วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

“ไบโอฟาร์ม”เปิดแผนธุรกิจครึ่งปีหลังรุกตลาดค้าปลีกขยายสู่ต่างประเทศ

On August 28, 2018

นายวีระพัฒน์ ถกลศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัดผู้จัดจำหน่ายเวชภัณฑ์คุณภาพชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังปี 2561ซึ่งเป็นการนับถอยหลังเพื่อฉลองปีที่ 45 ของไบโอฟาร์มในปี 2562 ว่า ไบโอฟาร์มจะมีการเคลื่อนไหวสำคัญหลายด้าน โดยจะมีการขยายตลาด Modern Trade และ Convenience Storeรวมไปถึงการเพิ่มช่องทางการสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ตผ่านทาง Biopharmshop.com และ Lazadaเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค โดยมียาลดกรดในกระเพาะอาหาร Belcid Forte เป็นตัวชูโรง

ไบโอฟาร์มจะมีการเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่ ของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแคลเซียม Calvin Plus รวมทั้งจะเปิดตัวบรรจุภัณฑ์ใหม่สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ โดยคาดว่าจะมีการนำบรรจุภัณฑ์ใหม่มาใช้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารครบทุกสินค้าในปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบ 45 ปีของไบโอฟาร์ม

นอกจากนี้ ไบโอฟาร์มจะร่วมกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรเพื่อส่งเสริมให้มีการใช้ยาสมุนไพรในโรงพยาบาลและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นช่องทางจำหน่ายที่เป็นจุดแข็งของไบโอฟาร์มมาตลอดกว่า 40 ปี และไบโอฟาร์มยังได้เตรียมเข้าร่วมงานนิทรรศการแสดงสินค้าและวัตถุดิบทางยาในระดับนานาชาติ(CPhI 2019) ที่จะจัดขึ้นต้นปีหน้าที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทยที่จะแสดงศักยภาพและมาตรฐานของอุตสาหกรรมยาสู่สายตาชาวโลก

สำหรับตลาดต่างประเทศ มีแผนที่จะขยายไปสู่กลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อาทิ เมียนมาร์  เวียดนาม และสปป.ลาว ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากที่ก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จในการเข้าไปเปิดตลาดในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซียและฟิลิปปินส์ มาแล้วนอกจากนี้ ไบโอฟาร์มยังเตรียมขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปเพิ่มเติมอีก 1-2 ประเทศ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของไบโอฟาร์มนั้นมีคุณภาพสูงพอที่จะเข้าไปเปิดตลาดได้ภายใน 1-2 ปีข้างหน้า

“ผลสำเร็จของการทำตลาดในช่วงครึ่งปีแรก และแผนงานที่แข็งแกร่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้คาดว่าในปีนี้ไบโอฟาร์มจะมีการเติบโตพอสมควรอย่างไรก็ตามเราไม่ได้หวังการเติบโตแบบก้าวกระโดดมากนัก แต่สิ่งที่เราจะเน้นในการดำเนินธุรกิจในปีที่ 45 คือการส่งเสริมให้เกิดการกระจายของยาคุณภาพสูงในสังคมมากขึ้นรวมทั้งการสนับสนุนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า และกรอบความคิดเวชศาสตร์ครอบครัวเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงยาคุณภาพสูงทุกชุมชนและครัวเรือน ตลอดจนการผลักดันผลิตภัณฑ์ยาและสมุนไพรไทยสู่ตลาด Mass และตลาดโลก โดยเราจะทำงานภายใต้ 3 แนวทางหลัก นั่นคือ การเพิ่มนวัตกรรม การประยุกต์ใช้และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ ซึ่งทั้ง 3 แนวทางจะถูกขับเคลื่อนอย่างถูกต้องและมีธรรมาภิบาล เพื่อส่งเสริมให้อุตสาหกรรมผลิตยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของประเทศไทยเติบโตและแข่งขันได้ในตลาดสากล”นายวีระพัฒน์ กล่าว

นอกจากการขยายธุรกิจแล้ว ไบโอฟาร์มยังให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมควบคู่กันเพื่อให้คนไทยเข้าถึงยาคุณภาพสูงทุกชุมชนและครัวเรือน ผ่านโครงการ45 ปี ไบโอฟาร์มเพื่อชุมชนโดยจะมีการมอบตู้ยาและเวชภัณฑ์ให้แก่หน่วยพิทักษ์และรักษาพันธุ์สัตว์ป่าด้านผืนป่าตะวันตก จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นการสานต่อความสำเร็จของโครงการตู้ยาไบโอฟาร์มเพื่อชุมชนที่ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้าหมายที่จะมอบตู้ยาให้ครบ 450 ตู้ในปี 2562 เพื่อฉลองครบรอบ 45ปีไบโอฟาร์ม

นายวีระพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมยาในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาว่า มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเจ็บป่วยและจำนวนประชากรโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น การเข้าถึงช่องทางการรักษาที่ดีขึ้นภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของประเทศไทยที่มีแนวโน้มขยายตัว รวมถึงนโยบายส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอที่ให้สิทธิประโยชน์กับอุตสาหกรรมยาเพื่อช่วยลดภาระต้นทุนของผู้ผลิตยา

“สำหรับครึ่งปีหลังของปีนี้ภาพรวมของอุตสาหกรรมยา รวมทั้งผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและสมุนไพรของไทย น่าจะมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอีก โดยมีปัจจัยหนุนเช่นเดียวกับครึ่งปีแรก ประกอบกับความชัดเจนในการใช้ประโยชน์สำหรับยาที่ขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยสำหรับการจัดซื้อยาภาครัฐ รวมทั้งการเข้าถึงสื่อทางเลือกและอินเทอร์เน็ตของประชากรสูงอายุซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ” นายวีระพัฒน์ กล่าวในตอนท้าย


You must be logged in to post a comment Login