วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

มนต์สังหาร / โดย ศิลป์ อิศเรศ

On September 14, 2018

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 14-21 กันยายน 2561)

ร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวคนหนึ่งถูกพบบนเนินเขาที่ล้อมรอบไปด้วยสิ่งปลูกสร้างโบราณสมัยยุคเหล็กของชาวเซลติก ไม่พบบาดแผลใดๆนอกจากรอยขีดข่วนเล็กๆทั่วร่างกายซึ่งไม่สามารถเป็นสาเหตุทำให้เธอเสียชีวิตได้ ชาวบ้านลือกันว่าเธอถูกกระทำด้วยเวทมนตร์คาถา

นอร่า เอมิลี ฟอร์นาริโอ หรือที่เพื่อนๆเรียกชื่อเล่นสั้นๆว่า “เน็ตต้า” เกิดที่อียิปต์เมื่อปี 1897 บิดามีสัญชาติอิตาเลียน ส่วนมารดาสัญชาติอังกฤษ เธอใช้ชีวิตอยู่ที่อิตาลีจนกระทั่งเข้าสู่วัยรุ่นจึงย้ายถิ่นฐานมายังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

ช่วงเวลานั้นอังกฤษได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของวิชาไสยศาสตร์ ซึ่งเน็ตต้ามีความสนใจทางด้านนี้อยู่ก่อนหน้าแล้ว เธอสมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มศึกษาไสยศาสตร์ ภูตผีวิญญาณ และเวทมนตร์คาถาหลายกลุ่ม

เน็ตต้าอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง แต่งโดยผู้ใช้นามปากกา ฟิโอน่า แมคเลาด์ หรือชื่อจริงคือ วิลเลี่ยม ชาร์ป ใจความตอนหนึ่งพูดถึงทะเลสาบลอช สเตโอไนจ์ บนเกาะไอโอนา อ้างว่าเป็นสถานที่ที่มีวิญญาณสัญจรอย่างอิสรเสรี

ไอโอนาเป็นเกาะเล็กๆเกาะหนึ่งของหมู่เกาะเฮบริดีส อยู่ทางด้านตะวันตกของสกอตแลนด์ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวเคลต์โบราณและชาวคริสต์ในยุคแรกๆ และเป็นสถานที่ที่นักบวชเคลต์เขียน “พระวรสารเคลล์ส” เมื่อราวปี 800 เชื่อกันว่าบริเวณนี้เป็นประตูสู่โลกวิญญาณ

พระวรสารเคลล์สได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติของชาติไอร์แลนด์ ปัจจุบันอยู่ในความครอบครองของมหาวิทยาลัยทรินิตี้คอลเลจดับลิน ต่อมามหาวิทยาลัยได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “Book of Kells” และ “BK merchandise” เพื่อจะผลิตสินค้าของที่ระลึก

การจดทะเบียนราบรื่นไปด้วยดี จนกระทั่งเรื่องดำเนินไปถึงอเมริกา เบอร์เกอร์คิง บริษัทยักษ์ใหญ่วงการฟาสต์ฟู้ด ออกมาคัดค้านโดยทันที เนื่องจากเบอร์เกอร์คิงได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “BK” เอาไว้แล้ว หลังจากคู่กรณีเจรจากันก็ได้ข้อตกลงว่าทั้ง 2 ฝ่ายได้รับสิทธิใช้เครื่องหมายการค้า “BK” ตราบใดที่ไม่สร้างความสับสนให้กับผู้บริโภค

มหาวิทยาลัยทรินิตี้คอลเลจดับลินไม่คิดจะทำธุรกิจฟาสต์ฟู้ด ขณะที่เบอร์เกอร์คิงก็ไม่คิดที่จะนำภาพหรือข้อความจากพระวรสารเคลล์สมาพิมพ์ลงบนภาชนะบรรจุอาหารและเครื่องดื่ม

