“บิ๊กนิดหน่อย” จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประมุขพาราลิมปิกไทย เชื่อมั่น “ทัพพาราไทย” จะทำผลงานคว้าอันดับ 1 อาเซียน และอันดับ 6 เอเชียได้ตามเป้าหมาย หลัง “ทัพพาราไทย” ฟอร์มกระฉูด !!! กวาดเพิ่มอีก 7 ทอง 6 เงิน 5 ทองแดง โดย ทัพลูกเด้งไทย สุดสะเด่าซิวมากสุด 5 ทอง 3 เงิน 4 ทองแดง ด้าน “แวว” สายสุนีย์ จ๊ะนะ คว้าทองแรกในเอเชี่ยนพาราเกมส์หนนี้ให้ตัวเองได้แล้วในรายการ ดาบเอเป้ บุคคลหญิง คลาส บี หลังโชว์เพลงดาบฟันดับ เฉา จิง จิง คู่ปรับจากจีน 15- 8 ในรอบชิงฯ ขณะที่ ทีมบอคเซียคว้า 2 ทอง จาก วิษณุ ฮวดประดิษ์ ในบุคคลบีซี 1 และ วรวุฒิ แสงอำภา บุคคลบีซี 2
การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์ 2018 ที่ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 10 ต.ค.61 ที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยเหรียญทองในวันที่ 5 โดยไฮไลต์อยู่ที่กีฬาเทเบิลเทนนิส ซึ่ง ทัพนักตบลูกเด้งทีมชาติไทย ทำผลงานทะลุเข้ามาชิงชนะเลิศ ในหลายรายการ และสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้ถึง 5 ทอง 3 เงิน และ 4 ทองแดง โดยรายการที่น่าสนใจอยู่ที่ ประเภท คู่ผสม คลาส 4-5 รอบชิงชนะเลิศ เป็นการพบกันระหว่างคู่ของไทย ที่มี วันชัย ชัยวุฒิ จับคู่กับ วิจิตรา ใจอ่อน ลงดวลกับ คิม กี ยอง กับ คอง อุน ยอง จากเกาหลีใต้ ซึ่งเกมการเป็นอย่าวสนุกสูสีตลอดเกมการแข่งขัน แต่ทว่า เป็นคู่หูนักตบลูกเด้ง ที่อาศัยทีมเวิร์คและเพลงตบที่เฉียบขาดกว่าตบต้อนเอาชนะ คู่นักปิงปอง แดนโสมขาวไปได้แบบสบาย 2-0 เกม (11-5,11-6) คว้าเหรียญทองให้กับทัพพาราไทย
ขณะเดียวกันในประเภท คู่ผสม คลาส 2-3 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการดวลกันเองของนักกีฬาไทย ระหว่าง คู่ของ อนุรักษ์ ลาววงษ์ กับ ดารารัตน์ อาสายุทธ์ พบกับ คู่ของ วิทยา วิชัยวัฒนา กับ ชิลชิตพยัค บุตรวรรณสิริณา ปรากฎว่า เป็นคู่ของ อนุรักษ์ กับ ดารารัตน์ ที่เอาชนะไปได้ 2-0 เกม (11-4,11-6) พร้อมความเหรียญทองที่ 9 ให้ไทยอีกเหรียญ ส่วนคู่ของ วิทยา และ ชิลชิตพยัค เหรียญเงินไปครอง
จากนั้นในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทีมปิงปองไทย ยังสามารถคว้าเหรียญรางวัลเพิ่มได้อีก 3 เหรียญทอง จาก ประเภทชายคู่ คลาส 6-7 ซึ่ง รุ่งโรจน์ ไทยนิยม กับ เฉลิมพงษ์ พันภู่ โชว์ฟอร์มแกร่งตบเอาชนะ คู่ของ เจสัน กอร์ลี่ กับ ราห์มัด ฮิดายาด จากอินโดนีเซีย ในรอบชิงฯ 2-0 เกม (11-5,11-8) ,ประเภท ชายคู่ คลาส 2-3อนุรักษ์ ลาววงษ์ กับ ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น ที่เอาชนะ คู่ของ เซเฟรนโต้ กับ ชาโย บัมบูดี่ จากอินโดฯ ในรอบชิงฯ 2-0 เกม (11-5,11-4) และ ประเภท หญิงคู่ คลาส 3-5 คู่ของ ภัทรวดี วราฤทธิ์ดำรงกุล กับ ดารารัตน์ อาสายุทธ์ ที่เอาชนะ คู่ของ ปาเทค พาวินาเบน กัยชย พาเทล โซนาเบน ฃจากอินเดีย ในรอบชิงฯ 2-0 เกม (11-4,14-12)
นอกจากนี้ ยังคว้าเพิ่มได้อีก 2 เหรียญเงิน จาก วชิราภรณ์ เทพหมอยา กับ บรรพต ศิลปคง ในประเภทคู่ผสม คลาส 9-10 , นิยม นาชัย กับ วันชัย ชัยวุฒิ ในประเภทชายคู่ คลาส 4-5 และอีก 4 เหรียญทองแดง จาก ชญานันทน์ เสฎฐีศรีเกิดกุล กับ วชิราภรณ์ เทพหมอยา ในประเภทหญิงคู่ คลาส 6-10 , วิทยา วิชัยวัฒนา กับ เจษฎา ยอดยางแดง ในประเภทชายคู่ คลาส 4-5, ยุทธนา งามสง่า กับ สุริยนต์ ถาแปง ในประเภทชายคู่ คลาส 6-7 และ บรรพต ศิลปคง กับ ชาญยุทธ อุทัยสาร์ ในประเภท ชายคู่ คลาส 10
