื่องประกอบกับงานโครงการที่รับใหม่จากแผนยุทธศาสตร์ของภาครัฐที่จะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่คาดว่าจะเปิดประมูลในปีนี้ประมาณ 1.66 ล้านล้านบาท อีกทั้งภาครัฐยังมีการเร่งพัฒนาพื้นที่ EECและพื้นที่เขตเศรษฐกิจอื่นๆ ส่วนงานเอกชนยังมีการเติบโตเนื่องจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวอีกทั้งตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องส่วนของอุตสาหกรรมคมนาคมยังมีการเร่งผลักดันโครงการรวมทั้งสิ้น 44 โครงการ ซึ่งมีงบลงทุนรวมทั้งสิ้น 2.02 ล้านล้านบาทซึ่งปัจจัยที่กล่าวแสดงให้เห็นถึงโอกาสของบริษัทที่จะมีส่วนร่วมในโครงการต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตซึ่งจะเป็นการสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทมีการเติบโตต่อไป”นายชวลิตฯ กล่าว


You must be logged in to post a comment Login