วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

งัดกม.สู้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน

On August 8, 2018

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมว่า ฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) ร่วมด้วยกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร เห็นพ้องว่าแนวทางปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการเบ็ดเสร็จร่วม (เจซีพีโอเอ) ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน คือข้อตกลงระหว่างประเทศที่มีความสำคัญต่อเสถียรภาพและเศรษฐกิจของโลก

ด้วยเหตุนี้เพื่อปกป้องเศรษฐกิจของยุโรปให้สามารถดำเนินธุรกรรมกับอิหร่านได้ต่อไป ตามกฎหมายของอียู และอาศัยความตามอำนาจในมติหมายเลข 2231 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อียูจึงมีมติฉุกเฉินในการใช้ธรรมนูญการป้องกันฉบับแก้ไข โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมเป็นต้นไป โดยอียูหวังเป็นอย่างยิ่งว่าอิหร่านจะยังคงยึดมั่นและปฏิบัติตามแนวทางของเจซีพีโอเออย่างเคร่งครัดต่อไป

ทั้งนี้ สาระสำคัญของธรรมนูญการป้องกัน รวมถึงการอนุญาตให้ผู้ประกอบการจากอียูที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่าน สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากรัฐบาลสหรัฐได้ และบริษัทของอียูไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่ออิหร่าน เว้นแต่ได้รับมอบหมายโดยตรงจากคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) อนึ่ง อียูเคยใช้ธรรมนูญการป้องกันมาแล้วเมื่อปี 2539 เพื่อสกัดกั้นมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐต่อคิวบา

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของอียูมีขึ้นหลังจากสหรัฐกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านอย่างเต็มรูปแบบ โดยรัฐบาลอิหร่านจะไม่สามารถสำรองเงินดอลลาร์สหรัฐได้อีก และขอบเขตของมาตรการกดดันทางเศรษฐกิจจะครอบคลุมภาคอุตสาหกรรมและภาคการพลังงาน โดยเฉพาะน้ำมันดิบของอิหร่าน

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กล่าวว่า อิหร่านกำลังเดินมาถึงทางสองแพร่ง ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ และสหรัฐพร้อมเจรจากับรัฐบาลอิหร่านเสมอเพื่อเปลี่ยนแปลงข้อตกลงนิวเคลียร์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ขณะที่ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่าน กล่าวถึงข้อเสนอของประธานาธิบดีทรัมป์เพียงว่า ตราบใดที่ศัตรูยังคงมีดใช้ปักหลังของคุณแล้วบอกว่าต้องการเจรจา สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือเอามีดเล่มนั้นออกจากหลังเสียก่อน


You must be logged in to post a comment Login