- แก่อย่างไม่มีคุณค่าPosted 17 hours ago
- “ทักษิณ” ยังมีมนต์ขลังPosted 2 days ago
- อย่าไปอินPosted 5 days ago
- ปีดับคนดังPosted 6 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 7 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 1 week ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 1 week ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 2 weeks ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 2 weeks ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
กลับมาอีกครั้งกับ“มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23 และเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12”. 17- 28 ต.ค. นี้
สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย ประกาศความพร้อมจัด “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 23”และ “เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12 เริ่มวันพุธที่17ตุลาคม2561ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “อ่านออกเสียง” ชมนิทรรศหนังสือสาบสูญ 3018/ นิทรรศการสำหรับเด็กและครอบครัวWonder Land ดินแดนค้นพบตัวตน และนิทรรศการเยาวชน ท่องโลกมหัศจรรย์ของ HOSODA MAMORU…จากภาพฝันสู่แผ่นฟิล์ม เป็นต้น พร้อมเวทีเสวนาและกิจกรรมน่าสนใจอีกมากมายตลอด12 วัน โดย นางสุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย นายคธาวุฒิ เกนุ้ย อุปนายกฝ่ายในประเทศ สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย นายกิตติพล สรัคคานนท์ ผู้จัดทำนิทรรศการ “หนังสือสาบสูญ 3018” และนางสาวอรุณี อุนหะวรากร นักวาดเจ้าของภาพน่ารัก “การเดินทางของหมูป่า” จากเพจ SISIDEAร่วมสนทนาในงานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2561ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยมีผู้ร่วมงานอย่างคับคั่ง
นางสุชาดา สหัสกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดเผยว่า “มหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่23”ถือเป็นงานแสดงหนังสือระดับชาติที่ได้รับความสนใจและรอคอยจากบรรดานักอ่านมาตลอด โดยจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “อ่านออกเสียง” การอ่านออกเสียง คือ การอ่านให้มีเสียงดัง เป็นการอ่านเพื่อส่งสาร การอ่านออกเสียง ยิ่งออกเสียงดังเท่าไร ก็จะช่วยให้จดจำเนื้อหาได้ง่ายและได้มากขึ้น นอกจากนี้ผู้อ่านถึงจะอ่านหนังสือหรือบทความเรื่องเดียวกัน แต่ก็มีความเห็นที่แตกต่างกัน จึงต้องออกเสียง เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นซึ่งกันและกัน หนังสือและการอ่านจึงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันโดยตรงนั่นเอง และพิเศษสุดคือการจัดงาน“เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12” ขึ้นพร้อมกัน ทำให้งานครั้งนี้เป็นงานสำหรับทุกเพศและทุกวัยอย่างแท้จริง