พิธีศักดิ์สิทธิ์

เดือนสิงหาคม 1929 เน็ตต้าวัย 33 ปี บอกกับสาวใช้ว่าจะเดินทางไปประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์บนเกาะไอโอนา แต่ไม่รู้กำหนดกลับ เมื่อเดินทางไปถึงเน็ตต้าเช่าห้องพักของคุณนายแมคเร หญิงชราเจ้าของบ้านไร่ที่อยู่ห่างไกลจากชุมชน

เวลากลางวันเน็ตต้าจะเดินเล่นตามชายหาดหรือไม่ก็ทุ่งหญ้า พอตกกลางคืนเธอจะนั่งสมาธิ โดยหวังว่าวันหนึ่งจะสามารถติดต่อกับวิญญาณได้ เน็ตต้าบอกกับคุณนายแมคเรว่าบางครั้งเธอจะเข้าญาณติดต่อกันนานนับสัปดาห์ ดังนั้น หากเธอเงียบหายไปก็ไม่ต้องเป็นห่วง

ไม่นานนักคุณนายแมคเรก็คุ้นชินกับพฤติกรรมแปลกๆของเน็ตต้า จนกระทั่งวันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน เน็ตต้ามีพฤติกรรมแปลกแตกต่างไปยิ่งกว่าเดิม เธอมีดวงตาเบิกโพลงคล้ายกับได้พบเจออะไรที่น่ากลัวมากๆ เน็ตต้าบอกคุณนายแมคเรว่าเธอกำลังถูกทำร้ายด้วยพลังจิตจากใครบางคนที่อยู่ห่างไกล

การโจมตีด้วยพลังจิตเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่นักไสยศาสตร์ในยุคต้นศตวรรษที่ 20 ให้ความสนใจเป็นพิเศษ ถึงกับมีนักไสยศาสตร์เขียนตำราวิธีป้องกันการถูกโจมตีด้วยพลังจิตชื่อ Psychic Self Defense แต่งโดยดิออน ฟอร์จูน

เน็ตต้าบอกอีกว่า เธอถลำตัวลึกเกินไปและจะต้องเผชิญกับเรื่องเลวร้ายในไม่ช้า เธอเห็นเรือไม่มีหางเสือลำหนึ่งล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า และได้รับข้อความน่าสะพรึงกลัวจากโลกวิญญาณ ขณะเข้าญาณเธอเห็นเครื่องประดับเงินที่สวมใส่เปลี่ยนเป็นสีดำ

ฝันที่เป็นจริง

เน็ตต้ารีบเก็บข้าวของเพื่อเดินทางกลับแผ่นดินใหญ่ แต่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ ไม่มีเรือข้ามฟากให้บริการ เธอขังตัวเองอยู่ในห้องเพื่อรอเวลาเช้าวันรุ่งขึ้นซึ่งเรือข้ามฟากจะกลับมาให้บริการอีกครั้ง พักใหญ่ๆเน็ตต้าก็เปิดประตูห้องเดินออกมาด้วยสีหน้าผ่อนคลายจนแทบจะเป็นปรกติ เธอบอกกับคุณนายแมคเรว่าเปลี่ยนใจไม่กลับแล้ว จะขออยู่ต่อ

เช้าวันรุ่งขึ้นคุณนายแมคเรเดินมาที่ห้องเน็ตต้าแต่ไม่พบตัวเธอ เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงเน็ตต้าก็ยังไม่กลับ คุณนายแมคเรเริ่มเป็นห่วงจึงตามชาวบ้านมาออกช่วยกันค้นหาแต่ก็ไม่พบร่องรอยใดๆ การค้นหาดำเนินต่อไปจนกระทั่งเวลาบ่ายวันถัดมาจึงพบร่างของเน็ตต้านอนเสียชีวิตเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าอาภรณ์อยู่บนเนินเขาริมทะเลสาบ ข้างลำตัวมีมีดเล่มหนึ่งตกอยู่ เครื่องประดับเงินที่สวมใส่เปลี่ยนเป็นสีดำ มีบาดแผลรอยข่วนเล็กๆทั่วร่างกาย

