วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

“บล.โกลเบล็ก” มองแบงก์ประกาศงบQ2 ดีหนุนดัชนี แนะเก็งกำไรหุ้นBANPU-CPF-WHAUP งบ Q2/61 โต

On July 24, 2018

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBSกล่าวว่าตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากการประกาศงบไตรมาส2/2561 ของหุ้นธนาคารใหญ่หลายตัวออกมาดีกว่าคาด คาดนักวิเคราะห์ปรับประมาณการกำไรทั้งปีใหม่ หลังเลื่อนบังคับใช้มาตรฐานบัญชีIFRS9ออกไปอีก1ปีเป็น1ม.ค. 2563 และตัวเลขส่งออกเดือน มิ.ย.ขยายตัว 8.19%ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2561 ขยายตัว 10.96% สูงสุดในรอบ 7 ปีหนุนการปรับเพิ่มเป้าส่งออกปีนี้

ส่วนปัจจัยที่กดดันตลาดหุ้นไทยในระยะนี้ คือ สงครามการค้ากลับมาสร้างความกังวลอีกหลังปธน.ทรัมป์ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงินสูงถึง 5 แสนล้านดอลลาร์ส่วนอียูเม็กซิโกและแคนาดาขู่จะตอบโต้สหรัฐฯ หากสหรัฐฯเรียกเก็บภาษีชิ้นส่วนและรถยนต์ และปธน.ทรัมป์วิจารณ์นโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นต่างประเทศ

อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตา วันที่ 25 ก.ค. ยุโรปและสหรัฐฯ มีกำหนดเจรจาการค้าที่กรุงวอชิงตัน วันที่ 26 ก.ค กำหนดประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) วันที่30-31 ก.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)วันที่ 31 ก.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย และในวันที่ 31 ก.ค.-1 ส.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED)

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวน  แนะนำเก็งกำไรในหุ้นที่คาดผลประกอบการเติบโต Q2/61 ได้แก่ BANPU,BPP,IVL,JUBILE,DELTA,SVI,CPF,LH,TPIPP และ WHAUP ประกอบกับหุ้นแบงก์ที่ประกาศผลประกอบการออกมาดีกว่าคาดและนักวิเคราะห์มีแนวโน้มปรับเพิ่มประมาณการ ได้แก่ KBANK,BBL,SCB และKKP และหุ้นกลุ่มส่งออก ที่ได้รับอานิสงส์จากค่าเงินบาทอ่อนค่าสู่ 33.30 บาท/ดอลลาร์ ได้แก่ SVI,DELTA,CPF และ GFPT

ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่าจากการคาดการณ์ผลกระทบของคำสัมภาษณ์ปธน.ทรัมป์ที่ระบุว่า จีนกดค่าเงินหยวนให้อ่อนเพื่อหวังผลประโยชน์ด้านการค้าระหว่างประเทศ ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงทันที แต่ฝ่ายวิจัยคาดว่ามีผลเพียงระยะสั้นเท่านั้น และมีโอกาสที่ดอลลาร์จะกลับมาแข็งค่าอีก

ทั้งนี้ ประเมินกรอบการรีบาวด์ของราคาทองคำจะถูกจำกัดอยู่ที่แนวต้าน 1,240 ดอลลาร์โดยความผันผวนของค่าเงินบาทจะเป็นความเสี่ยงหลัก จึงแนะนำให้พอร์ตระยะสั้นเก็งกำไรในสินค้า Gold-D โดยเน้น swing trade และปิดทำกำไรเร็วเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว ส่วนพอร์ตระยะกลางถึงยาว แนะนำให้ทยอยเข้าซื้อสะสมเมื่อราคาย่อลงเพื่อเล่นรอบหรือถือลงทุน


You must be logged in to post a comment Login