- ปีดับคนดังPosted 16 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 7 days ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
- หนีกรรมไม่พ้นPosted 2 weeks ago
ล้ำเส้นหรือยัง?
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
การเคลื่อนไหวเพื่อหาเสียงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ของ “อภิสิทธิ์-วรงค์-อลงกรณ์” กำลังถูกตั้งคำถามมากขึ้นว่าสิ่งที่ทั้ง 3 คนกระทำอยู่ตอนนี้ยังอยู่ในกรอบของการหาเสียงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค หรือล้ำเส้นมาเป็นการหาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้า เพราะดูเหมือนว่าจะมีการพูดในทำนองเสนอนโยบายพัฒนาประเทศ แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตร มากกว่าพูดเรื่องการพัฒนาพรรค แม้ในทางทฤษฎีจะเป็นการปราศรัยกับสมาชิกพรรค แต่สิ่งที่พูดก็ถูกนำเสนอออกสู่ประชาชนทั่วประเทศผ่านสื่อไปพร้อมกันด้วย เกี่ยวกับเรื่องนี้ กกต. ควรออกมาพูดให้ชัดเจนว่า “ยังอยู่ในกรอบ” หรือ “ล้ำเส้น” แล้ว
การเมืองยังไม่ปลดล็อกเต็มรูปแบบ ยังไม่สามารถหาเสียงได้ แต่กลับมีความเคลื่อนไหวหนึ่งที่คาบเกี่ยวว่าจะเป็นการหาเสียงแอบแฝงหรือไม่
การเคลื่อนไหวที่ว่าคือการลงพื้นที่ของผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 3 คนคือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม และนายอลงกรณ์ พลบุตร
แม้ในทางทฤษฎีจะเป็นเรื่องภายในพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในทางปฏิบัติคาบเกี่ยวว่าการหาเสียงชิงหัวหน้าพรรคจะพ่วงการหาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าเอาไว้ด้วยหรือไม่ เพราะผู้ชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคแต่ละคนไม่ได้จำกัดการหาเสียงเอาไว้แค่เรื่องการพัฒนาพรรค
ยกตัวอย่างเช่นการลงพื้นที่พบสมาชิกพรรคของผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคทั้ง 3 คนเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา
นายอลงกรณ์ไปพบสมาชิกพรรคที่โรงแรมเอเชี่ยน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แม้จะพูดถึงการพัฒนาพรรค แต่บางช่วงบางตอนก็พูดถึงการพัฒนาประเทศด้วย เช่น พูดถึงนโยบายสร้างภาคใต้ยุคใหม่ โดยประกาศว่าหากได้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะใช้ 6 นโยบาย 5 เป้าหมายสร้างภาคใต้ยุคใหม่ โดย 5 เป้าหมายคือ 1.ศูนย์กลางเส้นทางการค้าของโลก 2.Gateway อาเซียนใต้และแปซิฟิกใต้ 3.เขตพิเศษฐานเศรษฐกิจใหม่ยาง/น้ำมันปาล์ม/ผลไม้/ประมง 4.ฮับท่องเที่ยวและไซเบอร์ของอาเซียน และ 5.ยกระดับรายได้ประชาชนคนใต้เท่าตัวภายในไม่เกิน 6 ปี
ขณะที่ 6 นโยบายประกอบด้วย 1.ยุทธศาสตร์คลองไทยคลองโลก 2.นโยบาย 100 ท่าเรือ 2 ทะเล 2 อ่าว 3.นโยบายโลจิสติกส์การบินและไซเบอร์ฮับเชื่อมไทย-เชื่อมโลก 4.นโยบายทางด่วนพิเศษ South Spider ทางรางทางบก 5.นโยบายลิมอดาซา 555 ร่วมมือ 5 จังหวัด 5 รัฐ 5 สาขา เปลี่ยนบังเกอร์เป็นเคาน์เตอร์ และ 6.นโยบายเขตพิเศษฐานเศรษฐกิจใหม่เกษตรอุตสาหกรรมยางพารา ปาล์มน้ำมัน ผลไม้ ประมง ท่องเที่ยว ด้วยการบริหารแนวใหม่และองค์กรบริหารรูปแบบใหม่ ทันสมัย โปร่งใส ศักยภาพสูง
สิ่งที่นายอลงกรณ์พูดนั้นยังอยู่ในกรอบการหาเสียงเพื่อชิงหัวหน้าพรรค หรือหลุดนอกกรอบมาเป็นประกาศนโยบายหาเสียงล่วงหน้าด้วย ในเมื่อไม่ได้จำกัดวงอยู่แต่เฉพาะคนที่เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น แต่ถูกนำเสนอออกสู่การรับรู้ของประชาชนทั้งประเทศ
เช่นเดียวกับการลงพื้นที่ของ นพ.วรงค์ ที่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ป.พานิชรุ่งเรือง ปาล์มออยล์ อ.เมือง จ.กระบี่ ซึ่งมีการประกาศชัดเจนว่าต้องการพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จ.กระบี่ แนะนำตัวในฐานะผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และรับฟังปัญหาด้านต่างๆ เพื่อกำหนดนโยบายหาแนวทางแก้ปัญหา โดยเฉพาะปัญหาสินค้าการเกษตร ยางพารา และปาล์มน้ำมันที่กำลังเป็นปัญหาสำคัญ การที่อาสาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่นั้นเพราะมีความมั่นใจว่าสามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้อย่างแน่นอน และหากได้เป็นนายกรัฐมนตรีก็จะเร่งแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะปัญหาราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ เช่น ยางพารา และปาล์มน้ำมัน จะต้องดีขึ้นภายในระยะเวลา 3 เดือน รวมทั้งการพัฒนาด้านการคมนาคมให้ดีขึ้น
“หากจะเปรียบเทียบผมกับอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ผมไม่เป็นรองแน่นอน ผมมีความสดกว่า มีความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช้อำนาจในทางมิชอบ และที่สำคัญผมจงรักภักดี”
สิ่งที่ นพ.วรงค์พูดนั้นอยู่ในกรอบพูดเพื่อหาเสียงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ เข้าข่ายหาเสียงล่วงหน้าหรือไม่
แม้แต่การลงพื้นที่ของนายอภิสิทธิ์ที่บ้านพักนายชินวรณ์ บุญยเกียรติ อดีต ส.ส.พรรค ที่บ้านคลองกุย อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช ถึงนายอภิสิทธิ์จะพยายามพูดอยู่ในกรอบของการหาเสียงชิงหัวหน้าพรรค ไม่พูดนโยบายภาพกว้างที่จะใช้พัฒนาประเทศ แต่ก็น่าสนใจว่าการเคลื่อนไหวที่มีคนมาต้อนรับจำนวนมาก การปราศรัยที่มีคนฟังจำนวนมาก เข้าข่ายฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. หรือไม่
ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจากการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ถือว่าน่าสนใจ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ควรออกมาทำให้เกิดความชัดเจนว่าสิ่งเหล่านี้อยู่ในกรอบการหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค หรือล้ำเส้นออกมาเป็นการประกาศนโยบายหาเสียงล่วงหน้ากับประชาชน
เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าพรรคการเมืองอื่นยังไม่สามารถประกาศนโยบายได้ ไม่สามารถจัดปราศรัยกับประชาชนได้
You must be logged in to post a comment Login