- อย่าไปอินPosted 3 days ago
- ปีดับคนดังPosted 4 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 5 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 7 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ความจริงที่มืดมิด? / โดย นายหัวดี
คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
กรณีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษอ้างว่าถูกข่มขืนและชิงทรัพย์บนเกาะเต่าดูจะบานปลายที่อาจกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศไทยอีกครั้ง หลังจากคดีฆ่าข่มขืนนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่าในอดีตยังค้างคาใจผู้คนทั่วโลก ล่าสุดยังไม่รู้ว่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษถูกข่มขืนและชิงทรัพย์จริงหรือไม่
ศาลได้อนุมัติหมายจับ “แอดมินเพจ CSI LA” และผู้แชร์ข้อมูลรวม 13 คน ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ฯลฯ ซึ่ง “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่รับผิดชอบคดีได้มีการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่ามีการข่มขืนตามที่อ้าง
ส่วนทางการอังกฤษได้สอบปากคำและตรวจดีเอ็นเอเสื้อผู้เสียหายแล้ว แต่ต้องรอผลตรวจเพื่อส่งมาตามช่องทางการทูตให้กับตำรวจไทยที่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน หากมีหลักฐานชัดเจนหรือมีมูลก็จะทำการสืบสวนต่อไป
กรณีเพจ CSI LA ที่โด่งดังจากกรณี “นาฬิกาหรู” ของ “บิ๊กป้อม” มีคำถามว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังทางการเมืองหรือไม่ ซึ่งแอดมินเพจ CSI LA ได้โพสต์แถลงว่า ผิดหรือที่ยื่นมือช่วยเหลือเเม่ของเด็กชาวอังกฤษที่มาขอร้องให้ช่วย เพราะเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งเรื่องถูกข่มขืนเป็นเรื่องใหญ่และการช่วยเหลือไม่ควรแบ่งเชื้อชาติ
ล่าสุด 4 องค์กรสิทธิมนุษยชนออกแถลงการณ์ให้ทบทวนและยุติการดำเนินคดีแอดมินเพจ CSI LA และผู้แชร์ข้อมูลทั้งหมด เพราะการฟ้องคดีเหมือนเป็นการปิดปากประชาชนที่แสดงความคิดเห็น และยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหาย ทั้งยังขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนตามพันธกรณีระหว่างประเทศและรัฐธรรมนูญของไทยอีกด้วย
You must be logged in to post a comment Login