วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

โหนกระแสดารา / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On August 27, 2018

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

คำว่า “รู้ตัว” มีเสน่ห์มากหรือมีเสน่ห์น้อย รู้จักทำให้คนมาสนใจ อย่างนี้เรียกว่ารู้เรื่องการตลาด อย่างทีมงาน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พยายามดึงเรทติ้งดึงคะแนน ถ้าพูดคนเดียวก็ไม่มีใครสนใจ จึงต้องมีพิธีกรหญิงมาสลับบ้าง อย่างรายการเดินหน้าประเทศไทยก็เอาดารานักแสดงมาดึงคนดูคนฟัง จะเรียกว่าโหนกระแสดาราก็ได้

เอาล่ะ ความสวยงาม ความหล่อเหลา ก็ทำให้คนทั่วไปมีความชื่นชอบ อย่างเช่นดึงณเดชน์ คูกิมิยะ หรือโป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ มาร่วมรายการ ก็ต้องมีคนมาดู แฟนคลับก็เยอะ แต่การประชาสัมพันธ์ผลงานของรัฐบาลก็ต้องมีผลงานที่ทำให้ประชาชนถูกใจพอใจด้วยเหมือนกัน

นายกรัฐมนตรีก็รู้ตัว รู้ทัน รู้แก้ ว่าพูดคนเดียว ทำรายการคนเดียว คนก็อาจไม่ฟัง ไม่ดู ก็ต้องมีอะไรพิเศษ แม้แต่แต่งเพลงออกมา แต่ยังไม่ได้แสดงหนัง แสดงละคร ไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ ซึ่งอาจจะได้เห็นก็ได้ ไม่แน่เหมือนกัน เพราะหน้าตาท่านก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร หล่อเหลา หน้าตามีราศีว่างั้นเถอะ

อาตมายังนึกถึงพวกนักจัดรายการที่เอาดารามาโปรโมทที่วัด กระชากเรทติ้งได้มากทีเดียว จำได้ว่าปีหนึ่งเคยเอามะปรางไปให้คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา แกก็โปรโมทว่ากินหวานชื่นใจ คนก็มาวัดกันมากมายเลย แต่มีดารามาร่วมกับวัดไม่มาก ไม่เหมือนวัดที่มีพิธีกรรมต่างๆ อย่างวัดท่าไม้ วัดไผ่ล้อม จะมีดาราไปมาก วัดอาตมามีน้อยมาก ดาราที่มาครั้งแรกเห็นจะเป็นคุณไพโรจน์ สังวริบุตร พระเอกวัยอลวนนี่แหละ ต่อมาก็คุณสรพงษ์ ชาตรี บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ และเมื่อไม่กี่วันก็คุณนุ่น นางเอกชื่อดัง บางคนมาบวชก็มี แต่ก็ยังถือว่าน้อยมาก

การดึงดารา นักร้อง นักจัดรายการมาประชาสัมพันธ์ ได้ผลบ้างไม่มากก็น้อย ยิ่งตอนที่มีทุเรียน มะปราง มะม่วง จะมีคนมาทำบุญมาช่วยซื้อมากมาย ก็ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ เรื่องของโลกเรา เรื่องของดารา นักแสดง ถ้าไปวัดไหนก็ทำให้คนสนใจและตามมาอย่างมาก

การเอาดารา นักร้อง นักแสดง มาโหนกระแสเป็นเรื่องไม่ผิด แต่กระแสก็ต้องอยู่ที่ว่ามีผลงานหรือไม่ด้วย อย่างรัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีที่โหนกระแสดาราก็น่าจะได้ผลบ้าง แต่ถ้ามีผลงานให้คนชื่นชอบพอใจก็จะยิ่งทำให้ประชาชนยอมรับอำนาจ ยอมรับตำแหน่ง ดีกว่าจะโหนกระแสดาราอย่างเดียว

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login