วันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ประเทศกูมี / โดย นายหัวดี

On October 26, 2018

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด

ผู้เขียน : นายหัวดี

เพลงแร็พ “ประเทศกูมี” เอ็มวีเพลงแร็พต้าน “เผด็จการ” กำลังแพร่หลายในโลกโซเชียล ยอดวิวในยูทูบขึ้นหลักหลายแสนในเวลาเพียงไม่กี่วัน มี 10 แร็พเปอร์เขียนเนื้อหาของตัวเองโดยระบุว่าข้อความทั้งหมดรวบรวมมาจากโลกโซเชียล เพื่อปลุกให้ตื่นจากคำสวยหรูของ “เผด็จการ”

แม้แต่ “สื่อ” ยังถูกมองว่ากลายเป็น “หมาแสนเชื่อง” แทนที่จะเป็น “หมาเฝ้าบ้าน” ส่วน “นักการเมือง” จำนวนไม่น้อยก็จมปลักใน “วังวนน้ำเน่า” จากปรากฏการณ์ “ดูดแหลก”

“ประเทศที่…พรรคการเมืองแบ่งเป็นสองขั้ว..พลเมืองถูกแบ่งเป็นสองข้าง..เลือกนายกฯต้องให้ทหารมาเลือกให้..ใจกลางกรุงกลายเป็นทุ่งสังหาร..พล่ามแต่ศีลธรรมแต่อาชญากรรมสูงกว่าไอเฟล..เสือดำหน้าคะมำเพราะไรเฟิล..ตุลาการมีบ้านพักบนอุทยาน..ไร้คอร์รัปชันที่ไม่มีการตรวจสอบ..นาฬิกา รมต. เป็นของศพ..สภาเป็นห้องนั่งเล่นของนักรบ..ปลายกระบอกคอยจ่อที่ปลายกระเดือก..เขียนรัฐธรรมนูญ (..) ใช้ตีนลบ..ฯลฯ

เพลงแร็พ “ประเทศกูมี” บอกเล่าบรรยากาศการเมืองที่น่าอึดอัดอย่างตรงและแรง ยิ่งเอาฉากหลังที่จำลองเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 คนฟาดเก้าอี้ศพที่ถูกแขวนคอและมีผู้คนมุงดูพร้อมรอยยิ้ม ซึ่งถูกจารึกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยที่ดำมืดที่สุด

การเมืองก่อนการเลือกตั้งจึงต้องไม่มองแค่ “ผลการเลือกตั้ง” แต่ต้องมุ่งไปที่การได้มาซึ่งประชาธิปไตยในเนื้อหาที่แท้จริง ประชาธิปไตยที่มาจากประชาชน เพื่อประชาชน และเป็นของประชาชน

ไม่ใช่ “ประเทศกูมี” ที่เพิกเฉยต่อความถูกต้อง ปกครองด้วยความมืดและความกลัว!


You must be logged in to post a comment Login