- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
‘ดอน’อาฟเตอร์ช็อก
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
การเมืองหลังวันที่ 31 ตุลาคมอาจจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงหากผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญออกมาว่านายดอน ปรมัตถ์วินัย ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีตามคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง หากเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมีอันต้องว่างลงทำให้ต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรี จะเกิดอาฟเตอร์ช็อกไปถึง 4 รัฐมนตรีที่เปิดตัวเล่นการเมืองสังกัดพรรคพลังประชารัฐที่ต้องเจอแรงกดดันให้ลาออก เพื่อเปิดโอกาสให้ปรับคณะรัฐมนตรีไปพร้อมกันในครั้งเดียว ไม่ต้องปรับอีกครั้งหลังมีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง ตามที่ประกาศไว้ว่าจะลาออกเมื่อถึงเวลาเหมาะสม
การเมืองไม่ว่ายุคใดยังหนีไม่พ้นการประดิษฐ์คำแบบศรีธนญชัยมาใช้ตอบโต้กล่าวหากัน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองที่มาจากการแต่งตั้งหรือลากตั้ง
เป็นเรื่องน่าขำที่ยุคปัจจุบันยังเถียงกันเรื่อง “บัตรคนจน” กับบัตร “สวัสดิการแห่งรัฐ” โดยไม่ดูสาระสำคัญของสิ่งที่ประชาชนได้รับจากบัตร
ฝ่ายหนึ่งเรียกว่า “บัตรคนจน” เพราะเห็นว่ารัฐบาลใช้งบประมาณหาเสียงกับผู้มีรายได้น้อยแบบลดแลกแจกแถมให้ฟรี เพื่อมุ่งหวังผลทางการเมือง และเป็นการแบ่งแยกประชาชนระหว่างคนมีบัตรกับไม่มีบัตร
ฝ่ายหนึ่งบอกว่า “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ทำเพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยให้มีโอกาสทางสังคม บรรเทาความเดือดร้อน ไม่ได้หวังคะแนนเสียง หวังความนิยมทางการเมือง
อีกเรื่องที่เถียงกันหน้าดำหน้าแดงคือการโดดเข้าสู่โลกโซเชียลอย่างเต็มรูปแบบของผู้นำรัฐบาลที่ฝ่ายหนึ่งยืนยันไม่ได้ทำเพื่อหาเสียง ไม่ได้ทำเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่าเป็นการเอาเปรียบคนอื่นที่ยังไม่สามารถหาเสียงผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ได้เพราะติดคำสั่งของฝ่ายแรก
ขณะที่ประชาชนน่าจะรู้เป้าหมายของการโดดมาเล่นเครือข่ายสังคมออนไลน์ในตอนนี้ที่ใกล้จะมีการเลือกตั้งว่าคืออะไร เพราะประชาชนมีข้อสงสัยเหมือนกันว่าอยู่มาตั้งนาน ประกาศต่อสังคมบ่อยๆว่าไม่ชอบสื่อโซเชียล แล้วทำไมจึงอยากมาสื่อสารกับประชาชนผ่านโลกโซเชียลในตอนนี้
ตัดฉากมาที่เรื่องที่อาจส่งผลกระทบต่อรัฐบาลทหาร คสช. ที่อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลง นั่นคือกรณีการขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดกรณีคู่สมรสถือหุ้นเกินกว่ากฎหมายกำหนด และไม่ได้แจ้งต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาพยานหลักฐานต่างๆครบถ้วนแล้ว และนัดตัดสินวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เวลา 14.00 น.
ถ้าผลออกมาว่าผิดก็ต้องพ้นจากการทำหน้าที่ ซึ่งจะส่งผลให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่างลง จำเป็นต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีหาคนใหม่เข้าไปทำหน้าที่แทน และในโอกาสเดียวกันนี้อาจเกิดอาฟเตอร์ช็อกไปถึงรัฐมนตรีตำแหน่งอื่นๆด้วย
โดยเฉพาะ 4 รัฐมนตรีที่เปิดตัวเล่นการเมืองกับพรรคพลังประชารัฐ
แม้เดิมที 4 รัฐมนตรีอาจมีความตั้งใจจะลาออกหลังจากมีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้งเพื่อไปทำงานการเมืองเต็มเวลาในการจัดทัพสู้ศึกเลือกตั้งและตัดข้อครหาเอาเปรียบคนอื่น ตัดความเสี่ยงการทับซ้อนในอำนาจหน้าที่ที่อาจทำให้มีความเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย
แต่หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้นายดอนต้องพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี และจำเป็นต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรี ไม่ว่า 4 รัฐมนตรีจะถือโอกาสลาออกเพื่อให้มีการปรับคณะรัฐมนตรีไปพร้อมกันครั้งเดียวเลยหรือไม่ จะต้องมีแรงกดดันให้ลาออกแน่นอน
ทั้งนี้เพราะดูตามเงื่อนเวลาที่คาดกันว่าจะมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมาในช่วงกลางเดือนธันวาคมก็เหลือเวลาอยู่ในตำแหน่งเพียงเดือนเศษ หากคิดจะลาออกหลังมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งอยู่แล้วไม่มีความจำเป็นต้องยื้ออยู่ในตำแหน่งแล้วไปลาออกตอนนั้น ซึ่งจะทำให้ต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรีแบบขยักขย่อน
อย่างไรก็ตาม หากผู้มีอำนาจยังอยากให้ 4 รัฐมนตรีนั่งทับเก้าอี้ต่อไปจนนาทีสุดท้ายไม่ว่าจะด้วยเหตุผลข้ออ้างใดก็ยังพอมีทางออกที่ทำได้คือ ตั้งรองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งรักษาการตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไปพลางก่อน รอให้ถึงเวลา 4 รัฐมนตรีต้องลาออกเพื่อลดแรงกดดันทางการเมืองค่อยปรับคณะรัฐมนตรีพร้อมกันในครั้งเดียวก็สามารถทำได้
แต่ทั้งหมดนี้อาจไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้หากวันที่ 31 ตุลาคม ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญออกมาว่านายดอนไม่ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี
You must be logged in to post a comment Login