- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 7 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ปากแหว่ง?/ โดย นายหัวดี
คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
“หมู่บ้านป่าแหว่ง” ดูเหมือนจะบานปลาย เพราะทั้ง “ทั่นผู้นำ” และ “เนติบริกร” ลิ่วล้อข้างกาย ต่างยืนยันเป็นปี่เป็นขลุ่ยต้องเป็นไปตามกฎหมายและไม่เคยสัญญารื้อถอน “หมู่บ้านป่าแหว่ง”
ก่อนหน้านี้ “ทั่นผู้นำ” ถามคนต่อต้านว่า “ทำไมไม่ค้านตั้งแต่แรกจะได้ไม่เปลืองงบประมาณ” และย้ำว่า “ถ้าจะรื้อบ้านพักศาล ก็หาคนรับผิดชอบมา” ขณะที่ฝ่ายต่อต้านก็งัดหลักฐานมาโชว์ว่าประชาชนในพื้นที่คัดค้านมาตั้งแต่ปี 2557-2558 แล้ว
ส่วน “เนติบริกรใหญ่” บอกว่าการรื้อถอน “หมู่บ้านป่าแหว่ง” ถ้าการก่อสร้างเป็นการทำ “ผิดกฎหมาย” กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ก็มีอำนาจรื้อถอนได้ แต่เมื่อ “ไม่ผิดกฎหมาย” กรมธนารักษ์อนุญาตให้เข้าใช้พื้นที่ได้ และยังอนุมัติงบการก่อสร้าง ดังนั้น คนที่จะรื้อถอนต้องเป็นผู้ตอบคำถามว่า “ใครเป็นผู้สั่งให้รื้อถอน และใช้อำนาจใดมาดำเนินการรื้อถอน เหตุผลที่ต้องรื้อมันมีอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์”
วาทกรรมย้อนแย้งและไม่ผูกมัดตัวเองเป็นเรื่องปรกติของ “เนติบริกร” ยิ่งในยุครัฏฐาธิปัตย์ยังมีความสามารถพิเศษที่จะผุด “อภินิหารทางกฎหมาย” เพื่อจัดการฝ่ายเห็นต่างหรือฝ่ายตรงข้ามอีก
การรื้อย้ายบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง “หมู่บ้านป่าแหว่ง” จึงเป็นทางสองแพร่งระหว่าง “กฎหมาย” กับ “ความถูกต้องชอบธรรม” ที่จะเป็นซากค้างคาใจคนเชียงใหม่และกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปอีกยาวนาน
เพราะ “กฎหมาย” ภายใต้ “ระบอบพิสดาร” อยู่ที่ “ผู้มีอำนาจ” ไม่ใช่ “ประชาชน”!
You must be logged in to post a comment Login