วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“บิ๊กป๊อก” มั่นใจแนวทางโครงการไทยนิยมยั่งยืนช่วยชาวบ้านมีวิถีชีวิตดีขึ้น

On September 7, 2018

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยตามโครงการไทยยั่งยืน สรุปผลการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศตามโครงการไทยนิยมยั่งยืนว่า  ภายหลังที่ครม.รับทราบแผนดำเนินการโครงการฯตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. 61  รัฐบาลได้ส่งทีมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ระดับตำบล ได้ลงพื้นที่เพื่อวิเคราะห์ปัญหาความต้อง  4 ครั้ง ครบทุกหมู่บ้าน/ชุมชน รวม 82,271 แห่ง มีประชาชนเข้าร่วม 8.08 ล้านคน ซึ่งได้สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนตามกรอบหลัก 10 เรื่อง และมีประเด็นสำคัญเพิ่มเติม เช่น การจัดเก็บข้อมูลปัญหายาเสพติดของหมู่บ้าน   ปัญหาภัยแล้ง มาตรการส่งเสริมการปลูกข้าวคุณภาพดีและมาตรการช่วยเหลือชาวนา  ประชาชนไม่ถูกหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ  เป็นต้น ซึ่งได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาดังกล่าวทันที

สำหรับความก้าวหน้าการดำเนินงานแผนงาน ภายใต้งบประมาณตามพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2561จำนวน 95,758.1 ล้านบาท  ประกอบ  1. แผนงานยุทธศาสตร์เสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิต วงเงิน 21,078  ล้านบาท  โดยมี โครงการมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีกระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพหลัก  กลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 11.4 ล้านคน กำหนดมาตรการช่วยเหลือใน 4 มิติ คือ 1.มีงานทำ  2.ฝึกอบรมอาชีพและการศึกษา3.เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ 4. เข้าถึงสิ่งจำเป็นพื้นฐาน

2. แผนงานยุทธศาสตร์ปฏิรูปโครงสร้างการผลิตภาคการเกษตร วงเงิน 24,301 ล้านบาท โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีแผนพัฒนา  4ด้าน คือ ด้านบริหารจัดการน้ำ , ด้านการแก้ไขปัญหาที่ดิน  , โครงการด้านการปศุสัตว์  และโครงการด้านผลลผิตทางการเกษตร  และ  3. แผนงานยุทธศาสตร์ส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาศักยภาพชุมชน วงเงิน 50,379 ล้านบาท ภายใต้  โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากในพื้นที่ตามโครงการไทยนิยม ยั่งยืน (หมู่บ้าน/ชุมชนละ 2 แสนบาท)  วงเงิน 20,000 ล้านบาท โดยกระทรวงมหาดไทย ได้ขยายเวลาอนุมัติโครงการไปถึงปลายปี 61  ,  โครงการชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี วงเงิน 9.3 พันล้านบาท  และชุมชนอย่างยั่งยืนโดยศาสตร์พระราชาตามแนวทางประชารัฐ วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท  และโครงการอื่นๆ อาทิการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง 55  จังหวัด เป็นต้น

“ ชาวบ้านตอบรับโครงการไทยนิยมยั่งยืนเป็นอย่างดี แต่ต้องใช้เวลาต้องค่อย ๆทำไป เพราะเป็นเรื่องยากในการเปลี่ยนความเคยชินเดิมๆ   และบางส่วนก็เริ่มคล้อยตามไปคงต้องให้ค่อยๆเรียนรู้ไป และเชื่อว่าหากทุกฝ่ายเดินตามแนวทางนี้นอกจากจะแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศได้อย่างยั่งยืนแล้ว  ผมยังมั่นใจว่าจะทำให้ประชาชนมีวิถีชีวิตดีขึ้นแน่นอน”

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว และว่า  โครงการไทยนิยมยั่งยืนถือเป็นนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และถือเป็นการพลิกวิธีการทำงานจากเดิม  โดยเปิดโอกาศให้ประชาชนมีส่วนรวมอย่างแท้จริง ด้วยการเสนอความต้องการ และเสนอปัญหาต่างในพื้นที่ให้ภาครัฐสนับสนุน  โดยมีทีมขับเคลื่อนฯลงไปรับฟังปัญหาถึงพื้นที่  เพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน แตกต่างจากเดิมที่ภาครัฐ จะกำหนดนโนบายลงไป  ซึ่งบ้างครั้งไม่ตรงต่อความต้องการของประชาชน


You must be logged in to post a comment Login