วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

“ทัพพาราไทย” ฟอร์มกระฉูด !!! กวาดเพิ่มอีก 7 ทอง 6 เงิน 5 ทองแดง

On October 10, 2018

“บิ๊กนิดหน่อย” จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประมุขพาราลิมปิกไทย เชื่อมั่น “ทัพพาราไทย” จะทำผลงานคว้าอันดับ  1 อาเซียน และอันดับ 6 เอเชียได้ตามเป้าหมาย  หลัง “ทัพพาราไทย” ฟอร์มกระฉูด !!! กวาดเพิ่มอีก  7 ทอง 6 เงิน  5 ทองแดง โดย ทัพลูกเด้งไทย สุดสะเด่าซิวมากสุด  5 ทอง  3 เงิน  4 ทองแดง  ด้าน “แวว”  สายสุนีย์ จ๊ะนะ คว้าทองแรกในเอเชี่ยนพาราเกมส์หนนี้ให้ตัวเองได้แล้วในรายการ ดาบเอเป้ บุคคลหญิง  คลาส บี หลังโชว์เพลงดาบฟันดับ   เฉา จิง จิง คู่ปรับจากจีน  15- 8 ในรอบชิงฯ  ขณะที่ ทีมบอคเซียคว้า 2 ทอง จาก วิษณุ ฮวดประดิษ์ ในบุคคลบีซี 1 และ วรวุฒิ แสงอำภา บุคคลบีซี  2

 

การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนพาราเกมส์ 2018 ที่ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 10 ต.ค.61 ที่ผ่านมา เป็นการชิงชัยเหรียญทองในวันที่ 5 โดยไฮไลต์อยู่ที่กีฬาเทเบิลเทนนิส ซึ่ง ทัพนักตบลูกเด้งทีมชาติไทย ทำผลงานทะลุเข้ามาชิงชนะเลิศ ในหลายรายการ และสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้ถึง 5 ทอง 3 เงิน และ 4 ทองแดง  โดยรายการที่น่าสนใจอยู่ที่ ประเภท คู่ผสม คลาส  4-5 รอบชิงชนะเลิศ  เป็นการพบกันระหว่างคู่ของไทย  ที่มี วันชัย ชัยวุฒิ จับคู่กับ วิจิตรา ใจอ่อน ลงดวลกับ คิม กี ยอง กับ  คอง อุน ยอง จากเกาหลีใต้  ซึ่งเกมการเป็นอย่าวสนุกสูสีตลอดเกมการแข่งขัน แต่ทว่า เป็นคู่หูนักตบลูกเด้ง ที่อาศัยทีมเวิร์คและเพลงตบที่เฉียบขาดกว่าตบต้อนเอาชนะ คู่นักปิงปอง แดนโสมขาวไปได้แบบสบาย 2-0 เกม (11-5,11-6)  คว้าเหรียญทองให้กับทัพพาราไทย

 

ขณะเดียวกันในประเภท คู่ผสม คลาส 2-3 รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งเป็นการดวลกันเองของนักกีฬาไทย  ระหว่าง คู่ของ อนุรักษ์ ลาววงษ์ กับ ดารารัตน์  อาสายุทธ์ พบกับ คู่ของ วิทยา วิชัยวัฒนา กับ ชิลชิตพยัค บุตรวรรณสิริณา  ปรากฎว่า เป็นคู่ของ   อนุรักษ์ กับ ดารารัตน์  ที่เอาชนะไปได้ 2-0 เกม (11-4,11-6) พร้อมความเหรียญทองที่  9 ให้ไทยอีกเหรียญ ส่วนคู่ของ วิทยา และ ชิลชิตพยัค เหรียญเงินไปครอง

 

จากนั้นในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทีมปิงปองไทย ยังสามารถคว้าเหรียญรางวัลเพิ่มได้อีก 3 เหรียญทอง  จาก ประเภทชายคู่ คลาส 6-7 ซึ่ง รุ่งโรจน์ ไทยนิยม กับ เฉลิมพงษ์ พันภู่  โชว์ฟอร์มแกร่งตบเอาชนะ คู่ของ เจสัน กอร์ลี่ กับ ราห์มัด ฮิดายาด จากอินโดนีเซีย ในรอบชิงฯ 2-0 เกม (11-5,11-8) ,ประเภท ชายคู่  คลาส 2-3อนุรักษ์ ลาววงษ์ กับ ยุทธจักร กลิ่นบานชื่น ที่เอาชนะ คู่ของ เซเฟรนโต้ กับ ชาโย บัมบูดี่ จากอินโดฯ ในรอบชิงฯ  2-0 เกม (11-5,11-4)  และ  ประเภท หญิงคู่ คลาส 3-5 คู่ของ ภัทรวดี วราฤทธิ์ดำรงกุล กับ ดารารัตน์  อาสายุทธ์  ที่เอาชนะ คู่ของ  ปาเทค พาวินาเบน กัยชย พาเทล โซนาเบน ฃจากอินเดีย ในรอบชิงฯ 2-0 เกม (11-4,14-12)

 

 