ตำรวจสันนิษฐานว่าเน็ตต้าเสียชีวิตระหว่างเวลา 10.00 น. ของวันที่ 17 พฤศจิกายน และ 13.30 น. ของวันที่ 19 พฤศจิกายน ไม่พบบาดแผลใดๆนอกจากรอยข่วนเล็กๆ ตำรวจลงบันทึกรายงานสาเหตุการเสียชีวิตว่า “สัมผัสกับธาตุ”

จากตำราป้องกันการถูกโจมตีด้วยพลังจิตของดิออน ฟอร์จูน กล่าวว่า การโจมตีด้วยพลังจิตทำได้โดยการให้เหยื่อสัมผัสกับ “ธาตุรังสีมรกต” ซึ่งเป็นอุปมาอุปไมย ธาตุหมายถึงดวงวิญญาณ ส่วนรังสีมรกตหมายถึงธรรมชาติศักดิ์สิทธิ์

ชาวบ้านรายงานว่า เห็นแสงสีน้ำเงินเจิดจ้าบริเวณที่พบร่างเน็ตต้าในคืนที่เธอหายตัวไป มีคนเห็นชายแปลกหน้าสวมเสื้อคลุมยาวสีดำป้วนเปี้ยนบริเวณนั้น หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นรายงานว่า ตำรวจพบจดหมายปึกใหญ่มีข้อความแปลกๆอยู่ในห้องพักของเน็ตต้า

ปริศนาทางการแพทย์

ปริศนาการเสียชีวิตของเน็ตต้าเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวงการแพทย์ ที่แน่ๆคือเน็ตต้ามีปัญหาทางจิต มีอาการประสาทหลอนและหวาดระแวง ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุให้เธอเดินเร่ร่อนไปอย่างไร้จุดหมายจนกระทั่งพบจุดจบ

รอยข่วนเล็กๆตามร่างกายอาจเป็นเรื่องที่ถูกแต่งเติมขึ้นมาภายหลัง เพราะไม่มีพุ่มไม้หนามแหลมในบริเวณนั้น หากจะมีบาดแผลขีดข่วนก็น่าจะมีเฉพาะบริเวณฝ่าเท้าเท่านั้น แต่ถ้ามีรอยขีดข่วนทั่วร่างกายจริงตามที่กล่าวอ้าง ทางการแพทย์ก็ไม่สามารถอธิบายได้

เครื่องประดับเงินเปลี่ยนเป็นสีดำเกิดจากเหงื่อผู้สวมใส่ กรดจากเหงื่อกัดกร่อนแร่เงินให้กลายเป็นสีดำ ซึ่งมีโรคภัยมากมายหลายชนิดที่ทำให้เหงื่อมีฤทธิ์เป็นกรด เช่น โรคเบาหวาน แต่ไม่ว่าเน็ตต้าจะเป็นโรคอะไรก็ตาม นั่นก็คือสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้เธอเสียชีวิต

คำอธิบายของแพทย์สมัยใหม่ฟังดูมีเหตุมีผล แต่จะเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่ ไม่อาจทราบได้ เพราะเหตุการณ์เกิดขึ้นมานานเกือบร้อยปีแล้ว ส่วนร่างของเน็ตต้าไม่มีญาติมารับ ทำให้ชาวบ้านเกาะไอโอนาเรี่ยไรเงินกันเพื่อนำร่างเน็ตต้าไปประกอบพิธีฝังที่โบสถ์เซนต์โอราน และร่างของเธอยังคงถูกฝังอยู่ที่นั่นจวบจนถึงทุกวันนี้

682-1

1.เกาะไอโอนา

2

2.ตำราป้องกันตัวจากการถูกโจมตีด้วยพลังจิต

3

3.วิลเลี่ยม ชาร์ป (ฟิโอน่า แมคเลาด์)

4

4.ดิออน ฟอร์จูน

5

5.ห้องสมุดมหาวิทยาลัยทรินิตี้คอลเลจดับลิน

6

6.พระวรสารเคลล์ส

7

7.พระวรสารเคลล์สตั้งแสดงที่ทรินิตี้คอลเลจดับลิน

8

8.โบสถ์เซนต์โอราน


You must be logged in to post a comment Login