- อย่าไปอินPosted 7 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 1 day ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
สหรัฐบีบอิหร่านเหมือนโสมแดง
สหรัฐเชื่อการเจรจาที่แข็งกร้าวควบคู่กับมาตรการคว่ำบาตรอย่างหนักสามารถบีบให้เกาหลีเหนือเปลี่ยนท่าทีภายใน 12 เดือน จึงมีความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะใช้วิธีการเดียวกันกับอิหร่าน
ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่าน ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซีของสหรัฐว่า แบบจำลองเกาหลีเหนือไม่สามารถเป็นแบบจำลองที่ถูกต้อง เพราะนำมาเปรียบเทียบกับอิหร่านไม่ได้
มูลนิธิเพื่อการปกป้องประชาธิปไตยในสหรัฐมองว่า เกาหลีเหนือและอิหร่านมีความคล้ายกันอย่างชัดเจนทั้งเรื่องเป็นรัฐอันธพาลและเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ การใช้ยุทธศาสตร์กดดันขั้นสูงสุดจึงเป็นเรื่องชาญฉลาดและสมเหตุสมผล แต่จะมีความท้าทายในการดำเนินการ
นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ เปิดเผยกับสื่อว่า สหรัฐคาดหวังให้อิหร่านปรับเปลี่ยนพฤติกรรมครั้งใหญ่จึงจะเดินหน้าสิ่งที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกว่าการกดดันขั้นสูงสุดจนกว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง แต่อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสมัยรัฐบาลบารัค โอบามา เชื่อว่ายุทธศาสตร์ของประธานาธิบดีทรัมป์จะล้มเหลว เพราะไม่ได้ร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญอย่างสมาชิกในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และถูกศัตรูอิหร่านชี้นำมากเกินไป
ทางด้านสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ออกแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ว่า จะมุ่งมั่นปกป้องเสรีภาพของผู้ประกอบธุรกิจที่ทำธุรกิจชอบด้วยกฎหมายกับอิหร่านต่อไปด้วยการตั้งกลไกใหม่อำนวยความสะดวกให้แก่การชำระเงินในการนำเข้าสินค้าอิหร่าน รวมถึงน้ำมันและการส่งออกสินค้าให้แก่อิหร่าน
นางเฟเดริกา โมเกรินี หัวหน้านโยบายต่างประเทศอียู แถลงข่าวพร้อมกับนายโมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ที่สหประชาชาติว่า สมาชิกอียูจะตั้งนิติบุคคลขึ้นอำนวยความสะดวกการทำธุรกรรมที่ชอบธรรมกับอิหร่าน เพื่อให้บริษัทยุโรปสามารถค้าขายกับอิหร่านตามกฎหมายอียูได้ต่อไป และอาจเปิดให้ประเทศอื่นเข้าร่วมในอนาคต 5 ประเทศที่ร่วมลงนามในแผนปฏิบัติการครอบคลุมร่วม ซึ่งเป็นข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านเมื่อปี 2558 ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี จีน และรัสเซีย จะสนับสนุนให้อิหร่านใช้พลังงานนิวเคลียร์ทางพลเรือนต่อไป เพราะเป็นประโยชน์ของนานาชาติ และย้ำด้วยว่าอิหร่านได้ปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวเรื่องลดโครงการนิวเคลียร์อย่างมีนัยสำคัญแลกกับการให้นานาชาติยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร
You must be logged in to post a comment Login