- อ.เบียร์ช่วยวัดสวนแก้วPosted 3 hours ago
- เลิกเสียเงินกับเรื่องโง่ๆPosted 1 day ago
- ปัญหายาเสพติดวาระแห่งชาติPosted 2 days ago
- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 3 days ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 4 days ago
- อย่าไปอินPosted 1 week ago
- ปีดับคนดังPosted 1 week ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 week ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 2 weeks ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 2 weeks ago
“เอเชียทีค”ลุยโรดโชว์-เทรดโชว์เจาะตลาดท่องเที่ยวยุโรป-ตะวันออกกลาง
นางสาวเปรมินทร์ เลอนรเสฏฐ์ผู้จัดการทั่วไป โครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ กลุ่มบริษัท แอสเสท เวิรด์ รีเทล จำกัด ภายใต้การบริหารงานของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (TCC GROUP) เปิดเผยว่าปัจจุบันโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ยังคงร่วมมือกับหลากหลายกลุ่มธุรกิจ เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์กิจกรรมที่น่าสนใจและตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในโครงการฯ ล่าสุดได้เปิดตัวนาฏยศาลา หุ่นละครเล็ก (โจหลุยส์) หลังจากห่างหายไปนานกว่า 8 ปี โดยกลับมาพร้อมกับไฮไลท์การแสดงชุดใหม่ ตลอดจนรูปแบบการแสดงที่แปลกใหม่ หลากหลาย และพิเศษยิ่งกว่าเดิม ภายใต้แนวคิดการแสดงที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมที่สวยงามเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ และการเล่าเรื่องราวให้สอดคล้องกับปัจจุบัน ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงการเปิดตัว Ownoryร้านจิวเวลรี่ดีไซน์เก๋ ผสมผสานแฟนชั่นสมัยใหม่และความเป็นไทยได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวอย่างมากในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังร่วมกับแบรนด์ชั้นนำ อาทิ BSC Cosmetology เปิดร้าน Beauty Station ศูนย์รวมสินค้าความงามแบรนด์ชั้นนำมากมาย ร้านลาวญวน (Lao Yuan) ร้านอาหารอีสานชื่อดังในเครือ Zen Corporation Group ร้านน้ำหอมอียิปต์ Japara Perfume กับจุดเด่นความหอมที่ยาวนานพร้อมดีไซน์แพจเกจจิ้งสวยไม่ซ้ำใคร และร้าน Shoe Bar ในเครือ Jaspal แบรนด์รองเท้าแฟชั่นนำสมัย ที่มีแผนมาเปิดตัวในโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความหลากหลายของสินค้า ตลอดจนพัฒนาคุณภาพและทัศนียภาพของร้านค้าที่มีความเป็นสากลมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ยังได้วางแผนจัดพื้นที่สำหรับรองรับการจัดกิจกรรมอีเว้นท์โปรโมชั่นต่างๆ โดยการเปิดตัวร้านค้าที่มีความหลากหลายและกิจกรรมที่น่าใจ จะสามารถดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาโครงการฯ ได้อย่างแน่นอน และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10% จากปีที่ 2560
สำหรับภาพรวมตลาดท่องเที่ยวในประเทศไทยยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปี 2561 มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเพิ่มขึ้นกว่า 11% (ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย) และคาดว่าจะเติบโตมากกว่าเท่าตัวในครึ่งปีหลัง เนื่องจากปัจจัยช่วงหยุดเทศกาลในหลายๆ ประเทศอาทิ Golden Week ของประเทศจีนในเดือนตุลาคม รวมไปถึงช่วงวันหยุดคริสต์มาส และปีใหม่ สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวทีเข้ามาในโครงการฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนมกราคมถึงสิงหาคมที่ผ่านมามีจำนวนนักท่องเที่ยวถึง 10.9 ล้านคน หรือเฉลี่ย 45,000 คน/วัน และคาดว่าเดือนกันยายนถึงธันวาคมจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกกว่า 10% โดยแบ่งเป็นชาวต่างชาติ 70% และชาวไทย 30% ซึ่งจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพักตามลำพัง (Free Individual Traveler : F.I.T) 65% และกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากับทัวร์ 35% ทั้งนี้กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในโครงการฯ มากที่สุด 3 อันดับแรกยังเป็นกลุ่มประเทศในโซนเอเชีย ได้แก่ จีน (จีน/ไต้หวัน/ฮ่องกง), เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย ตามลำดับ
