- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 1 day ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 4 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 7 days ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
- ลูกผู้ชายตัวจริงPosted 2 weeks ago
โรคฮิตคนทำงาน…เครียดลงกระเพาะ / ผศ.พญ.มณฑิรา มณีรัตนะพร
![](https://www.lokwannee.com/web2013/wp-content/uploads/2018/08/676-573-300x187.jpg)
คอลัมน์ : พบหมอศิริราช
ผู้เขียน : ผศ.พญ.มณฑิรา มณีรัตนะพร
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่วันที่ 3-10 สิงหาคม 2561)
เรามักจะได้ยินอยู่เสมอว่าคนที่มีอาการปวดท้องบ่อยๆ สาเหตุน่าจะมาจากเครียดลงกระเพาะ เป็นไปได้อย่างไร มารู้จักโรคนี้กัน
ปรกติโรคกระเพาะจะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มที่มีแผลและกลุ่มที่ไม่มีแผล ส่วนใหญ่ผู้ที่ประสบภาวะเครียดลงกระเพาะจะเกิดกับโรคกระเพาะกลุ่มที่ไม่มีแผล โดยส่วนใหญ่มีอาการปวดจุกบริเวณลิ้นปี่ เป็นๆหายๆ มักจะเกิดหลังรับประทานอาหาร ถ้าคนไข้มีภาวะเครียดก็อาจทำให้อาการกำเริบ ทำให้มีอาการบ่อยขึ้นและรุนแรงขึ้นได้เช่นกัน
อาการของภาวะเครียดลงกระเพาะ ส่วนใหญ่จะมีอาการปวด จุก แน่น แสบบริเวณลิ้นปี่ มักจะเกิดหลังจากรับประทานอาหาร อย่างไรก็ตาม อาจจะเกิดอาการระหว่างมื้ออาหารได้เช่นเดียวกัน อาการมักไม่รุนแรง เป็นๆหายๆ มีเพียงส่วนน้อยที่มีอาการรุนแรงมาก ส่วนการถ่ายอุจจาระที่ผิดปรกติหรือมีอาการแสบที่ยอดอกนั้นมักเป็นผลจากการที่มีโรคร่วม เช่น โรคลำไส้แปรปรวน โรคกรดไหลย้อน ตามลำดับ
โดยเบื้องต้นแล้วหากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ คุณหมอจะให้คำแนะนำกับผู้ป่วยให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร
อันดับแรกคือ รับประทานอาหารให้ตรงเวลา หมายถึงคนไข้รับประทานอาหารเวลาไหนก็ให้รับประทานเวลานั้นทุกวัน
อันดับสองคือ ชนิดของอาหาร จะต้องเลือกชนิดของอาหาร อาหารบางชนิดจะกระตุ้นให้เกิดอาการค่อนข้างบ่อย เช่น อาหารที่มีรสจัดจะทำให้เกิดอาการแสบหรือปวดท้องได้บ่อยขึ้น และอาหารมันมักจะทำให้เกิดอาการจุก แน่นท้อง และต้องหลีกเลี่ยงยาหรือสารบางอย่างที่ทำให้มีอาการมากขึ้น เช่น ยาแก้ปวดกลุ่มแอสไพริน กลุ่มเอ็นเสด
นอกจากนั้นการดูแลสุขภาพทั่วไป เช่น การออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะลดปัญหาอาการกำเริบได้ หากปฏิบัติเบื้องต้นแล้วอาการยังไม่ทุเลา แนะนำให้พบคุณหมอเพื่อตรวจเพิ่มเติมตามเหมาะสม และใช้ยาเพื่อบรรเทาอาการได้
เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วคนไข้มักจะมีอาการเรื้อรัง พบว่าประมาณ 50% ของผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นได้ 30% ของผู้ป่วยจะมีอาการเป็นๆหายๆ ในขณะที่ 20% ของผู้ป่วยจะมีอาการต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ถ้าผู้ป่วยมีอาการดังต่อไปนี้ เช่น น้ำหนักลดลงโดยไม่ทราบสาเหตุ รับประทานอาหารได้น้อยลง อิ่มเร็วขึ้น มีถ่ายอุจจาระดำ หรือมีอาการคลื่นไส้อาเจียนเรื้อรัง หากมีอาการดังกล่าวแนะนำให้ตรวจเพิ่มเติม ปรึกษาคุณหมอ สืบค้นเพิ่มเติม เพื่อพิจารณาดูว่าจะเกิดภาวะหรือโรคอื่นๆแทรกซ้อนขึ้นมาหรือไม่
You must be logged in to post a comment Login