- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
เข้าพรรคไหนดี?
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
เส้นทางหวนคืนสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งของ “บิ๊กตู่” ถูกทำให้ชัดเจนอีกระดับจากปากคำของ “หม่อมเต่า” ที่เน้นย้ำว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยพร้อมยกมือสนับสนุนในสภา แต่มีเงื่อนไขว่า “บิ๊กตู่” ต้องมาทางตรงด้วยการมีชื่ออยู่ในบัญชีผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกฯของพรรคการเมือง เพราะจะสง่างามกว่าและไม่ต้องอธิบายกับประชาชนให้มากความเหมือนมาจากนอกบัญชีพรรคการเมือง ที่สำคัญใช้เสียงโหวตสนับสนุนในสภาน้อยกว่า จึงน่าสนใจว่าชื่อของ “บิ๊กตู่” จะไปปรากฏเป็น 1 ใน 3 รายชื่อผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกฯในบัญชีพรรคการเมืองใด เมื่อมีเงื่อนไขว่าพรรคการเมืองนั้นต้องมี ส.ส. ไม่ต่ำกว่า 25 เสียง จึงมีสิทธิเสนอชื่อในบัญชีชิงเก้าอี้นายกฯในสภาได้
รัฐบาลทหาร คสช. ทำงานมาครบ 4 ปี ใครบ่นว่าไม่เห็นมีผลงานอะไรก็ขอให้ไปหาหนังสือรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ปีที่ 3 ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2559-12 กันยายน 2560 มาอ่านดู จะได้รู้ว่ารัฐบาลทหาร คสช. ทำอะไรไปแล้วบ้าง มีอะไรที่เอามาอวดอ้างเป็นผลงานกับประชาชนบ้าง ซึ่งรายงานดังกล่าวมีทั้งหมด 461 หน้า พิมพ์ครั้งแรก 5,000 เล่ม
ที่ต้องถือว่าเซอร์ไพรส์อยู่พอสมควรเห็นจะเป็นการเน้นย้ำผลงานการสร้างความสามัคคีปรองดองและสร้างวัฒนธรรมการเมืองตามระบอบประชาธิปไตย โดยมีเป้าหมายจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยตำบลเพื่อสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย 7,428 แห่งทั่วประเทศ ส่วนผลการสร้างความสามัคคีปรองดองและการสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตยเป็นอย่างไรประชาชนคงรับรู้และสัมผัสได้
อีกเรื่องที่หยิบยกขึ้นมาโชว์อย่างโดดเด่นคือการปัดเป่าความทุกข์ให้ประชาชน โดยตลอดระยะเวลาทำงาน 3 ปีที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าร้องทุกข์ผ่านศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ 3,212,070 เรื่อง แก้ไขแล้วเสร็จ 3,160,213 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 51,857 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 98.39 เมื่อดูจากเรื่องที่ปัดเป่าทุกข์ให้ประชาชนสำเร็จถือว่าทำงานค่อนข้างมีประสิทธิภาพ
เมื่อการทำงานมีประสิทธิภาพแบบนี้จึงไม่แปลกที่จะมีนักการเมือง นักเคลื่อนไหว ต่างจ้องหวังอาศัยบารมีของ “บิ๊กตู่” ช่วยให้ประสบความสำเร็จในสนามเลือกตั้ง โดยการแย่งกันประกาศเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้ “บิ๊กตู่” กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง ซึ่งก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวไม่ปฏิเสธความหวังดีของบรรดานักการเมืองและนักเคลื่อนไหวทางการเมืองเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม การนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหลังการเลือกตั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะถือแต้มต่ออยู่ 250 เสียงจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ คสช. แต่งตั้งไว้ก่อนลงจากอำนาจ เพราะกระแสไม่เอานายกฯคนนอกที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งค่อนข้างแรง
กลุ่มสามมิตรและกลุ่มอื่นที่ประกาศหนุน “บิ๊กตู่” จะคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้และจะมีทางออกให้ “บิ๊กตู่” อย่างไรยังไม่แน่ชัด แต่สำหรับพรรครวมพลังประชาชาติไทยที่มี “หม่อมเต่า” ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล เป็นว่าที่หัวหน้าพรรค ยื่นเงื่อนไขชัดเจนแล้วว่า หากอยากให้พรรครวมพลังประชาชาติไทยยกมือหนุนเป็นนายกฯ “บิ๊กตู่” ต้องมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อพรรคการเมือง จะมีรายชื่อเสนอชิงเก้าอี้นายกฯในบัญชีของพรรคใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีชื่อในบัญชีของพรรครวมพลังประชาชาติไทย
ทั้งนี้ “หม่อมเต่า” ให้เหตุผลว่าเพื่อความสง่างามและไม่ต้องอธิบายกับประชาชนให้มากความเหมือนการเข้ามาเป็นนายกฯนอกบัญชีพรรคการเมือง
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอของ “หม่อมเต่า” หากดูเผินๆเหมือนอยากให้ “บิ๊กตู่” เข้าตามตรอกออกตามประตูเพื่อความสง่างามและการยอมรับ แต่ลึกๆแล้วอาจเพราะไม่มั่นใจว่าการเข้ามาเป็นนายกฯนอกบัญชีพรรคการเมืองจะทำได้ง่าย
เนื่องจากมีขั้นตอนที่ต้องใช้เสียงสนับสนุนในสภาค่อนข้างมาก คือหากจะเสนอชื่อคนนอกบัญชีพรรคการเมืองชิงเก้าอี้นายกฯต้องเสนอเป็นญัตติ และต้องใช้เสียงรับรองญัตติมากถึง 500 เสียง แม้จะมี ส.ว. แต่งตั้งรอไว้แล้ว 250 เสียง แต่การจะหาอีก 250 เสียงจาก ส.ส. ให้สนับสนุนก็ไม่ง่าย พรรคที่ประกาศหนุน “บิ๊กตู่” รวมกันทั้งหมดแล้วจะได้กี่เสียงยังยากจะคาดเดา
ดังนั้น การมาทางตรงคือมีชื่ออยู่ในบัญชีพรรคการเมืองเสนอเป็นนายกฯอาจง่ายกว่า เพราะใช้เสียงโหวตหนุนแค่ 375 เสียง
แม้ทางนี้จะดูเหมือนสะดวกกว่า ง่ายกว่า แต่จะเอาชื่อ “บิ๊กตู่” ไปใส่ไว้ในบัญชีผู้เข้าชิงตำแหน่งนายกฯของพรรคใดก็ยังต้องคิดหนัก เพราะคนที่มีสิทธิเข้าชิงนายกฯ แม้จะมีชื่อในบัญชีพรรคแต่ก็มีเงื่อนไขว่าพรรคนั้นต้องได้ ส.ส. ไม่ต่ำกว่า 25 เสียง จึงจะมีสิทธิถูกเสนอชื่อให้โหวตในสภาได้
เมื่อดูตามเงื่อนไขทั้งหมดแล้ว หากจะเข้าสู่อำนาจผ่านพรรคการเมือง ชื่อของ “บิ๊กตู่” น่าจะอยู่ในบัญชีของพรรคการเมืองที่มีกลุ่มสามมิตรเป็นพลังขับเคลื่อนมากกว่าจะมีชื่อในบัญชีพรรคอื่น
You must be logged in to post a comment Login