ทั้งนี้โครงการฯ ได้วางแผนขยายตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวไปยังทุกกลุ่มประเทศทุกภูมิภาค โดยการร่วมกิจกรรมโรดโชว์และเทรดโชว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งดำเนินการร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรุงเทพมหานคร สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) และบริษัททัวร์ชั้นนำของไทยกว่า 250 บริษัทอาทิ จีน ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย กลุ่มประเทศยุโรป และกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในการสร้างการรับรู้ต่อกลุ่มพื้นที่เป้าหมาย และเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยให้มีความยั่งยืน โดยปีนี้ยังได้วางแผนขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศยุโรป สอดคล้องกับการเติบโตตลาดท่องเที่ยวยุโรปที่มีการเติบโตสูงถึง 6.37% ในครึ่งปีที่ผ่านมา และคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มประเทศที่น่าสนใจและถือเป็นตลาดใหญ่และมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นประเทศในแถบตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่โครงการฯ ให้ความสนใจในการทำตลาดเช่นเดียวกัน โดยได้มีการเข้าร่วมแคมเปญ Thailand MICE Venue Standard 2018 กับสำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB เพื่อรองรับการขยายธุรกิจที่ต้องการสถานที่จัดงาน อาทิ การจัดงานเพื่อความบันเทิงการจัดการประชุมและนิทรรศการ ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างมาก โดยคาดการณ์การเติบโตมากถึง 30 ล้านคน ทั้งนี้โครงการฯยังได้รับรางวัล Recreative Attraction Standard Very Good Level 2017-2019 จากการโหวตของกลุ่มพันธมิตรด้านธุรกิจท่องเที่ยว ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นการแสดงถึงความเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลก และถือเป็นส่วนหนึ่งในการดึงดูดให้เอเจนซี่ท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติให้ความสนใจในตัวโครงการยิ่งขึ้นด้วย
โครงการฯ พัฒนาสร้างเรือใบสามเสาอิงประวัติศาสตร์สำคัญในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมีชื่อเรือใบสามเสานี้ว่าสิริมหรรณพ โดยนำมาจอดเทียบ ณ ท่าเรือเอเชียทีค ซึ่งได้วางแผนพัฒนาให้เป็นพื้นที่จัดงานต่างๆ ระดับประเทศ เป็นการสร้างประสบการณ์ความประทับใจใหม่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากเอกลักษณ์ที่โดดเด่น คาดว่าจะได้รับความสนใจจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชนในการเข้ามาใช้พื้นที่ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจะเป็นไฮไลท์และซิกเนเจอร์แห่งใหม่ของโครงการฯตลอดจนการพัฒนาในส่วนของผู้ประกอบการที่เน้น International Brand ให้ตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยว F.I.T. มากขึ้น พร้อมปรับภาพลักษณ์ให้มีความน่าสนใจ รวมถึงเพิ่มสีสันของการท่องเที่ยวที่หลากหลากด้วยการจัดอีเว้นท์ต่างๆ อาทิ เทศกาลดนตรีต่างๆ งานลอยกระทง งานเค้าท์ดาวน์ เพื่อให้สามารถแข่งขันในธุรกิจท่องเที่ยวริมน้ำที่เพิ่มมากขึ้น โดยกลยุทธ์ในทุกๆ ส่วนจะส่งเสริมให้เอเชียทีคยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวอยู่อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
You must be logged in to post a comment Login