เอฟเฟ็คผู้นำ ปชป.

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

แม้คอการเมืองจะตีความคำให้สัมภาษณ์ล่าสุดของ “บิ๊กตู่” ไปในทิศทางเดียวกันว่าโดดร่วมวงลุยการเมืองแน่ แต่ที่ยังไม่ประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่าจะลุยการเมืองแบบไหน อย่างไร เพราะต้องการรอดูความชัดเจนว่าใครจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากคนเก่าและคนใหม่มีแนวทางการเมืองต่างกันอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นการที่พรรคประชาธิปัตย์จะได้หัวหน้าพรรคคนใหม่หรือคนเก่าจึงมีผลต่อยุทธศาสตร์ที่จะใช้เดินบนถนนการเมือง

การทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชุดปัจจุบันรวดเร็วดุจกามนิตหนุ่ม หลังประกาศหลักเกณฑ์การแบ่งเขตเลือกตั้งออกมาวันเดียว พอข้ามวันใหม่ก็ประกาศเขตเลือกตั้งและจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่แต่ละจังหวัดพึงมีตามออกมาทันที

จำนวน ส.ส.เขตตามกฎหมายใหม่มีได้ไม่เกิน 350 คน เมื่อคำนวณจากจำนวนประชากรทั่วประเทศ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ที่มีทั้งสิ้น 66,188,503 คน หารเฉลี่ยได้ประชากร 189,110 คน ต่อ ส.ส. 1 คน จังหวัดไหนมีประชากรไม่ถึง 189,110 คน ให้มี ส.ส. ได้ 1 คน

ตามประกาศของ กกต.  จังหวัดที่มี ส.ส. มากที่สุดประกอบด้วย  กรุงเทพมหานคร มี ส.ส. ได้ 30 คน นครราชสีมา มี ส.ส. ได้ 14 คน ขอนแก่น อุบลราชธานี มี ส.ส. ได้ 10 คน อุดรธานี ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ ชลบุรี สงขลา นครศรีธรรมราช มี ส.ส. ได้ 8 คน

ส่วนจังหวัดที่มี ส.ส. ได้ 1 คน ประกอบด้วย ตราด นครนายก พังงา แม่ฮ่องสอน ระนอง สมุทรสงคราม สิงห์บุรี และอ่างทอง

ในจังหวัดที่มี ส.ส. ได้คนเดียว ผู้ที่จะลงสมัครและพรรคการเมืองสามารถออกสตาร์ตได้เลย ส่วนจังหวัดที่มี ส.ส. ได้หลายคนยังต้องรอการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าไม่น่านานเกินกว่า 2 เดือนหลังจากนี้

เมื่อทุกอย่างมีความชัดเจนขึ้น คนที่ต้องการเดินบนถนนการเมืองก็ต้องเร่งเตรียมความพร้อม

สำหรับอนาคตทางการเมืองของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) แม้จะยังทำเป็นอุบไต๋ไม่เปิดเผย แต่คอการเมืองตีความคำพูดที่ตอบคำถามสื่อมวลชนล่าสุดที่ว่า

“สนใจอะไรกับผม ผมบอกว่าหลัง พ.ร.บ. ออกมา นี่หลังหรือยัง หลังจากนี้ ปีหน้า ปีนู้น ก็หลังทั้งหมด ผมจะพูดเมื่อไรก็เรื่องของผม ผมตัดสินใจเอง เรื่องอะไรผมจะออกมาให้โดนด่าตั้งแต่วันนี้ ไม่บอกหรอก ปล่อยให้งง”

ทุกคนเห็นไปในทางเดียวกันว่า “บิ๊กตู่” ลงลุยสนามการเมืองแน่

สิ่งที่ทำให้หลายคนมั่นใจมากขึ้นไปอีกคือ การเผยแพร่ภาพกราฟิคของเพจที่ใช้ชื่อว่า ศูนย์ไซเบอร์กองทัพบก https://www.facebook.com/ArmyCyberCenter ซึ่งเป็นภาพ “บิ๊กตู่” เดินอย่างสง่าพร้อมสโลแกนว่า “4 ปีซ่อม 4 ปีสร้าง” และมีตัวหนังสือบรรยายว่า ช่วงเวลา 4 ปีที่ผ่านมานั้น รัฐบาลทหาร คสช. ภายใต้การนำของ “บิ๊กตู่” ได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง

เมื่อ 4 ปีซ่อม แล้ว 4 ปีสร้าง ก็ตีความได้ว่าจะขออยู่ในอำนาจอีก 4 ปี เพื่อสานงานต่อสร้างความเจริญให้บ้านเมือง

อย่างไรก็ตาม หลังภาพกราฟิคนี้ถูกเผยแพร่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากใน 2 แง่มุม หนึ่งคือลอกสโลแกนหาเสียงของพรรคไทยรักไทยมาทั้งดุ้น อีกหนึ่งคือไม่ให้พรรคอื่นหาเสียงผ่านโซเชียล แต่การปล่อยภาพแบบนี้ออกมาถือว่าหาเสียงล่วงหน้าเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นหรือไม่

ในส่วนความชัดเจนอนาคตทางการเมืองของ “บิ๊กตู่” ที่เคยบอกว่าจะประกาศให้ประชาชนทราบในเดือนกันยายน และเลื่อนออกไปโดยอ้างว่าพูดไว้แค่จะบอกหลัง พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.ประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่ไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนนั้น

นักเคลื่อนไหวอย่างนายไทกร พลสุวรรณ ตั้งข้อสังเกตว่าการยืดเวลาออกไปเป็นผลกระทบมาจากการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ที่ต้องรอดูให้ชัดเจนก่อนว่าใครจะเป็นคนนำพรรคประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้ง เพราะแคนดิเดต 2 คน มีแนวทางการเมืองต่างกัน

การที่พรรคประชาธิปัตย์จะได้หัวหน้าพรรคคนใหม่หรือคนเก่าจึงมีผลต่อยุทธศาสตร์ที่จะใช้เดินบนถนนการเมืองนั่นเอง

You must be logged in to post a comment Login