นอกจากนี้ ยังคว้าเพิ่มได้อีก 2 เหรียญเงิน จาก วชิราภรณ์ เทพหมอยา กับ บรรพต ศิลปคง ในประเภทคู่ผสม คลาส 9-10 , นิยม นาชัย กับ วันชัย ชัยวุฒิ ในประเภทชายคู่ คลาส 4-5 และอีก 4 เหรียญทองแดง จาก ชญานันทน์ เสฎฐีศรีเกิดกุล กับ วชิราภรณ์  เทพหมอยา ในประเภทหญิงคู่ คลาส 6-10 , วิทยา วิชัยวัฒนา กับ เจษฎา  ยอดยางแดง  ในประเภทชายคู่ คลาส 4-5, ยุทธนา งามสง่า กับ สุริยนต์ ถาแปง  ในประเภทชายคู่  คลาส 6-7 และ บรรพต ศิลปคง กับ ชาญยุทธ  อุทัยสาร์ ในประเภท ชายคู่  คลาส 10

 

 

ด้าน บอคเซีย  ทัพนักโยนลูกนิ่มทีมชาติไทย ทำผลงานได้ดีไม่แพ้กัน คว้าเหรียญรางวัลเพิ่มให้ทัพไทย ได้อีก 2 ทอง  2 เงิน  โดยได้จากประเภทบุคคลบีซี 1 รอบชิงชนะเลิศ  จาก วิษณุ ฮวดประดิษฐ์  ที่โชว์ฟอร์มเฉียบโยนเอาชนะ จุง ซุง จูน จากเกาหลีใต้ 7-3 คะแนน ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าเหรียญมาครองได้สำเร็จ   และในประเภทบุคคล บีซี 2 รอบชิงชนะเลิศ  ซึ่งนักกีฬาไทยชิงกันเอง โดย วรวุฒิ แสงอำภา  เอาชนะ วัชรพล วงษา  ไปได้ 4-2 ทำให้ วรวุฒิได้เหรียญทอง และวัชรพลได้เหรียญเงิน นอกจากนี้ในประเภทบุคคล บีซี 4 ฤทธิไกร สมสนุก ผ่านเข้าชิงชนะเลิศได้เช่นกัน ก่อนที่จะแพ้ให้กับ  หลิน ซิเม่ย จากจีน 1-5 ทำให้ได้เพียงแค่เหรียญเงินเท่านั้น

 

ยิงปืน ไฮไลต์อยู่ที่ประเภทปืนยาวอัดลม ท่ายืน 50 ม. คลาส SH2  ซึ่ง จ.อ.อนุสรณ์ ไชยชำนาญ  นักแม่นปืนทีมชาติไทย ลงล่าเหรียญทองในรายการนี้ด้วย ปรากฎว่า อนุสรณ์  สามารถโชว์ฟอร์ลั่นไก ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมยิงทำแต้มเข้ามาเป็นอันดับ  2 โดยยิงได้  249.8 คะแนน คว้าเหรียญเงินมาครอง  ส่วนเหรียญทองเป็นของ  ลี จี ซอค จากเกาหลีใต้ ที่ยิงได้ 251.4 คะแนน  ส่วนประเภท ปืนยาวอัดลม 10 เมตร ท่านอน ไม่แบ่งเพศ  SH 1  รอบชิงฯ ซึ่งมี  อติเดช อินทนนท์ นักแม่นปืนไทยลงล่าทองด้วย แต่ทว่า  โชคร้ายไกปืนมีปัญหา ทำให้ลั่นไกยิงทำแต้มได้เพียงแค่  228.8 คะแนน เป็นอันดับ  3 ทำให้ได้เพียงแค่เหรียญทองแดง ส่วนเหรียญทองเป็นของ ตง เฉา จากจีน ยิงได้ 252.2 คะแนน

 

วีลแชร์ฟันดาบ ไฮไลต์อยู่ที่ ประเภท ดาบเอเป้ บุคคลหญิง คลาส บี ซึ่ง สายสุนีย์ จ๊ะนะ นักวีลแชร์ฟันดาบดีกรีเหรียญทองพาราลิมปิกเกมส์  ที่ก่อนหน้านี้คว้าไปแล้ว  3 เงิน  1 ทองแดง ในศึกครั้งนี้  สามารถฝ่าด่านเข้าชิงชนะเลิศ ได้สำเร็จ ลงดวลกับ  เฉา จิง จิง คู่ปรับจากจีน  โดยการแข่งปรากฎว่า  สายสุนีย์ อาศัยความเก๋าดักฟันทำแต้มเอาชนะ คู่ปรับจากจีนไปได้แบบสนุก 15-8 คะแนน คว้าเหรียญทองแรกในเอเชี่ยนพาราเกมส์หนนี้ให้กับตัวเองได้สำเร็จ

 

 

ด้าน “บิ๊กนิดหน่อย” จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี  ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย ที่เดินทางมาให้กำลังใจนักกีฬาแบบติดขอบสนามในวันนี้ กล่าวว่า  จากผลการแข่งขัน ณ เวลานี้ ต้องบอกว่าเป้าหมายการเป็นอันดับที่ 1 ของอาเซียน และอันดับ 6 ของเอเชีย ก็อยู่ไม่ไกล แม้ว่าเวลานี้เหรียญรางวัลเราจะเรายังตามเจ้าภาพอยู่ แต่เรายังอยู่ในเส้นทาง และเราที่สำคัญในการแข่งขันครั้งนี้นีเราได้เห็นนักกีฬาหน้าใหม่ที่ก้าวขึ้นมาคว้าเหรียญรางวัลได้ในหลายชนิดกีฬาโดยเฉพาะกีฬาเทเบิลเทนนิสที่คว้าได้ถึง  5 ทองในวันนี้ ทำให้ตนยังเชื่อมั่นเราจะยังทำผลงานได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอนเพราะ


You must be logged in to post a comment Login