คนคุมสัญญาณไฟ

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่น่าจับตามองนอกจากเรื่องการดูดอดีต ส.ส. ที่จะชัดเจนก่อนปลดล็อกการเมืองที่คาดว่าจะเป็นช่วงเดือนกันยายน อีกประเด็นคือการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการที่จะออกมาในช่วงเดียวกัน โดยให้โฟกัสไปที่การทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายพ่อเมืองและนายตำรวจระดับผู้บังคับการในจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคอีสาน แม้ในทางทฤษฎีตำแหน่งพ่อเมืองและผู้บังคับการตำรวจไม่เกี่ยวข้องกับการจัดเลือกตั้งโดยตรง แต่ในทางปฏิบัติก็เป็นที่รู้กันดีว่ามีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งในพื้นที่พอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทในการเปิดไฟเขียวไฟแดงอำนวยความสะดวกหรือไม่อำนวยความสะดวกให้กับหัวคะแนน

งานฉลองวันคล้ายวันเกิดปีที่ 69 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันนี้ (26 ก.ค.) แม้จะมีญาติมิตร คนสนิท แห่บินไปร่วมอวยพร แต่เจ้าของงานอย่าง ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อาจมีความสุขไม่ได้เต็มที่

ทั้งนี้เพราะก่อนถึงวันคล้ายวันเกิด 1 วัน บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างนายพานทองแท้ ชินวัตร ถูกพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คุมตัวส่งให้พนักงานอัยการคดีพิเศษพิจารณาสั่งฟ้องตามความผิดฐานฟอกเงินร่วมกับนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร และนายวันชัย หงษ์เหิน สามีนางกาญจนาภา

แต่พอจะใจชื้นได้หน่อยก็ตรงที่พนักงานอัยการคดีพิเศษอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้งหมดโดยไม่ต้องมีหลักประกัน และนัดมาฟังคำสั่งคดีในวันที่ 5 กันยายนนี้

ส่วนงานฉลองวันคล้ายวันเกิดอดีตนายกฯก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เพราะถูกจับตาเป็นพิเศษจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และฝ่ายความมั่นคงในไทย โดยเฉพาะเรื่องการพูดถึงการเมืองในไทยและความเชื่อมโยงกับพรรคเพื่อไทย หากมีอะไรเข้าข่ายเป็นความผิดเหมือนกับคลิปที่พูดถึงอดีต ส.ส. ย้ายพรรค อาจทำให้พรรคเพื่อไทยที่ยังถือว่าเป็นเต็งหนึ่งในการเลือกตั้งสะดุดขาตัวเองหกล้มได้

การเคลื่อนไหวของแกนนำพรรคเพื่อไทยและอดีตนายกฯทั้ง ดร.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงต้องทำในที่ลับมากขึ้น ถ้าเผลอปล่อยการ์ดตกอาจถูกหมัดฝ่ายตรงข้ามสวนน็อกก่อนขึ้นเวทีได้

ขณะที่การเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามอาจต้องทำอย่างเปิดเผยมากขึ้นตามเงื่อนไขของเวลาก่อนที่จะปลดล็อกการเมืองในช่วงเดือนกันยายน

เมื่อเวลาเหลือน้อยการดึงคนเข้ามาเป็นพวกคงต้องเพิ่มแรงดูดมากขึ้น ดังนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงกลางเดือนสิงหาคมคงได้เห็นพายุใหญ่ในการดูดครั้งสุดท้ายก่อนปิดบัญชีตรวจนับรายชื่อและจัดเกรดพวกที่เข้ามาร่วมงานตามแรงดูด

หากเป็นไปตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะใช้วิธีกระจายกำลังเพื่อเก็บเล็กผสมน้อยคะแนนเลือกตั้ง พร้อมกับแก้ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนไปในตัวด้วยยุทธวิธีป่าล้อมเมือง แตกตัวเป็นหลายพรรค ไม่เข้าไปร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐที่มีคนจับจ้องชื่อพรรคเอาไว้แล้ว ก็จำเป็นต้องไปยื่นความจำนงขอจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่กับ กกต. ซึ่งมีขั้นตอนที่ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร

หากต้องจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ก็ต้องเปิดหน้าให้เห็นความชัดเจนกันเร็วขึ้น ซึ่งน่าจะอยู่ในช่วงสัปดาห์ท้ายๆของเดือนสิงหาคม แต่หากกลับไปใช้แผนเดิมคือร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐก็อาจทอดเวลาการดูดออกไปได้อีกเล็กน้อย

นอกจากเรื่องดูดที่จะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงเดือนหน้าต่อเนื่องถึงเดือนกันยายนแล้ว สิ่งที่จะต้องจับตาดูเป็นพิเศษคือการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประจำปีที่จะต้องทำบัญชีในช่วงเดียวกัน

มีคนชี้เป้าให้จับตาดูการทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายพ่อเมืองและนายตำรวจระดับผู้บังคับการในจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการแข่งขันทางการเมืองค่อนข้างสูงในภาคเหนือและภาคอีสาน โดยให้จับตาดูจังหวัดที่อดีต ส.ส. ไม่ยอมย้ายพรรคตามแรงดูด

แม้ในทางทฤษฎีตำแหน่งพ่อเมืองและผู้บังคับการตำรวจไม่เกี่ยวข้องกับการจัดเลือกตั้งโดยตรง แต่ในทางปฏิบัติก็เป็นที่รู้กันดีว่ามีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งในพื้นที่พอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทในการเปิดไฟเขียวไฟแดงอำนวยความสะดวกหรือไม่อำนวยความสะดวกให้กับหัวคะแนน

You must be logged in to post a comment Login