- ต้องมีก้างขวางคอไว้บ้างPosted 8 hours ago
- ส.ว.ต้องสร้างผลงานเชิดชูองค์กรPosted 2 days ago
- รอความจริงเปิดเผยPosted 5 days ago
- ไม่ประมาท โอกาสรอดมีเยอะPosted 5 days ago
- ล้างบางพระทาสยานรกPosted 6 days ago
- ยิ่งดิ้น ยิ่งจมPosted 1 week ago
- ไม่มีอะไรแน่นอนPosted 1 week ago
- ต้องเรียนวิชาป้องกันตัวเองPosted 2 weeks ago
- ยิ่งเรียน ยิ่งโง่ ยิ่งโต ยิ่งเซ่อPosted 2 weeks ago
- สื่อต้องเสนอข่าวสร้างสรรค์Posted 2 weeks ago
ปลดล็อกกัญชา / โดย นายหัวดี
คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด
ผู้เขียน : นายหัวดี
ถือเป็นการเคลื่อนไหวสำคัญเมื่อ “ป.ป.ส.” จะเสนอ คสช. ใช้ “มาตรา 44” ปลดล็อกให้วิจัยและใช้กัญชาทดลองทางการแพทย์ได้ ขณะที่การแก้กฎหมายปลดกัญชาออกจากยาเสพติดประเภท 5 เป็นไปอย่างล่าช้า
“นพ.โสภณ เมฆธน” ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม และประธานคณะกรรมการพิจารณาการนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ก็สนับสนุนให้ใช้ “มาตรา 44” เพราะจะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยที่จำเป็นต้องใช้อย่างมาก โดยพร้อมจะสกัดน้ำมันกัญชา ซึ่งสามารถนำไปรักษาบำบัดผู้ป่วยได้หลากหลาย ทั้งในรูปของครีมทาผิว ยาเหน็บ น้ำมันหยด เป็นต้น
“ไพศาล พืชมงคล” ย้ำว่าจำเป็นต้องใช้ “มาตรา 44” ปลดล็อกกัญชา มิฉะนั้นขบวนการเอาตีนราน้ำก็จะขวางจนไม่มีทางสำเร็จ ทั้งยังยืนยันว่าคนที่ป่วยด้วยโรคพาร์กินสันที่มือสั่นถึงขนาดตักข้าวกินไม่ได้นั้น สามารถรักษาให้มีชีวิตกลับสู่ความเป็นปรกติได้ด้วยยานาโนคือ ยาที่สกัดมาจากกัญชา
ผลวิจัยหลายประเทศยืนยันว่ากัญชามีประโยชน์มากกว่าโทษ หลายประเทศในยุโรปรวมถึงสหรัฐและแคนาดาก็เปิดเสรีให้กัญชาเป็นธุรกิจและเสพได้เสรี ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวและโกยภาษีมหาศาล
จากการประเมินของ Grand View Research บริษัทที่ปรึกษาของสหรัฐ ระบุว่า ตลาดกัญชาเพื่อการแพทย์ทั่วโลกอาจมีมูลค่าสูงถึง 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.9 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2025
หลายประเทศพัฒนากัญชามาใช้ทั้งทางการแพทย์และสันทนาการอย่างหลากหลาย จนกลายเป็นธุรกิจที่มีมูลค่ามหาศาล แต่สารขัณฑ์กลับยังย่ำอยู่กับวาทกรรม “คนดี (จอมปลอม)” แทบทุกเรื่อง!!
You must be logged in to post a comment Login