- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
แรงกระเพื่อม‘บิ๊กตู่’
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
คำประกาศสนใจงานการเมืองของ “บิ๊กตู่” ไม่ต่างจากการโยนหินลงบ่อน้ำที่สร้างแรงกระเพื่อมเป็นวงกว้าง มีทั้งปฏิกิริยาด้านบวกและลบ ในด้านลบแน่นอนว่าไม่พ้นเสียงวิจารณ์ แต่ในด้านบวกส่งผลดีต่อการทำงานการเมืองของกลุ่มสามมิตรกับกลุ่มรัฐมนตรีที่คอยประสานงานที่ยังมีหลายอย่างไม่ลงตัว ซึ่งคำประกาศสนใจการเมืองน่าจะทำให้เคลียร์เรื่องที่ยังติดขัดได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังกระเพื่อมไปถึงการแย่งชิงเก้าอี้ผู้นำในพรรคประชาธิปัตย์ที่น่าจะเพิ่มดีกรีความเข้มข้นให้มากขึ้น และมีผลไปถึงกำลังใจของคนในพรรครวมพลังประชาชาติไทยของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ อีกด้วย
“ผมสนใจงานการเมือง” ประโยคสั้นๆของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เต็มไปด้วยความหมาย และส่งผลสะเทือนไปยังหลายกลุ่ม
กลุ่มแรกที่ได้รับผลกระทบในด้านบวกมากที่สุดคงหนีไม่พ้นกลุ่มสามมิตรที่เดินสายดูดอดีต ส.ส. จากหลายพรรคการเมืองเข้าร่วมงานก่อนหน้านี้
คำประกาศของ “บิ๊กตู่” น่าจะเป็นเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจให้กลับมากระชุ่มกระชวยอีกครั้ง หลังจากเริ่มห่อเหี่ยวเพราะขาดความมั่นใจว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามดีลที่พูดคุยกันไว้ก่อนหน้านี้
การประกาศสนใจงานการเมืองในช่วงก่อนการประชุมพรรคพลังประชารัฐเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและทีมงานบริหารพรรคในช่วงสุดสัปดาห์นี้น่าจะทำให้พรรคพลังประชารัฐกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
หลังคำประกาศของ “บิ๊กตู่” หัวขบวนที่จะมาขับเคลื่อนพรรคพลังประชารัฐก็เคลื่อนไหวทันที บรรดารัฐมนตรีที่มีชื่อจะเข้าร่วมบริหารพรรคพลังประชารัฐอย่างนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตบเท้าเข้าหารือกันที่ห้องทำงานนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ซึ่งตามข่าวบอกว่าเป็นหัวเรือใหญ่ที่เคยดีลกับกลุ่มสามมิตรที่ทำเนียบรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ากลุ่มของนายสมคิดกับกลุ่มสามมิตรภายใต้การนำของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ยังคุยรายละเอียดกันไม่ลงตัว 100%
“อนาคตทางการเมืองเมื่อพร้อมแล้วจะบอกให้ทราบ ส่วนจะไปร่วมประชุมกับพรรคพลังประชารัฐในวันที่ 29 กันยายนหรือไม่ ต้องรอดูกันเอาเอง ซึ่งในวันดังกล่าวจะพยายามพูดคุยกันให้จบเพื่อความชัดเจน เพราะที่ผ่านมาพูดคุยกันว่าจะเอาอย่างไร ขณะนี้ยังมีเวลา ยังไม่ตัดสินใจอะไร แต่ 29 กันยายนนี้น่าจะชัดเจน สำหรับรัฐมนตรีอื่นไม่ทราบ”
เป็นคำกล่าวของนายสนธิรัตน์หลังออกจากห้องนายสมคิด ซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่ายังมีบางอย่างไม่ลงตัว
คำประกาศสนใจงานการเมืองของ “บิ๊กตู่” อาจทำให้อะไรที่ยังติดขัดอยู่สามารถเคลียร์กันได้ง่ายขึ้น และเดินหน้าร่วมกันต่อไปได้
แม้จะไม่ทำให้เคลียร์กันได้จบแบบ 100% แต่อย่างน้อยก็น่าจะสามารถรักษาจุดร่วมสงวนจุดต่างเอาไว้ก่อน เดินหน้ากันไปก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันภายหลัง
แต่ไม่ว่าจะเดินหน้าไปก่อนอย่างไร ทุกอย่างก็ต้องตกลงกันให้ชัดเจนสะเด็ดน้ำก่อนมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้จังหวะการเดินสะดุด
ทั้งนี้ คาดว่าประเด็นที่ยังไม่ลงตัวในทางการเมืองน่าจะมีอยู่เพียงไม่กี่เรื่อง เช่น เรื่องเสบียงสนับสนุนไพร่พลในการทำศึกเลือกตั้ง ตัวผู้นำที่เหนือไปกว่าหัวหน้าพรรค คือคนที่จะเอาชื่อใส่ไว้ในบัญชีชื่อผู้ท้าชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีว่าจะเอาชื่อคนนั้นมาใส่เพื่อชูเป็นประเด็นหาเสียงเลยหรือจะซ่อนชื่อไว้รอเทียบเชิญไปเป็นนายกฯ ซึ่งการใส่ชื่อกับการซ่อนชื่อล้วนมีผลต่อการวางหมากในการหาเสียงเลือกตั้ง
นอกจากคำประกาศสนใจงานการเมืองของ “บิ๊กตู่” จะส่งผลต่อความเป็นไปของกลุ่มสามมิตร พรรคพลังประชารัฐแล้ว
ยังน่าจะมีแรงกระเพื่อมไปถึงการแย่งชิงเก้าอี้ผู้นำในพรรคประชาธิปัตย์ที่น่าจะช่วยเพิ่มดีกรีความเข้มข้นให้มากขึ้น และมีผลไปถึงกำลังใจของคนในพรรครวมพลังประชาชาติไทยของกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ อีกด้วย
You must be logged in to post a comment Login