- ตั้งสติให้ดี “โลกนี้ มีเกิด มีตาย”Posted 2 months ago
- อย่าหาเรื่องอยู่ร้อน นอนทุกข์Posted 2 months ago
- โลกธรรมPosted 2 months ago
- อนุโมทนา คนพิการสู้ชีวิตPosted 2 months ago
- สลายความเกลียดชังPosted 2 months ago
- สู้ดีกว่าลาโลกPosted 2 months ago
- ใช้คาถาพระพยอมบ้างPosted 2 months ago
- เสียงชื่นชมดีกว่าเขาด่าPosted 2 months ago
- ต้องใช้ยาแรงกับคนขายชาติPosted 2 months ago
- บทเรียนผู้เห็นกงจักรเป็นดอกบัวPosted 2 months ago
ภาวะย้อนแย้ง? / โดย นายหัวดี

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
“ปฏิรูปกองทัพ” ไม่ใช่ประเด็นใหม่ แต่เมื่อกองทัพมีข่าวในทางลบจะเป็นประเด็นร้อนที่แทงใจกองทัพทุกครั้ง โดยเฉพาะระยะหลังกรณี “ทหารเกณฑ์” และ “พลทหาร” ยิ่งทำให้มีเสียงเรียกร้องให้ยกเลิก “การเกณฑ์ทหาร”
“วัฒนา เมืองสุข” โพสต์เฟซบุ๊คว่า ภารกิจเร่งด่วนหลังการเลือกตั้งคือ “ปฏิรูปกองทัพ” ให้มีขนาดที่เหมาะสม มีความทันสมัยและมีขีดความสามารถต่อการป้องกันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เป็นกองทัพของประชาชนที่ปฏิบัติหน้าที่ตรงตามภารกิจ ไม่ซ้ำซ้อนและไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองจนกองทัพกลายเป็นภัยคุกคามเสียเอง
ปัจจุบันกองทัพมีกำลังประจำการประมาณ 335,000 นาย เมื่อรวม “ทหารเกณฑ์” ปีนี้กว่า 100,000 นาย ทำให้มีกำลังประจำการมากถึง 440,000 นาย ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับชาติมหาอำนาจที่มีขนาดและประชากรใกล้เคียงกัน โดยอังกฤษมี 150,000 นาย ฝรั่งเศส 215,000 นาย และเยอรมนี 180,000 นาย
ขณะที่ยุทธศาสตร์ทางทหารคือการ “ป้องกัน” ไม่ใช่ “รุกราน” ทั้งภูมิรัฐศาสตร์ของประเทศก็อยู่ท่ามกลางประชาคมอาเซียนและมิตรประเทศ การมีกำลังพลจำนวนมากจึงไม่มีความจำเป็นและเป็นภาระแก่งบประมาณ นับจากรัฐประหารปี 2549 งบประมาณกระทรวงกลาโหมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 85,000 ล้านบาท เป็น 227,000 ล้านบาทในปี 2562 เพิ่มขึ้นถึง 167%
การ “ปฏิรูปกองทัพ” จึงเป็นประเด็นร้อนทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง เช่นเดียวกับหลายพรรคการเมืองประกาศจะแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 และ “ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” รวมทั้งยกเลิกประกาศและคำสั่งของ คสช. หลายสิบฉบับที่กระทบสิทธิเสรีภาพของประชาชนและสิทธิมนุษยชน
การเลือกตั้งที่ยังเหมือน “ลูกผีลูกคน” ไม่ใช่แค่การต่อสู้ของพรรคการเมืองเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกอนาคตของกองทัพอีกด้วย!
You must be logged in to post a comment Login