- อย่าไปอินPosted 3 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 22 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
ชีวิตต้องมีคู่มือการใช้ชีวิต
คอลัมน์ สันติธรรม
“ชีวิตต้องมีคู่มือการใช้ชีวิต”
โดย บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้วันสุข 26 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน 2561)
ไม่มีใครในโลกนี้เกิดมาและรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเองโดยไม่ต้องได้รับการสั่งสอนหรือเรียนรู้จากใคร ถ้ามนุษย์จะใช้เครื่องยนต์กลไกที่ตัวเองไม่ได้สร้างมา มนุษย์ก็ต้องเรียนรู้จากผู้ที่สร้างเครื่องยนต์กลไกนั้น ถ้าไม่เรียนรู้วิธีใช้และตะบี้ตะบันใช้ ไม่ช้าเครื่องยนต์กลไกก็พังเร็ว หรือไม่ก็อาจเป็นอันตรายต่อผู้ที่ใช้ไม่เป็น
ทุกวันนี้เยาวชนคนรุ่นใหม่ทั้งชายหญิงรู้จักวิธีการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สารพัดชนิดได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ไม่รู้จักวิธีการใช้ชีวิต ชีวิตเยาวชนจำนวนมากมายจึงต้องพังทลายตั้งแต่อายุยังเยาว์
เมื่อชีวิตเป็นสิ่งที่มนุษย์มิได้สร้างขึ้นมาทั้งร่างกายและวิญญาณ ถ้ามนุษย์ต้องการรู้จักวิธีการใช้ชีวิต มนุษย์ก็ต้องเรียนรู้จากผู้สร้างชีวิต แต่ชีวิตเป็นสิ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา ดังนั้น ถ้ามนุษย์ต้องการจะใช้ชีวิตให้ปลอดภัย มนุษย์ก็ต้องเรียนรู้จากผู้สร้างชีวิต
เมื่อพระเจ้าส่งอาดัมและอีฟมาแพร่เผ่าพันธุ์มนุษย์บนโลกใบนี้ พระเจ้าได้คัดเลือกมนุษย์บางคนที่มีคุณสมบัติดีงามขึ้นมาเป็นแบบอย่างและสั่งสอนผู้คนให้รู้จักวิธีการใช้ชีวิต บุคคลที่พระเจ้าคัดเลือกนี้ในภาษาอาหรับเรียกว่า “นบี” ซึ่งแปลว่าผู้บอกข่าว ผู้ประกาศ
บางคนแปลคำว่า “นบี” (Prophet) อย่างให้เกียรติว่าหมายถึง ศาสดา ซึ่งแปลว่าผู้ก่อตั้งลัทธินิกาย แต่นบีมิใช่ผู้ก่อตั้งลัทธินิกาย นบีเป็นเพียงผู้ได้รับคำสอนจากพระเจ้ามาประกาศหรือบอกต่อแก่มนุษย์เท่านั้น
นบีมุฮัมมัดผู้เป็นนบีคนสุดท้ายของพระเจ้ากล่าวว่า ก่อนหน้าท่านขึ้นไปจนถึงอาดัมมีนบีเกิดขึ้นบนโลกนี้ในชุมชนต่างๆทุกยุคทุกสมัยเป็นจำนวน 124,000 คน ในจำนวนนี้พระเจ้าได้ประทานคัมภีร์ให้แก่นบี 313 คน นบีคนใดที่ได้รับคัมภีร์จะถูกเรียกว่า “รอซูล” ซึ่งหมายถึงผู้นำสาสน์ (Messenger) หรือศาสนทูต
ชื่อของนบีซึ่งมีจำนวนนับแสนคนนั้นถูกกล่าวไว้ในคัมภีร์ไบเบิลและคัมภีร์กุรอานประมาณ 25 ชื่อ ศาสนิกไม่จำเป็นต้องรู้จักชื่อนบีทั้งหมด เพราะนบีทุกคนนำคำสอนเดียวกันจากพระเจ้ามาสั่งสอนผู้คน
นบีคนใดที่ได้รับคัมภีร์จากพระเจ้าจะใช้คำสอนในคัมภีร์นั้นสั่งสอนผู้คน เมื่อนบีที่ได้รับคัมภีร์ตายจากไป นบีที่ถูกเลือกขึ้นมาใหม่ก็จะใช้คำสอนในคัมภีร์ก่อนหน้านั้นสั่งสอนผู้คนต่อมา แต่เนื่องจากคัมภีร์ในสมัยก่อนคือคำสอนที่ถูกจารึกบนแผ่นหนังสัตว์ บนแผ่นไม้ และกระดูก ซึ่งผุพังง่าย พระเจ้าจึงประทานคัมภีร์ให้แก่นบีนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง
คัมภีร์กุรอานบอกให้เราทราบว่า นบีอิบรอฮีมได้รับคัมภีร์ศุฮุฟ นบีมูซาได้รับคัมภีร์เตารอต (โตราห์) นบีดาวูดได้รับคัมภีร์ษะบูรฺ นบีอีซา (เยซัส) ได้รับคัมภีร์อินญีล ทั้งหมดถูกรวมไว้ในคัมภีร์ไบเบิล
หลังสมัยนบีอีซาคำสอนที่พระเจ้าประทานมาในคัมภีร์ต่างๆได้ถูกทำลายหรือสูญหายไป เมื่อมีการรวบรวมขึ้นมาใหม่ได้มีการเพิ่มเติมคำบอกเล่าต่างๆมากมายเข้าไปผสมกับคำสอนที่ผู้คนส่วนใหญ่หลงลืม หลังจากนั้นเมื่อมีการแปลออกเป็นภาษาที่ไม่ใช่ภาษาดั้งเดิมของคัมภีร์และมีการสังคายนา คำสอนดั้งเดิมจึงถูกบิดเบือนไปจนเกิดความสับสนขึ้นในบางประเด็น เช่น นบีอีซาสอนเรื่องการศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว แต่หลังจากท่านจากโลกนี้ไป ปรากฏว่าหลักความเชื่อในเรื่อง “ตรีเอกานุภาพ” ได้ถูกสอดแทรกเข้ามาในศาสนาคริสต์ และเป็นที่แพร่หลายในอาณาจักรโรมันไบแซนติน
ด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงได้ประทานคัมภีร์กุรอานแก่นบีมุฮัมมัด เพื่อยืนยันคำสอนดั้งเดิมที่พระองค์ประทานแก่นบีก่อนหน้านี้ เพื่อมิให้มนุษย์หลงทางในการกลับไปหาพระองค์หลังวิญญาณออกจากร่าง
หลักศรัทธาในอิสลามกำหนดว่า มุสลิมต้องเชื่อในนบีทุกคนและเชื่อในคัมภีร์ทั้งหมดที่พระเจ้าประทานมา แต่มุสลิมเชื่อว่านบีมุฮัมมัดเป็นนบีคนสุดท้าย และคัมภีร์กุรอานเป็นคัมภีร์สุดท้ายที่พระเจ้าประทานแก่มนุษย์ หากมีความขัดแย้งใดๆในคัมภีร์ก่อนหน้านี้ มุสลิมจะใช้คัมภีร์กุรอานเป็นเครื่องมือกลั่นกรองและเป็นเกณฑ์ในการตัดสิน
You must be logged in to post a comment Login