- ลองเป่าเศรษฐกิจให้โป่งทีPosted 2 days ago
- วัดสวนแก้วจัดงานต้อนรับปีใหม่Posted 3 days ago
- ขอให้คนไทยมีสติPosted 3 days ago
- ธรรมะใช้ได้ทุกวงการPosted 4 days ago
- ช่วยขจัดเหตุความชั่วร้ายPosted 6 days ago
- ใครเป็นนายกฯตัวจริงPosted 1 week ago
- ชอบผู้นำสไตล์ไหนPosted 1 week ago
- เมื่อความเจ็บป่วยมาเยือนPosted 2 weeks ago
- ไต่บันไดทีละขั้นดีกว่าPosted 2 weeks ago
- เกิดเป็นคนต้องสู้Posted 2 weeks ago
คำสาบาน / โดย พระพยอม กัลยาโณ
คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ
“สุภรณ์ อัตถาวงศ์” เจ้าของฉายา “แรมโบ้อีสาน” ที่เคยประกาศเป็นคนเสื้อแดงที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และได้สาบานกับ “ท้าวสุรนารี” หรือ “ย่าโม” จะเลิกเล่นการเมืองอย่างเด็ดขาด แต่วันนี้กลับออกมาบอกว่าขอถอนคำสาบานกับย่าโม เพื่อร่วมกับ “กลุ่มสามมิตร” สนับสนุน “ลุงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี ย่าโมคงจะงง เพราะยืนเป็นรูปปั้นมายาวนาน ไม่เคยมีใครมาขอถอนคำสาบาน
การกลับมาเล่นการเมืองของคุณสุภรณ์เป็นไปตามกระแสการเมืองขณะนี้ที่กลุ่มสามมิตรมีการดึงทั้งอดีต ส.ส. และแกนนำการเมืองกลุ่มต่างๆเพื่อสังกัดพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุน “ลุงตู่” หรือพรรคที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลทหารอยู่เบื้องหลัง
แม้แต่พรรคของ “กำนันสุเทพ” ยังประกาศเรียกความเชื่อมั่นคนที่จะมาร่วมพรรคว่าได้เป็นรัฐบาลแน่ๆ ทำให้การเมืองเป็นเรื่องผลประโยชน์และอำนาจ เพราะทุกพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต่างๆที่สนับสนุน “ลุงตู่” ต่างก็มีข่าวเรื่องผลประโยชน์ต่างๆ
กรณีคุณสุภรณ์เรียกว่ามาแปลก อาตมาเพิ่งได้ยินครั้งแรกในชีวิตเรื่องขอถอนคำสาบาน เพราะนักการเมืองชอบสาบาน แต่เวลาทำอะไรที่ผิดคำสาบานก็บอกว่าไม่เคยสาบานหรือทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นไป กรณีคุณสุภรณ์แสดงว่ายังมีจิตใจเชื่อความศักดิ์สิทธิ์ของย่าโม แต่ความเชื่อกับความอยากเป็นเรื่องน่ากลัวหากเป็นไปเพื่อผลประโยชน์หรืออำนาจ ไม่ว่าจะเพื่อใครก็ตาม
คงต้องหาปรอทมาวัดปริมาณความอยากกับคำสาบานว่าอะไรมากกว่ากัน หากรักษาคำพูดหรือคำสาบานก็ต้องมีความมั่นคงเข้มแข็ง ไม่ถอนคำสาบาน จึงทำให้มีคำถามว่าเป็นเพราะอารมณ์ความอยากมี อยากได้ หรืออยากเป็นหรือไม่
ถ้าการเมืองเป็นอย่างนี้จะทำให้ประชาชนเบื่อหรือหมดศรัทธานักการเมือง อย่างที่โบราณบอกว่าคนเรามักไม่มีอะไรที่แน่นอนถาวร เบื่อๆอยากๆตลอดชีวิต ไม่มีอะไรที่เป็นมาตรฐาน โดยเฉพาะเรื่องการเมือง นักการเมือง อย่างที่มีการเล่าว่านักการเมืองขับรถคว่ำ ชาวบ้านก็รุมจะไปแย่งสร้อย นาฬิกา ของมีค่าต่างๆ พอนักการเมืองร้องว่ายังไม่ตาย เท่านั้นแหละชาวบ้านก็รุมกันแย่งของมีค่าต่างๆกันใหญ่เลย เพราะนักการเมืองพูดอะไรก็มักจะเป็นไปอย่างตรงข้าม พูดขาวก็จะเป็นดำ พูดดำก็จะเป็นขาว ถ้าพูดว่าตายก็จะไม่ตาย ถ้าพูดว่าไม่ตายก็คือตาย
อันนี้เป็นเรื่องที่เล่ากันสนุกๆ เพื่อให้เห็นธรรมชาติของมนุษย์ว่าไม่มีอะไรแน่นอน อย่าไปเอาอะไรแน่นอนกับมนุษย์ คำพูดที่พูดไปแล้วไม่ทำ ไม่จำ มีให้เห็นมากมาย จึงมีคำที่ว่า “คำพูดเป็นนาย” คือคนเราเมื่อพูดอะไรไปแล้วจะลบล้างไม่ได้ คนที่รักษาคำพูดถือเป็นคนที่น่าเชื่อถือ เป็นผู้กล้า
เจริญพร
You must be logged in to post a comment Login