- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
ยุคคนมีสี! / โดย นายหัวดี

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
“กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย” ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซหุงต้ม ตรึงราคาน้ำมันดีเซลและแก๊สโซฮอล์ รวมถึงเพิ่มเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นเดือนละ 3,000 บาท เพิ่มเงินเดือนพนักงานของรัฐและข้าราชการระดับปริญญาตรีเป็นเดือนละ 20,000 บาท บรรจุพนักงานของรัฐที่ทำงานครบ 1 ปีเป็นข้าราชการประจำ โดยปรับลดงบประมาณรายจ่ายที่สิ้นเปลือง โดยเฉพาะการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ การรับเงินเดือน 2 ตำแหน่ง และลดอัตรากำลังนายพลที่ล้นเกิน ฯลฯ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ “ทั่นผู้นำ” ก็หงุดหงิดเป็นธรรมดาและย้อนถามว่า “ถ้าไม่มีทหารแล้วจะทำอย่างไร?” เพราะวันนี้ทหารต้องทำหลายอย่าง โดยเฉพาะการช่วยเหลือในยามวิกฤต เพราะทุกกระทรวง ทุกหน่วยงาน ไม่มีกำลังพล ทั้งทหารกินนอนอยู่ในค่าย เรียกรวมพลเมื่อไรก็สามารถขึ้นรถพร้อมไปในพื้นที่ได้เร็วกว่าส่วนอื่นๆ
เมื่อย้อนดูตั้งแต่มีการรัฐประหารปี 2549 “ยุคทหารครองเมือง” ปรากฏว่างบกระทรวงกลาโหมเพิ่มสูงขึ้น 3 เท่า คือจาก 85,936 ล้านบาทปี 2549 เป็น 222,437 ล้านบาทปี 2561 ล่าสุดปี 2562 เพิ่มเป็น 329,200 ล้านบาท จากงบประมาณปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท งบความมั่นคงเพิ่มขึ้น 20.14% แต่งบเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ลดลง
เรื่องการจัดซื้อจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพและงบประมาณด้านความมั่นคงเป็นประเด็นที่มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเรียกร้องให้ยกเลิก “การเกณฑ์ทหาร” หรือลดจำนวน “ทหารเกณฑ์” เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ทางทหารที่เปลี่ยนไป
ทำให้มีคำถามว่าเมื่อประกาศจะ “ปฏิรูปประเทศ” แล้ว ทำไมจึงไม่กล้า “ปฏิรูปกองทัพ”?
You must be logged in to post a comment Login