เร่งซาอุฯสรุปเรื่องนักข่าวหายตัว

• Tweet
• 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ ได้มีโอกาสสนทนาทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของซาอุดีอาระเบียเพื่อหารือและขอให้มีการชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล โดยผู้นำสหรัฐกล่าวว่าได้หารือเรื่องนี้กับรัฐบาลซาอุดีอาระเบียมากกว่า 1 ครั้ง นับตั้งแต่มีรายงานออกมาว่านายคาช็อกกีหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยหลังเข้าไปติดต่อด้านเอกสารที่สถานกงสุลซาอุดีอาระเบียที่เมืองอิสตันบูลเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา

ขณะที่วุฒิสมาชิกจากทั้งพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันรวม 22 คน ร่วมกันยื่นหนังสือถึงประธานาธิบดีทรัมป์เรียกร้องให้ใช้อำนาจตามกฎหมายแมกนิตสกี ฉบับปี 2519 เพื่อสืบสวนสอบสวนกรณีที่เกิดขึ้นกับนายคาช็อกกี และพิจารณาความเหมาะสมในการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อบุคคลซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคนของรัฐบาลสหรัฐยังรักษาท่าทีในการแสดงทรรศนะต่อหลักฐานของสื่อตุรกีหลายแห่งที่อ้างว่านายคาช็อกกีวัย 59 ปี ซึ่งเป็นอดีตคนวงในของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย แต่กลายเป็นนักวิจารณ์การเมืองและเขียนบทความโจมตีมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน หลายครั้งในช่วงหลัง ติดกับของเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียซึ่งล่อลวงนายคาช็อกกีเข้าไปที่สถานกงสุล แล้วปล่อยให้ถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมโดยหน่วยสังหารเฉพาะกิจ 15 คนที่เดินทางตรงมาจากกรุงริยาด

ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ของตุรกีทุกฉบับลงภาพชื่อและใบหน้าของชายทั้ง 15 คนบนหน้าหนึ่งของฉบับวันพุธที่ผ่านมา ส่วนข่าวทางโทรทัศน์เผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มคนเหล่านี้ผ่านขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง และภาพเคลื่อนไหวเป็นช่วงเวลาที่นายคาช็อกกีเดินเข้าสู่สถานกงสุลก่อนหายตัวไป

ด้านเดอะ วอชิงตัน โพสต์ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของนายคาช็อกกีในสหรัฐ ตำหนิคำขอร้องของประธานาธิบดีทรัมป์ต่อซาอุดีอาระเบียว่าไม่จริงใจ ในเวลาเดียวกัน เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระดับสูงในรัฐบาลตุรกีว่า ทีมสังหารลงมือตามคำสั่งจากสถาบันสูงสุดในกรุงริยาด ใช้เวลาอยู่ในสถานกงสุลประมาณ 2 ชั่วโมง โดยมีแพทย์ซึ่งนำเลื่อยหั่นกระดูกมาด้วย และเมื่อเสร็จภารกิจทีมงานเดินทางออกจากเมืองอิสตันบูลแยกย้ายไปคนละจุดหมาย

You must be logged in to post a comment Login