ด้าน บอคเซีย ทัพนักโยนลูกนิ่มทีมชาติไทย ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กัน คว้าเหรียญรางวัลเพิ่มให้ทัพไทย ได้อีก 2 ทอง 2 เงิน โดยได้จากประเภทบุคคลบีซี 1 รอบชิงชนะเลิศ จาก วิษณุ ฮวดประดิษฐ์ ที่โชว์ฟอร์มเฉียบโยนเอาชนะ จุง ซุง จูน จากเกาหลีใต้ 7-3 คะแนน ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าเหรียญมาครองได้สำเร็จ และในประเภทบุคคล บีซี 2 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งนักกีฬาไทยชิงกันเอง โดย วรวุฒิ แสงอำภา เอาชนะ วัชรพล วงษา ไปได้ 4-2 ทำให้ วรวุฒิได้เหรียญทอง และวัชรพลได้เหรียญเงิน นอกจากนี้ในประเภทบุคคล บีซี 4 ฤทธิไกร สมสนุก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้เช่นกัน ก่อนที่จะแพ้ให้กับ หลิน ซิเม่ย จากจีน 1-5 ทำให้ได้เพียงแค่เหรียญเงินเท่านั้น
ยิงปืน ไฮไลต์อยู่ที่ประเภทปืนยาวอัดลม ท่ายืน 50 ม. คลาส SH2 ซึ่ง จ.อ.อนุสรณ์ ไชยชำนาญ นักแม่นปืนทีมชาติไทย ลงล่าเหรียญทองในรายการนี้ด้วย ปรากฎว่า อนุสรณ์ สามารถโชว์ฟอร์ลั่นไก ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมยิงทำแต้มเข้ามาเป็นอันดับ 2 โดยยิงได้ 249.8 คะแนน คว้าเหรียญเงินมาครอง ส่วนเหรียญทองเป็นของ ลี จี ซอค จากเกาหลีใต้ ที่ยิงได้ 251.4 คะแนน ส่วนประเภท ปืนยาวอัดลม 10 เมตร ท่านอน ไม่แบ่งเพศ SH 1 รอบชิงฯ ซึ่งมี อติเดช อินทนนท์ นักแม่นปืนไทยลงล่าทองด้วย แต่ทว่า โชคร้ายไกปืนมีปัญหา ทำให้ลั่นไกยิงทำแต้มได้เพียงแค่ 228.8 คะแนน เป็นอันดับ 3 ทำให้ได้เพียงแค่เหรียญทองแดง ส่วนเหรียญทองเป็นของ ตง เฉา จากจีน ยิงได้ 252.2 คะแนน
วีลแชร์ฟันดาบ ไฮไลต์อยู่ที่ ประเภท ดาบเอเป้ บุคคลหญิง คลาส บี ซึ่ง สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักวีลแชร์ฟันดาบดีกรีเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์ ที่ก่อนหน้านี้คว้าไปแล้ว 3 เงิน 1 ทองแดง ในศึกครั้งนี้ สามารถฝ่าด่านเข้าชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จ ลงดวลกับ เฉา จิง จิง คู่ปรับจากจีน โดยการแข่งปรากฎว่า สายสุนีย์ อาศัยความเก๋าดักฟันทำแต้มเอาชนะ คู่ปรับจากจีนไปได้แบบสนุก 15-8 คะแนน คว้าเหรียญทองแรกในเอเชี่ยนพาราเกมส์หนนี้ให้กับตัวเองได้สำเร็จ
ด้าน “บิ๊กนิดหน่อย” จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ที่เดินทางมาให้กำลังใจนักกีฬาแบบติดขอบสนามในวันนี้ กล่าวว่า จากผลการแข่งขัน ณ เวลานี้ ต้องบอกว่าเป้าหมายการเป็นอันดับที่ 1 ของอาเซียน และอันดับ 6 ของเอเชีย ก็อยู่ไม่ไกล แม้ว่าเวลานี้เหรียญรางวัลเราจะเรายังตามเจ้าภาพอยู่ แต่เรายังอยู่ในเส้นทาง และเราที่สำคัญในการแข่งขันครั้งนี้นีเราได้เห็นนักกีฬาหน้าใหม่ที่ก้าวขึ้นมาคว้าเหรียญรางวัลได้ในหลายชนิดกีฬาโดยเฉพาะกีฬาเทเบิลเทนนิสที่คว้าได้ถึง 5 ทองในวันนี้ ทำให้ตนยังเชื่อมั่นเราจะยังทำผลงานได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอนเพราะ
You must be logged in to post a comment Login