- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
พม.ดันสายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม1300ตลอด 24 ชม.หวังปลุกพลังประชาชนแจ้งเบาะแสปัญหาสังคมและการค้ามนุษย์
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดันสายด่วนศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง มุ่งหวังปลุกพลังประชาชนแจ้งเบาะแสและร่วมกันเฝ้าระวังปัญหาสังคมและการค้ามนุษย์พร้อมส่งเสริมการบริการสวัสดิการทางสังคมที่มีประสิทธิภาพรวดเร็วและทั่วถึง
นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจผู้ช่วยปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่าในการยกระดับคุณภาพระบบการคุ้มครองสังคมให้ครอบคลุมอย่างทั่วถึง ทางกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลในการลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และการสร้างโอกาสให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงบริการสวัสดิการทางสังคมที่มีประสิทธิภาพรวดเร็วทั่วถึง ดังนั้นการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ตลอด 24 ชั่วโมงนั้น จึงนับเป็นศูนย์กลางการให้คำแนะนำปรึกษารับเรื่องราวร้องทุกข์แก่ประชาชนผู้ประสบปัญหาสังคมอย่างครอบคลุมทุกพื้นที่โดยไม่เลือกปฏิบัติซึ่งมีเจ้าหน้าที่และนักสังคมสงเคราะห์วิชาชีพปฏิบัติงานให้คำแนะนำปรึกษาอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ในการช่วยเหลือประสานส่งต่อรวมทั้งมีการช่วยเหลือเชิงรุกโดยมีหน่วยเคลื่อนที่เร็ว (Moblie Team)ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาสังคมในภาวะวิกฤตเน้นการสงเคราะห์ช่วยเหลือคุ้มครองสวัสดิภาพแก่ประชาชนผู้ประสบปัญหาภายใต้ระบบเชื่อมโยงกับหน่วยปฏิบัติระดับกรมในกระทรวงพัฒนาความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านการให้คำปรึกษาแนะนำรวมทั้งองค์ความรู้หลักสูตรคู่มือและพัฒนามาตรฐานการให้คำปรึกษาแนะนำพัฒนาประสิทธิภาพระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและจัดทำรายงานเชิงคุณภาพสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมในภาวะวิกฤตกับภาคีเครือข่ายทั้งภายในและต่างประเทศปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องและติดตามการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมให้ผู้ประสบปัญหาพ้นภาวะวิกฤตและคืนสู่สังคมได้อย่างปกติสุขต่อไป
“การให้บริการประชาชนผ่านศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 เป็นการให้บริการรับแจ้งเหตุและประสานส่งต่อไปยังหน่วยงาน ภายในกระทรวง เช่น พมจ. บพด.และ ศคพ. และหน่วยงานภายนอก เช่น กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน รวมถึงองค์กรเอกชนและภาคประชาสังคมที่เกี่ยวข้อง และมีการบูรณาการปฏิบัติงานกับจิตอาสาและ อพม. ในพื้นที่ ตลอด24ชั่วโมงให้บริการคำปรึกษาแนะนำแก่ผู้ประสบปัญหาทางสังคมทั่วประเทศ ผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่โทรศัพท์สายด่วน 1300 ทางสื่อสังคม (Social Media) หรือการติดต่อด้วยตนเอง(walk in) และโทรศัพท์ระหว่างประเทศ +66 99 1301300” รองปลัดฯ กล่าว
สำหรับสถิติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาสังคม ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.2560–31 ส.ค. 2561 ให้บริการรวม 97,127 ราย ทั้งนี้ปัญหาสังคมที่ได้รับแจ้งสูงสุดคือ ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ปัญหาครอบครัวยากจน ผู้สูงอายุ คนพิการและขอทานและคนไร้ที่พึ่ง โดยมีแนวทางการให้ความช่วยเหลือคือ เมื่อเจ้าหน้าที่รับเรื่องจากผู้ประสบปัญหาสังคมหรือพลเมืองดีที่แจ้งเหตุหรือขอความช่วยเหลือแล้ว จะมีการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและบันทึกข้อมูลในระบบฐานข้อมูลของศูนย์ช่วยเหลือสังคม1300 โดยเจ้าหน้าที่รับเรื่องจะให้ข้อมูล คำปรึกษาและสามารถยุติการให้บริการได้ในกรณีที่ปัญหาไม่ซับซ้อน แต่กรณีที่ปัญหาซับซ้อนจะนำเรื่องปรึกษานักสังคมสงเคราะห์วิชาชีพเพื่อร่วมพิจารณา วางแผนการให้ความช่วยเหลือและประสานส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากเป็นผู้ที่อยู่ในภาวะวิกฤตในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ศูนย์ช่วยเหลือสังคมจะลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือทันที
ขณะที่สถานการณ์การค้ามนุษย์นั้น กลุ่มเสี่ยงและผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ซึ่งมีแนวโน้มว่าผู้เสียหายมีอายุน้อยลง เมื่อศูนย์ช่วยเหลือสังคม 1300 ได้รับแจ้งเหตุ/เบาะแสการค้ามนุษย์ เจ้าหน้าที่ที่รับแจ้งจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบ/ช่วยเหลือ และหากพบว่าเป็นการค้ามนุษย์ จะประสานกลับมายัง พม. เพื่อส่งเจ้าหน้าที่ร่วมป็นทีมสหวิชาชีพในการคัดกรองสัมภาษณ์เบื้องต้นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์โดยเมื่อคัดแยกแล้วเป็นผู้เสียหายพนักงานสอบสวนจะประสานส่งตัวผู้เสียหายให้ พม. คุ้มครองตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ต่อไป
You must be logged in to post a comment Login