วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

จีน/เยอรมนียันทำธุรกิจอิหร่าน

On August 10, 2018

กระทรวงต่างประเทศจีนแถลงว่า ทางการจีนคัดค้านมาตลอดเรื่องการประกาศมาตรการคว่ำบาตรแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐที่มีต่ออิหร่าน ซึ่งสหรัฐเริ่มบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกับอิหร่านอีกครั้งโดยมีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา หลังจากรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2558 ที่ทำไว้ร่วมกับชาติมหาอำนาจ นอกจากนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ยังทวีตข้อความว่า มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งนี้นับว่าสาหัสที่สุดเท่าที่เคยมีมา และบุคคลหรือบริษัทใดก็ตามที่ยังทำธุรกิจกับอิหร่านจะไม่สามารถทำธุรกิจกับสหรัฐได้

นายโมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะนึกภาพการเจรจาใหม่กับสหรัฐ หากมีการเจรจาใหม่ในขณะนี้อิหร่านจะเชื่อใจสหรัฐได้อย่างไร เพราะสหรัฐกลับกลอกไปมา ไม่มีใครเชื่อถืออีกแล้ว ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านมีขึ้นหลังจากรัฐบาลสหรัฐเริ่มบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอย่างเป็นทางการรอบแรก ในเวลาไล่เลี่ยกันประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าต้องการเจรจาทำข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่กับอิหร่าน

ทางด้านนายไฮโก มาสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี กล่าวว่า เยอรมนีจะยืนหยัดคัดค้านการตัดขาดการค้าขายกับอิหร่าน เพราะยังคงมองว่าการถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านคือความผิดพลาดมหันต์ และใครก็ตามที่หวังเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในอิหร่านต้องตระหนักว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือความวุ่นวายที่มีแต่จะยิ่งทำให้ปัญหาที่มีอยู่แล้วลุกลามไปอีก

ทั้งนี้ มาตรการคว่ำบาตรภาคพลังงานของอิหร่านจะมีผลในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ หรือหลังครบกำหนด 90 วันที่สหรัฐให้เป็นระยะเวลาผ่อนผันสำหรับพันธมิตรและประเทศคู่ค้าให้เตรียมยุติการซื้อขายน้ำมันดิบกับอิหร่าน ในขณะที่มาตรการคว่ำบาตรในส่วนอื่นมีผลตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อการสำรองเงินดอลลาร์สหรัฐ การซื้อขายเหล็กและถ่านหิน และอุตสาหกรรมยานยนต์


You must be logged in to post a comment Login