- ปีดับคนดังPosted 8 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 1 day ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 3 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 1 week ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
ช่องว่างโอกาสทางการศึกษาไทยยังสูงถึง20เท่า
กสศ. ชี้ปมการศึกษาไทยเหมือนแฝดสยาม ต้องแก้ความเหลื่อมล้ำทั้งรายได้และการศึกษา แนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดสรรทรัพยากรการศึกษาเสมอภาค ช่วยเพิ่มดัชนีทุนมนุษย์ไทยได้จริง
ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้ช่วยผู้จัดการ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา(กสศ.) เปิดเผยว่า จากรายงานดัชนีพัฒนาทุนมนุษย์ของเวิลด์แบงก์ หรือ Human Capital Index (HCI) ที่รายงานค่าเฉลี่ยของจำนวนปีการศึกษาของเด็กไทยอยู่ที่ 12.4 ปี แต่มีจำนวนปีของการเรียนรู้ที่มีคุณภาพอยู่เพียง 8.6 ปี ช่องว่างประมาณ 4 ปีนี้สะท้อนว่า แม้เด็กไทยจะอยู่ในระบบการศึกษานานถึง 12 ปี แต่ไม่ใช่ทุกช่วงเวลาที่ได้เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ หากนำไปพิจารณารวมกับดัชนีทุนมนุษย์ของประเทศไทยที่มีค่า 0.6 หมายความว่า โดยเฉลี่ยแล้วเด็กไทยที่เกิดวันนี้ จะมีผลิตภาพเพียงประมาณ 60% ของศักยภาพสูงสุดของเขา (Full Productivity) เท่านั้น
“ปัจจุบันไทยลงทุนในด้านการศึกษาถึง 6.1%ของจีดีพีประเทศ และสุขภาพ 3.7% ของจีดีพี รวมแล้วลงทุนสูงเกือบ 10% ของจีดีพี ปัญหาไม่ได้อยู่ที่งบประมาณว่าไม่พอ แต่ต้องลงทุนให้ไปถึงปัญหาที่แท้จริง มุ่งจัดสรรทรัพยากรอย่างเสมอภาคและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อขยับดัชนี HCI ให้สูงขึ้น หรือทำให้มีทุนมนุษย์เพิ่มขึ้นได้ในอนาคต ” ดร.ไกรยส กล่าว
ดร.ไกรยส กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังมีช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาสูงเกือบ 20 เท่า คือ เด็กที่อยู่ในครอบครัวที่ยากจนที่สุด 20% แรกของประเทศ มีโอกาสแค่ 5% เท่านั้นที่จะไปสู่การศึกษาในระดับอุดมศึกษาได้ ในขณะที่เด็กที่อยู่ในครอบครัวร่ำรวยที่สุด 20% แรกของประเทศ มีโอกาส 100 % หากประเทศไทยต้องการเติบโตยั่งยืนในอนาคต ต้องปฎิรูปกระบวนการลงทุนในมนุษย์ทั้งด้านสุขภาพและด้านการศึกษา โดยปัจจุบันประเทศเพื่อนบ้านเราหลายประเทศมีค่าดัชนีทุนมนุษย์ที่สูงกว่าไทยไปแล้ว เช่น จีน (0.67) เวียดนาม (0.67) และ มาเลเซีย (0.62) ประเทศเหล่านี้สามารถลงทุนในการพัฒนาทุนมนุษย์ได้มีประสิทธิภาพกว่าไทย ทำให้ในอนาคตจะมีความมั่นคงยั่งยืนและมีแนวโน้มแซงหน้าประเทศไทยได้
ดร.ไกรยส กล่าวว่า ค่าดัชนี HCI ที่ 0.6 ไม่ได้หมายความว่าประเทศไทยไม่มีคนเก่งที่มีผลิตภาพสูง แต่ปัญหาอยู่ที่การจัดสรรงบประมาณในการพัฒนาทุนมนุษย์ทั้งด้านการศึกษา สุขภาพ และด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้มีประสิทธิภาพ ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ ซึ่งหากหน่วยงานต่างๆสามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้ ก็จะส่งผลต่อการเพิ่มค่าดัชนีทุนมนุษย์ให้ดีขึ้นได้ กสศ. เองก็มีมาตรการสนับสนุนที่จะช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยเพิ่มดัชนีพัฒนาทุนมนุษย์ (HCI) ได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นมาตรการขจัดปัญหาเด็กนักเรียนนอกระบบการศึกษา การอุดหนุนงบประมาณช่วยเหลืออย่างมีเงื่อนไขสำหรับเด็กนักเรียนยากจนพิเศษ ทุนส่งเสริมโอกาสการศึกษาสำหรับเด็กยากจนที่เรียนดี และลดช่องว่างคุณภาพการศึกษาระหว่างโรงเรียน
“ ปัญหาการศึกษาในประเทศไทยเหมือนแฝดสยาม หมายถึงความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาคู่กับความเหลื่อมล้ำทางรายได้มีความเกี่ยวเนื่องกันและต้องแก้ไขควบคู่กันไปอย่างเป็นระบบ เราไม่สามารถพาเด็กที่หลุดออกมานอกระบบการศึกษากลับเข้าโรงเรียนแล้วหวังว่าเขาจะไม่หลุดออกมาอีกได้ หากว่าปัญหาความยากจนและด้อยโอกาสของเด็กและครอบครัวเหล่านี้ซึ่งกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ทั้งด้านโภชนาการ และการเดินทางมาโรงเรียนยังเป็นปัญหาอยู่ ดังนั้นเราต้องแยกปัญหาความยากจนออกมาบรรเทาแก้ไขให้ดีขึ้น มาตรการสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาจึงจะเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนได้จริง ” ดร.ไกรยส กล่าว
You must be logged in to post a comment Login