วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

กลิ่นอุจจาระช่วยชีวิต / โดย ศิลป์ อิศเรศ

On August 3, 2018

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

(โลกวันนี้วันสุข  ประจำวันที่วันที่ 3-10 สิงหาคม 2561)

ภายในห้องผ่าตัดจำลองจำเป็นต้องสร้างสภาพแวดล้อมใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริงเพื่อให้แพทย์และพยาบาลเกิดความคุ้นเคย หุ่นคนไข้ไฮเทคถูกสร้างให้มีอวัยวะภายในเหมือนมนุษย์ทุกอย่าง เมื่อผ่าช่องท้องจะมองเห็นลำไส้ แต่สิ่งที่ยังขาดไปคือกลิ่นอุจจาระที่อาจโชยออกมาจากลำไส้ใหญ่

คาตา คอนด์ เป็นอาจารย์บรรยายให้กับนักศึกษาแพทย์ที่มหาวิทยาลัยมิดอเมริกา นาซาเรน ในรัฐแคนซัส ก่อนหน้านี้เธอทำหน้าที่นางพยาบาลนานกว่า 30 ปี พบเจอคนไข้มากมาย หลายครั้งที่เธอเห็นคนไข้อุจจาระรดเตียง หลายครั้งที่ได้ช่วยแพทย์ผ่าตัดเปิดลำไส้ใหญ่ กลิ่นอุจจาระลอยคลุ้งออกมาปะทะจมูกจนแพทย์และพยาบาลบางคนต้องเบือนหน้าหนี

การไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ทำให้การผ่าตัดหยุดชะงักลงชั่วขณะ หากคาตาสามารถจำลองเหตุการณ์ได้ใกล้เคียงกับความจริงมากที่สุดจะทำให้แพทย์และพยาบาลรุ่นใหม่ๆสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เธอจึงจำลองสถานการณ์ที่น่าสะอิดสะเอียนโดยใช้ช็อกโกแลตผสมกับไอซิ่ง และสร้างกลิ่นด้วย “ลิควิด แอส”

แค้นต้องชำระ

ราว 30 ปีก่อน อัลเลน วิตแมน นักเรียนมัธยมฯปลาย ได้รับของขวัญจากบิดาเป็นชุดทดลองเคมี เขาผสมน้ำยาเคมีมั่วๆ ผสมไปผสมมาก็เกิดกลิ่นเหม็นคลุ้งเหมือนกลิ่นสิ่งปฏิกูล อัลเลนเกิดไอเดียเอามันไปแกล้งเพื่อนที่โรงเรียนตามประสาเด็กวัยรุ่น

วันรุ่งขึ้นอัลเลนตรงไปที่โรงยิมขณะที่กำลังมีการแข่งขันบาสเกตบอล เขานำน้ำยาเคมีที่ผสมมาเมื่อคืนประมาณ 100 มิลลิลิตร เทราดลงไปยังเครื่องทำความร้อนในห้องโถงใกล้กับโรงยิม เมื่อถึงเวลาพักครึ่งแรกผู้คนต่างเปิดประตูโรงยิมออกกว้างเพื่อไล่กลิ่นเหม็นออกไปจากห้องโดยไม่สนใจว่าขณะนั้นหิมะกำลังตกหนัก

อัลเลนเก็บอาวุธลับที่เหลือและไม่เคยนำมันออกมาใช้อีกจนกระทั่งเขาเรียนจบมหาวิทยาลัย เข้าทำงานในตำแหน่งวิศวกรที่โรงงานประกอบรถบรรทุกแห่งหนึ่งในรัฐอิลลินอยส์ ซึ่งที่นี่เองอัลเลนพบกับแอนดรูว์ มาสเตอร์ ทั้งคู่สนิทสนมกันอย่างรวดเร็ว แต่แล้ววันหนึ่งบริษัทก็มีจดหมายแจ้งมาว่าจะยุบแผนกที่อัลเลนและแอนดรูว์ทำงานอยู่

อัลเลนและแอนดรูว์ปรึกษากัน มีความเห็นว่าไม่ยุติธรรมที่บริษัทจะเลิกจ้างพวกเขาแล้วไปจ้างคนนอกจากบริษัทอื่นมาทำหน้าที่แทน ดังนั้น พวกเขาตกลงกันว่าจะต้องเอาคืน ถึงเวลาที่จะนำอาวุธลับออกมาใช้อีกครั้ง

บ้าก็บ้าวะ

อัลเลนและแอนดรูว์นำอาวุธลับที่ถูกเก็บไว้นานถึง 15 ปีมาที่ทำงาน ก่อนจะเทราดลงข้างๆเตาไมโครเวฟภายในห้องพักพนักงาน ไม่นานนักกลิ่นอุจจาระก็โชยคลุ้งไปทั่วพื้นที่ 9,000 ตารางฟุต ตอนแรกนั้นกลิ่นคล้ายแก๊สรั่ว มีคนนำพัดลมมาเป่าในห้องพักพนักงานเพื่อไล่กลิ่น คนที่เดินผ่านจะอุดจมูกหรือไม่ก็ดึงคอเสื้อขึ้นมาปิดจมูก

สักพักกลิ่นเหม็นเริ่มรุนแรงขึ้น พนักงานฝ่ายดูแลอาคารช่วยกันค้นหาที่มาของกลิ่น พวกเขารื้อท่อระบายน้ำ รื้อพรมออก ยกเตาไมโครเวฟออกจากห้อง และสุดท้ายก็ปิดตายห้องน้ำห้ามใช้ แต่กลิ่นก็ยังคงอยู่