“ปีนี้เรามีในงานมีนิทรรศการหลักๆ อยู่ 3 นิทรรศการ เริ่มจากนิทรรศการ ‘หนังสือสาบสูญ 3018’ บริเวณหน้าห้องเพลนารีฮอลล์/ นิทรรศการ WONDER LAND ดินแดนค้นพบตัวตน ที่ห้องมีทติ้งรูม 1-2 และนิทรรศการ ‘ท่องโลกมหัศจรรย์ของ HOSODA MAMORU… จากภาพฝันสู่แผ่นฟิล์ม’ โซนฮออล์เอ นอกจากนี้ยังมี นิทรรศการ ‘หนังสือติดดาว’/ นิทรรศการ ‘100ABCD’/นิทรรศการ ‘TK Book Rally รู้จักกันผ่านหนังสือ’และนิทรรศการ ‘สื่อสิ่งพิมพ์จีนสัญจร เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 2’รวมทั้งนิทรรศการอื่นๆ ที่จัดแสดงโดยหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่จะจัดแสดงให้ชมในงานครั้งนี้อีกด้วย”
“นิทรรศการหนังสือสาบสูญ 3018” เริ่มมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ‘หนังสือ 99.5%สูญสลายหายไปตามกาลเวลา และมีเพียงส่วนที่เหลือไม่ถึง 1% ด้วยซ้ำที่จะสามารถคงอยู่ต่อไป’ผู้ชมนิทรรศการจะจินตนาการไปสู่โลกอนาคต กับภาพจำลองของห้องเก็บข้อมูลในยามที่หนังสือไม่มีอยู่อีกแล้ว สิ่งที่คงเหลือไว้คือประวัติศาสตร์ และปูมบันทึกเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกหนังสือและการอ่านที่เปลี่ยนแปลงตลอดมา เพื่อเป็นการเน้นย้ำว่า ‘ผู้อ่าน’ มีส่วนตัดสินชี้ขาดความเป็นไปของหนังสือหรืองานเขียนต่างๆ อย่างไร เฉกเช่นเดียวกับสิ่งต่างๆ บนโลกใบนี้ที่เราจะเข้าใจได้ก็เมื่อทุกอย่างได้ดำเนินมาสู่จุดสิ้นสุด ซึ่งในนิทรรศการจะมีกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้เช้าชมได้ร่วมสนุกอีกด้วย
สำหรับกิจกรรมที่จัดขึ้นเป็นพิเศษเพื่อ “เทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12” ได้แก่
“นิทรรศการ WONDER LAND ดินแดนค้นพบตัวตน” นิทรรศการสำหรับเด็กอายุระหว่าง 5-11 ปี เพื่อให้เด็กได้ค้นพบสิ่งที่ตัวเองชอบและสนใจ จากโซนกิจกรรม10 ฐานที่ทั้งสนุกและสร้างการเรียนรู้แตกต่างกันไป โดยการเข้าชมนิทรรศการนี้ เด็กๆ จะต้องเข้าไปกับพ่อแม่หรือผู้ปกครอง เพื่อทำกิจกรรมแต่ละฐานร่วมกัน และมีของที่ระลึกพิเศษมอบให้หากร่วมกิจกรรมครบทุกฐาน
“นิทรรศการท่องโลกมหัศจรรย์ของ HOSODA MAMORU… จากภาพฝันสู่แผ่นฟิล์ม” นิทรรศการระดับโลกที่ผ่านการจัดแสดงทั้งใน กรุงปารีส เซี่ยงไฮ้ โตเกียว และไทเป และส่งตรงมางานมหกรรมหนังสือที่ กรุงเทพฯ โดยนำภาพสเก็ตช์และสตอรี่บอร์ดจริงของ Hosoda Mamoru (โฮโซดะมาโมรุ) ผู้กำกับภาพยนตร์อนิเมะชื่อดังและผลงานที่นำมาจัดแสดงในนิทรรศการครั้งนี้ล้วนมาจากภาพยนตร์ของเขาที่เข้าฉายในประเทศไทย และได้รับการตีพิมพ์เป็นนิยายและหนังสือการ์ตูนในฉบับภาษาไทยอีกด้วย
และครั้งแรกสำหรับงานเทศกาลหนังสือเด็กและเยาวชนที่จะเชิญเด็กจากชุมชนปีนัง ซึ่งอยู่ใกล้กับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่พวกเขากลับไม่เคยมีโอกาสได้เข้ามาร่วมงานเลย โดยจะเชิญมาเป็นแขกพิเศษร่วมงานเปิดนิทรรศการ WONDER LAND ดินแดนค้นพบตัวตนและมอบบัตรของขวัญ เพื่อนำไปซื้อหนังสือจากในงานอีกด้วย
