วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

Personalized Medicine’ ทางเลือกใหม่การรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง / ศ.คลินิก พญ.สุดสวาท เลาหวินิจ

On August 3, 2018

คอลัมน์ : โลกสุขภาพ

ผู้เขียน : ศ.คลินิก พญ.สุดสวาท เลาหวินิจ

(โลกวันนี้วันสุข  ประจำวันที่วันที่ 3-10 สิงหาคม 2561)

ปัจจุบัน “โรคมะเร็ง” ยังคงเป็นโรคร้ายที่เป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในคนไทยเป็นอันดับ 1 ทั้งยังเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญลำดับต้นๆของประเทศไทย ศ.คลินิก พญ.สุดสวาท เลาหวินิจ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา กล่าวว่า การรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบันมีพัฒนาการรุดหน้าไปมาก ทั้งยาเคมีบำบัด รังสีรักษา การรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted therapy) รวมถึงการรักษาด้วยแอนติบอดีและภูมิคุ้มกันบำบัด หรือ “Immunotherapy” จนมะเร็งหลายชนิดมีโอกาสรักษาให้หายขาด

อย่างไรก็ตาม มะเร็งระยะแพร่กระจายจำนวนมากไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ก็สามารถยับยั้งการเติบโตและการแพร่กระจายของโรคมะเร็งได้ระดับหนึ่งด้วยการรักษาแบบมาตรฐาน โรคมะเร็งชนิดเดียวกันในผู้ป่วยแต่ละรายอาจตอบสนองต่อการรักษาแบบมาตรฐานต่างกัน ผู้ป่วยบางรายได้ผลดี ผู้ป่วยบางรายอาจไม่ได้ผล ซึ่งอาจเป็นผลจากพันธุกรรมของมะเร็งในตัวผู้ป่วยที่แตกต่างกัน

ด้วยความก้าวหน้าของการแพทย์ ล่าสุดได้มีการนำเทคโนโลยีในการวินิจฉัยมาช่วยในการรักษาโรคมะเร็งที่เรียกว่า “Personalized Medicine” หรือ “Precision Medicine” ซึ่งก็คือ “การรักษาเฉพาะบุคคล” ด้วยการที่นักวิจัยและแพทย์จะทำการตรวจสอบระดับโมเลกุล (Molecular Profiling) ของก้อนมะเร็งของผู้ป่วย โดยการตรวจพันธุกรรมของก้อนมะเร็งและโปรตีนที่สร้างจากเซลล์มะเร็งโดยละเอียด ทำให้สามารถเข้าใจในรายละเอียดของพันธุกรรมและสารอื่นๆของมะเร็งในผู้ป่วยคนนั้นๆที่เป็นตัวทำให้มะเร็งในผู้ป่วยแต่ละรายเติบโตและแพร่กระจาย

จากการค้นพบความผิดปรกติในระดับพันธุกรรม รวมทั้งโปรตีนที่สร้างจากเซลล์มะเร็งในผู้ป่วยเฉพาะราย จะช่วยให้แพทย์สามารถคัดเลือกยารักษาโรคมะเร็งได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นยามุ่งเป้า (Targeted therapy) หรือแม้แต่ยาเคมีบำบัดที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย และยังสามารถลดการใช้ยารักษาโรคมะเร็งที่อาจไม่ได้ผลดีและนำไปสู่ผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้

สำหรับ “เทคนิคการตรวจสอบระดับโมเลกุล (Molecular Profiling) ของก้อนมะเร็ง” ใช้วิธีการนำชิ้นเนื้อมะเร็งของผู้ป่วยไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานด้วยวิธีการทดสอบหลากหลายวิธี เช่น Next Generation Sequencing, Immunohistochemistry เป็นต้น ในต่างประเทศแพทย์อาจแนะนำการตรวจระดับโมเลกุลของก้อนมะเร็งในโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่, โรคมะเร็งปอด, ผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะแพร่กระจายบางรายที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษามาตรฐานแล้ว

จากการตรวจวิธีนี้มีแนวโน้มที่จะค้นพบความผิดปรกติทางพันธุกรรมหรือโปรตีนที่สร้างจากมะเร็ง และนำไปสู่การคัดเลือกยารักษามะเร็งที่เหมาะสมในผู้ป่วยรายนั้นๆได้ อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบระดับโมเลกุลยังมีข้อจำกัดอยู่ เนื่องจากการวินิจฉัยยังมีข้อมูลจำกัดอยู่เพียงมะเร็งระยะแพร่กระจายเท่านั้น และราคาค่าตรวจค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีการใช้ในต่างประเทศเพียงบางประเทศ

สำหรับประเทศไทยการตรวจสอบระดับโมเลกุลของก้อนมะเร็งยังมีการใช้อย่างจำกัดในโรงพยาบาลเอกชนบางแห่ง แต่หากในอนาคตอันใกล้การตรวจวิธีนี้มีข้อมูลเพิ่มมากขึ้นในมะเร็งชนิดต่างๆและราคาถูกลง ก็จะนำไปสู่การใช้ที่แพร่หลายมากขึ้น และสามารถเป็นทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่งให้ผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทยได้เข้าถึงต่อไป


You must be logged in to post a comment Login