การล้างแค้นประสบความสำเร็จ แต่อัลเลนและแอนดรูว์กลายเป็นคนตกงาน พวกเขาปรึกษากันว่าไหนๆก็ไม่มีงานทำแล้วมาทำอาวุธลับขายกันดีกว่า อัลเลนและแอนดรูว์ลงขันกันคนละ 18,000 ดอลลาร์ เพื่อใช้เป็นทุนผลิตน้ำยากลิ่นอุจจาระวางขายให้กับเด็กเกรียนที่ชอบแกล้งชาวบ้าน โดยตั้งชื่อว่า “ลิควิด แอส”

ครอบครัวของอัลเลนและแอนดรูว์ต่างคิดว่าพวกเขาบ้าไปแล้ว คนดีๆที่ไหนจะซื้อของเหม็นๆไปใช้ แต่ทั้งคู่ก็ยืนกรานว่าตัดสินใจดีแล้ว อาวุธลับของพวกเขามีประสิทธิภาพร้ายแรงมาก หากไม่เชื่อก็ไปถามคนที่โรงงานประกอบรถบรรทุกได้

เหม็นปลอมๆ

ปัญหาก็คืออัลเลนจำไม่ได้ว่าเขาผสมน้ำยาเคมีอะไรบ้างจึงได้กลิ่นเหมือนอุจจาระ เมื่อ 15 ปีก่อนเขาผสมมั่วๆแล้วก็ไม่ได้จดบันทึกเอาไว้ว่าใช้น้ำยาเคมีตัวไหน ปริมาณเท่าไร อัลเลนพยายามระลึกชาติ ลองผสมน้ำยาเคมีต่างๆหลายครั้งจนกระทั่งลงตัวได้กลิ่นอุจจาระที่เป็นธรรมชาติจนแยกไม่ออก

ปี 2005 อัลเลนและแอนดรูว์ก่อตั้งบริษัท ลิควิด แอส โนเวลตี้ส์ สินค้าวางตลาดได้เพียง 2 ปีก็ฮิตติดตลาด มียอดขายถล่มทลาย กลิ่นที่เหมือนของจริงมากทำให้บางคนกังวลว่าลิควิด แอส อาจมีอุจจาระจริงเป็นส่วนผสม

ลูกค้าคนหนึ่งถูกบริษัทผลิตไฟฟ้าเอกชนปรับเป็นเงิน 200 ดอลลาร์ เขาโกรธมากจึงบอกกับเจ้าหน้าที่บริษัทผลิตไฟฟ้าว่าจะนำเงินไปจ่ายวันรุ่งขึ้น คืนนั้นเขาเขียนเช็คสั่งจ่ายบริษัทผลิตไฟฟ้าแล้วฉีดน้ำยาลิควิด แอส ลงบนเช็ค ปล่อยทิ้งให้แห้งแล้วนำใส่ลงในซอง

วันรุ่งขึ้นเขานำเช็คไปส่งที่บริษัทผลิตไฟฟ้าก่อนจะรีบออกมาอย่างรวดเร็ว วันต่อมาเขาถูกตำรวจเรียกตัวไปให้ปากคำ เพราะอาจถูกเล่นงานในข้อหาจงใจจ่ายเช็คปนเปื้อนสิ่งปฏิกูล แต่หลังจากกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบแล้วไม่พบว่าเช็คมีการปนเปื้อน ซึ่งนั่นพิสูจน์ได้ว่าลิควิด แอส ไม่มีอุจจาระเป็นส่วนผสมแต่อย่างใด

จากโรงพยาบาลถึงกองทัพ

แรกๆลิควิด แอส ถูกขายให้กับกลุ่มเด็กเกรียนที่ชอบแกล้งคน แต่ประสิทธิภาพที่เหมือนของจริงจนแยกไม่ออกทำให้วงการแพทย์เริ่มให้ความสนใจ สั่งซื้อมาใช้ในห้องผ่าตัดจำลองเพื่อสร้างสถานการณ์ให้ใกล้เคียงกับเหตุการณ์จริงมากที่สุด

ต่อมากองทัพนำลิควิด แอส มาใช้ในการฝึกทหารเสนารักษ์ แต่เดิมนั้นการฝึกทหารเสนารักษ์ใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า “คัตสูท” มีลักษณะคล้ายผิวหนังคน เมื่อกรีดมีดผ่าลงไปจะพบลำไส้เทียม ภายในลำไส้ถูกยัดด้วยข้าวโอ๊ต แต่อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าในสถานการณ์จริงการผ่าลำไส้คนไข้บางครั้งจะมีกลิ่นอุจจาระโชยออกมา หากทหารเสนารักษ์ไม่คุ้นชินจะเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ภาคสนาม

ปัจจุบันลิควิด แอส ขยายไปสู่วงการวิทยาศาสตร์ มันถูกนำมาใช้เพื่อศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์ที่มีต่อสิ่งน่าสะอิดสะเอียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาเกี่ยวกับอิทธิพลของกลิ่นกับพฤติกรรมมนุษย์

อัลเลนและแอนดรูว์ยอมรับว่าพวกเขาไม่ได้ร่ำรวยถึงขั้นเป็นเศรษฐี แต่อย่างน้อยก็มีรายได้มากกว่าตอนที่ทำงานประจำ ขณะที่ทำงานเพียงวันละ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

676-1

1.ลิควิด แอส

676-2

2.อัลเลน (หน้า) และแอนดรูว์

676-3

3.อัลเลนและแอนดรูว์กับลิควิด แอส

676-4

4.คาตา คอนด์

676-5

5.คาตากับนักศึกษาพยาบาล

676-6

6.ชุดคัตสูท

676-7

7.ส่วนประกอบชุดคัตสูท

676-8

8.ทหารเสนารักษ์กับหุ่นคนไข้

676-9

9.ทหารเสนารักษ์กับหุ่นคนเจ็บในสถานการณ์จำลอง


You must be logged in to post a comment Login