ด้านเวทีเสวนาหรือเวทีเอเทรียม ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ถูกจับตามองในครั้งนี้เราได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ปาฐกถาพิเศษให้กับโครงการหนึ่งอ่านล้านตื่น ในหัวข้อ “การอ่านสร้างนวัตกรรม” ในวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม เวลา 11.00 น. อีกหนึ่งรายการสำคัญจากทางสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ คือการเสวนาในชื่อว่า “เสียงที่ไม่(เคย)ได้ยิน”ซึ่งจัดขึ้น 2 วันเริ่มจากวันที่ 18 ตุลาคมจะเป็นเวทีภาคประชาชน ผู้ร่วมเสวนาจะได้แก่เดย์ ฟรีแมน นักแสดงนางโชว์ตัวแม่และนักอ่านตัวยงบังเจ๊ะหัน ยะลา ชาวบ้านจากกระบี่ ผู้พลิกชีวิตจากศูนย์เป็นล้านด้วยความรู้จากการอ่าน พลอย – สโรชากิตติสิริพันธุ์ นักเขียนผู้ดวงตาพิการ เจ้าของวรรณกรรมเยาวชน“จนกว่าเด็กปิดตาจะโต” อักษรศาสตร์บัณฑิตเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และจิดานันท์เหลืองเพียรสมุท นักเขียนซีไรต์ที่อายุน้อยที่สุด และวันศุกร์ที่19ตุลาคม จะเป็นเวทีภาคการเมือง ซึ่งจะมีพรรคการเมืองต่างๆ ส่งผู้แทนเข้าร่วมเสวนาแนวคิดและความเห็นเกี่ยวกับหนังสือและการอ่านในประเทศไทยจากมุมมองของนักการเมือง โดยทั้งสองวันจะเริ่มเวลา 17:00 – 19:00 น. นอกเหนือจากนี้ ยังจะมีการเสวนาและการเปิดตัวหนังสือใหม่ จากผู้มีชื่อเสียง อาทิ ท่าน ว วชิรเมธี/ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ/ ดร. มีชัย วีระไวทยะ/ น้าเน็ก เกตุเสพย์สวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา/ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ/ ทนายษิทรา เบี้ยยังเกิด และ ยืนยง โอภากุล (แอ๊ด คาราบาว) ที่มากับ อาเลย์ดา เกวารา บุตรสาวคนโตของเช เกวาราบินตรงจากคิวบา เพื่อร่วมงานมหกรรมหนังสือครั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายละเอียดการเสวนาและกำหนดการเวทีเสวนาได้จาก www.facebook.com/Bookthai
พิเศษสุด โปสการ์ด “อ่านออกเสียง” Limited Editionการผนึกลายเส้นครั้งสำคัญจาก17 นักวาดชั้นนำและสำนักพิมพ์ชื่อดัง เริ่มจาก Art Jeeno/ Eat all day/ Jaytherabbit/ Sisidea/ คิ้วต่ำ/ เดอะดวง/ ตัวกลม/ ปังปอนด์/ มะม่วง/ มุนิน/ หนูหิ่น/ หัวแตงโม/ สำนักพิมพ์แจ่มใส/ สำนักพิมพ์นาบู/ สำนักพิมพ์พราว/ สำนักพิมพ์พูนิก้า และสำนักพิมพ์อี.คิว. พลัส แจกฟรีให้กับผู้เข้าชมงานมหกรรมหนังสือครั้งที่ 23และสำหรับหนอนหนังสือนักเดินทาง ต้องมารับหนังสือ Guidebook ท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี จากกรมการพัฒนาชุมชนที่จะนำมาแจกฟรีอีกเช่นกัน
พบกับหนังสือราคาพิเศษที่คัดสรรมาให้เลือกกว่า 1,000,000เล่ม จากสำนักพิมพ์ 376ราย รวมทั้งสิ้น 931บูธบนพื้นที่กว่า 20,000ตารางเมตรมาร่วมอ่านออกเสียงให้ดังสนั่นที่ “งานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 23”และ“เทศกาศหนังสือเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 12”ระหว่างวันพุธที่ 17–วันอาทิตย์ที่ 28ตุลาคม พ.ศ. 2561รวมทั้งสิ้น 12 วัน ตั้งแต่เวลา10.00 – 21.00 น. ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
You must be logged in to post a comment Login