- อย่าไปอินPosted 15 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 1 day ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 3 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ภาวะตาแห้ง ผลกระทบจากพฤติกรรมในยุคดิจิตอล / โดย พญ.ชญาตา เหลี่ยมศิริเจริญ
คอลัมน์ : โลกสุขภาพ
ผู้เขียน : พญ.ชญาตา เหลี่ยมศิริเจริญ
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 14-21 กันยายน 2561)
ด้วยการใช้ชีวิตของคนไทยในยุคไทยแลนด์ 4.0 คงหลีกหนีไม่พ้นการใช้เทคโนโลยีในการตอบสนองชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน แทบเล็ต และคอมพิวเตอร์ เกิดพฤติกรรมการเพ่งอยู่กับหน้าจอเป็นเวลานานหลายชั่วโมงต่อวัน ส่งผลต่อความเมื่อยล้าของดวงตาและเกิดอาการตาแห้ง ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่พบได้มากกว่าวัยอื่นๆ เนื่องจากต่อมน้ำตาสามารถสร้างน้ำตาได้ลดลงตามช่วงอายุ ซึ่งปัจจุบันไม่ว่าจะช่วงอายุใดก็สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ทุกคน
สาเหตุของอาการตาแห้งมีหลายสาเหตุ อาทิ การอ่านหนังสือติดต่อกันเป็นเวลานาน แต่สาเหตุที่พบได้บ่อยคือ การเพ่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งการเพ่งนานๆจะทำให้เรากะพริบตาน้อยลงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ โดยปรกติการกะพริบตาจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ 20-22 ครั้งต่อนาที แต่เมื่อเราจดจ่ออยู่กับหน้าจอจะทำให้การกะพริบตาลดลงเหลือ 6-8 ครั้งต่อนาที และทำให้ตาแห้ง เพราะขณะที่เรากะพริบตา ชั้นน้ำตาจะถูกกระจายเคลือบไปทั่วด้านหน้าของดวงตาเพื่อคงความชุ่มชื้นและหล่อลื่นดวงตาไว้ ชั้นน้ำตาประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก และมีชั้นไขมันบางๆที่สร้างมาจากต่อมไขมันบริเวณเปลือกตาเคลือบด้านหน้าไว้ป้องกันไม่ให้น้ำตาระเหยเร็วเกินไป หากเกิดปัญหาที่ชั้นใดชั้นหนึ่งจะทำให้ชั้นน้ำตาไม่แข็งแรงและเกิดอาการตาแห้งตามมา
สัญญาณเตือนบ่งบอกว่าเริ่มมีอาการตาแห้งคือ เคืองที่ดวงตาทั้ง 2 ข้าง รู้สึกเหมือนมีฝุ่นผงในตา แสบตา คันตา หากเป็นมากจะเกิดอาการตาแดง ตาสู้แสงไม่ได้ ปวดรอบกระบอกตา มีอาการอ่อนล้าทางประสาทตา มองภาพไม่ชัด เป็นๆหายๆ หากสวมคอนแท็คเลนส์จะยิ่งทำให้ไม่สบายตามากขึ้น ทั้งนี้ คุณหมอแนะนำว่าหากมีอาการตาแห้งสามารถบรรเทาได้ด้วยการหยอดน้ำตาเทียม ลดการเพ่งหน้าจอโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ โดยพักสายตาทุกๆ 20 นาที กะพริบตาให้บ่อยขึ้น ปรับแสงสว่างและขนาดตัวหนังสือให้เหมาะสมเพื่อให้สบายตามากที่สุด หากอาการไม่ดีขึ้นควรมาพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพตา
นอกจากนี้อาการตาแห้งอาจเกิดจากการมีภาวะต่อมไขมันที่เปลือกตาอุดตันร่วมด้วย ซึ่งทำให้ไขมันเคลือบชั้นน้ำตาลดน้อยลง ชั้นน้ำตาระเหยง่าย การหยอดน้ำตาเทียมเพียงอย่างเดียวไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร การทำความสะอาดเปลือกตาเพื่อลดการอุดตันของต่อมไขมันเป็นการรักษาตาแห้งชนิดที่มีภาวะต่อมไขมันอุดตันร่วมด้วย โดยปรกติจะแนะนำให้ประคบอุ่นด้วยเจลสำหรับประคบตาหรือผ้าชุบน้ำอุ่นประมาณ 40 องศา นาน 5-10 นาที จากนั้นจึงนวดเปลือกตา และเช็ดทำความสะอาดเปลือกตาด้วยแชมพูเด็กหรือน้ำยาทำความสะอาดเปลือกตาโดยเฉพาะ ควรทำวันละ 2 ครั้งจนอาการดีขึ้น จากนั้นสามารถลดเหลือวันละ 1 ครั้งอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การรักษาที่ดีที่สุดคือการป้องกัน คนไข้ควรปรับพฤติกรรมในเรื่องการใช้สายตา คนที่ต้องทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เป็นเครื่องมือในการทำงานเป็นประจำควรจัดสรรเวลา และมีการพักสายตาทุก 20-30 นาที นาน 20-30 วินาที ด้วยการทอดสายตามองออกไปไกลๆ หรือหลับตานิ่งๆสักครู่ ก่อนกลับมาใช้งานหน้าจอต่อ รวมถึงการปรับความสว่างของหน้าจอไม่ให้สว่างจนเกินไป และกะพริบตาบ่อยๆเพื่อป้องกันอาการตาแห้ง
การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีต่างๆอย่างรู้เท่าทันจะช่วยลดความเสี่ยงและอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับดวงตาของเราได้
You must be logged in to post a comment Login