พร้อมลุยหากสหรัฐถอนตัว

• Tweet
• 

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวว่า หากสหรัฐต้องการถอนตัวออกจากการเป็นภาคีของสนธิสัญญาอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (ไอเอ็นเอฟ) และไม่สามารถต่ออายุสนธิสัญญาสันติภาพว่าด้วยการลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ในชื่อนิว สตาร์ท ซึ่งจะครบกำหนดอายุการมีผลบังคับใช้ 10 ปีในปี 2564 จะเป็นการผลักดันให้ทั้งสองประเทศกลับเข้าสู่สมรภูมิการแข่งขันด้านอาวุธอีกครั้ง และยุโรปจะเป็นทวีปซึ่งต้องเผชิญกับความเสี่ยงในเรื่องนี้มากที่สุดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ประธานาธิบดีปูตินยังกล่าวด้วยว่า เมื่อใดก็ตามที่สหรัฐถอนตัวออกจากการเป็นภาคีของไอเอ็นเอฟ แล้วนำระบบขีปนาวุธที่มีพิสัยทำการนอกเหนือจากที่ครอบคลุมในสนธิสัญญาคือระหว่าง 500-5,000 กิโลเมตร ไปติดตั้งเพิ่มเติมไว้บนดินแดนแห่งใดของยุโรป รัสเซียจะมีมาตรการตอบโต้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ ประธานาธิบดีปูตินยืนยันว่ารัสเซียไม่ได้เป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงก่อน และกล่าวถึงการที่รัฐบาลสหรัฐนำระบบทำลายขีปนาวุธชุดใหญ่มาติดตั้งในโรมาเนีย ซึ่งมีพิสัยทำการในระยะเกินกว่าที่ระบุไว้ในข้อตกลง และการทำงานของระบบสามารถควบคุมได้จากระบบคอมพิวเตอร์ทางไกล

ถ้อยแถลงดังกล่าวของผู้นำรัสเซียซึ่งเป็นคำตอบโดยนัยแล้วว่าจะไม่เจรจากับสหรัฐในเรื่องนี้เกิดขึ้นหลังนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว เข้าพบหารือ ซึ่งนายโบลตันยอมรับว่ามีความเป็นไปได้น้อยมากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเปลี่ยนใจกลับมาทบทวนเนื้อหาของไอเอ็นเอฟที่ลงนามร่วมกับรัสเซียเมื่อเดือนธันวาคม 2530 ซึ่งเป็นช่วงปลายของสงครามเย็น

ด้านนายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) กล่าวว่า นาโต้มีความเชื่อมั่นเช่นเดียวกับสหรัฐว่ารัสเซียเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงไอเอ็นเอฟก่อน แต่โดยส่วนตัวเขายังไม่เชื่อว่ารัฐบาลรัสเซียจะนำระบบหัวรบนิวเคลียร์มาติดตั้งในยุโรปเพื่อประจันหน้ากับสหรัฐ อนึ่ง นาโต้มีกำหนดการฝึกซ้อมรบในชื่อ “ไทรเดนท์ จังเชอร์ 18W ที่นอร์เวย์ โดยการฝึกซ้อมภาคสนามจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 25 ตุลาคม-7 พฤศจิกายน และการซ้อมฐานบัญชาการระหว่างวันที่ 13-24 พฤศจิกายน มีเจ้าหน้าที่จากทั้ง 29 ประเทศสมาชิกนาโต้เข้าร่วมรวมกันประมาณ 45,000 นาย ถือเป็นการฝึกฝนกำลังพลครั้งใหญ่ที่สุดของนาโต้นับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตเมื่อปี 2534

You must be logged in to post a comment Login