- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 9 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
ปากแหว่ง?/ โดย นายหัวดี
คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
“หมู่บ้านป่าแหว่ง” ดูเหมือนจะบานปลาย เพราะทั้ง “ทั่นผู้นำ” และ “เนติบริกร” ลิ่วล้อข้างกาย ต่างยืนยันเป็นปี่เป็นขลุ่ยต้องเป็นไปตามกฎหมายและไม่เคยสัญญารื้อถอน “หมู่บ้านป่าแหว่ง”
ก่อนหน้านี้ “ทั่นผู้นำ” ถามคนต่อต้านว่า “ทำไมไม่ค้านตั้งแต่แรกจะได้ไม่เปลืองงบประมาณ” และย้ำว่า “ถ้าจะรื้อบ้านพักศาล ก็หาคนรับผิดชอบมา” ขณะที่ฝ่ายต่อต้านก็งัดหลักฐานมาโชว์ว่าประชาชนในพื้นที่คัดค้านมาตั้งแต่ปี 2557-2558 แล้ว
ส่วน “เนติบริกรใหญ่” บอกว่าการรื้อถอน “หมู่บ้านป่าแหว่ง” ถ้าการก่อสร้างเป็นการทำ “ผิดกฎหมาย” กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ ก็มีอำนาจรื้อถอนได้ แต่เมื่อ “ไม่ผิดกฎหมาย” กรมธนารักษ์อนุญาตให้เข้าใช้พื้นที่ได้ และยังอนุมัติงบการก่อสร้าง ดังนั้น คนที่จะรื้อถอนต้องเป็นผู้ตอบคำถามว่า “ใครเป็นผู้สั่งให้รื้อถอน และใช้อำนาจใดมาดำเนินการรื้อถอน เหตุผลที่ต้องรื้อมันมีอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์”
วาทกรรมย้อนแย้งและไม่ผูกมัดตัวเองเป็นเรื่องปรกติของ “เนติบริกร” ยิ่งในยุครัฏฐาธิปัตย์ยังมีความสามารถพิเศษที่จะผุด “อภินิหารทางกฎหมาย” เพื่อจัดการฝ่ายเห็นต่างหรือฝ่ายตรงข้ามอีก
การรื้อย้ายบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง “หมู่บ้านป่าแหว่ง” จึงเป็นทางสองแพร่งระหว่าง “กฎหมาย” กับ “ความถูกต้องชอบธรรม” ที่จะเป็นซากค้างคาใจคนเชียงใหม่และกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปอีกยาวนาน
เพราะ “กฎหมาย” ภายใต้ “ระบอบพิสดาร” อยู่ที่ “ผู้มีอำนาจ” ไม่ใช่ “ประชาชน”!
You must be logged in to post a comment Login