วันจันทร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2567

“CHG” ลงนามสัญญาซื้อเครื่องฉายรังสีรุ่น Synergy จากประเทศสวีเดน

On November 1, 2018

กลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ ดำเนินธุรกิจการให้บริการรักษาพยาบาล และพัฒนาคุณภาพชีวิต ผู้ป่วยมากว่า 30 ปี ร่วมกับ บริษัท พรีเมียร์ บิสสิเนส อินเตอร์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ทางรังสีรักษา เครื่องเร่งอนุภาค เครื่องฝังแร่ เพื่อรักษามะเร็ง และอุปกรณ์ทางด้านรังสีรักษา จัดงานแถลงข่าวลงนามสัญญาการซื้อ – ขายเครื่องฉายรังสี รุ่น Synergy จากประเทศสวีเดน เพื่อดูแลและรักษาให้ผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ฝั่งตะวันออกได้รับการรักษาสะดวกและรวดเร็ว   ไม่ต้องใช้เวลาเดินทางเข้าเมืองที่จะรอเข้าคิวรักษา โดยเครื่องฉายรังสีนี้จะนำไปใช้ในโรงพยาบาลศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาสุวรรณภูมิ ซึ่งจะเปิดทำการรักษาอย่างเป็นทางการในปี 2562 งานแถลงข่าวจัดขึ้น ณ โรงแรม อโนมา แกรนด์ แบงคอก

​นายแพทย์กำพล พลัสสินทร์ กรรมการผู้จัดการกลุ่มโรงพยาบาลจุฬารัตน์ กล่าวถึงในการลงนามในครั้งนี้ว่า “ในปัจจุบันมีผู้เสียชีวิตจากโรงมะเร็งสูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก รวมถึงผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งเข้ามารักษาในโรงพยาบาลของเราเป็นจำนวนมาก ซึ่งมะเร็งสามารถรักษาและลดการแพร่กระจายได้หลายวิธี แต่มีเพียงไม่กี่โรงพยาบาลที่มีศักยภาพในการดูแลรักษาจึงทำให้มีผู้เสียชีวิตจากโรงมะเร็งเป็นจำนวนมาก ทางโรงพยาบาลจึงเล็งเห็นปัญหานี้ จึงดำเนินการพัฒนาคุณภาพในการรักษาโรงมะเร็งอย่างต่อเนื่อง โดยการนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพอย่างเครื่องฉายรังสี   รุ่น Synergy เพื่อดูแลและรักษาให้ผู้ป่วยที่อาศัยอยู่ฝั่งตะวันออกได้รับการรักษาสะดวก และรวดเร็วไม่ต้องใช้เวลา เดินทางเข้าเมืองที่จะรอเข้าคิวรักษา โดยเครื่องฉายรังสีนี้จะนำไปใช้ในโรงพยาบาลศูนย์มะเร็งและรังสีรักษาสุวรรณภูมิ  ซึ่งจะเปิดทำการรักษาอย่างเป็นทางการในปี 2562”

​นายปราโมทย์ ก๊กพ่อค้า ผู้จัดการทั่วไป บริษัท พรีเมียร์ บิสสิเนส อินเตอร์ จำกัด เผยถึงประสิทธิภาพของเครื่องฉายรังสีรุ่น Synergy ว่า “สำหรับเครื่องฉายรังสีรุ่นนี้เป็นเครื่องมือในการรักษาที่มีความแม่นยำสูง และใช้เวลาในการฉายรังสีรวดเร็ว จึงทำให้สามารถรองรับการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งได้มากขึ้น จนเป็นที่ยอมรับจากโรงพยาบาลในต่างประเทศที่ได้นำเครื่องฉายรังสีไปรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งว่าเป็นเครื่องมือแพทย์ที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม โดยผลิตพลังงานรังสีโฟตอนพลังสูงให้ไปที่ตำแหน่งของเซลล์มะเร็งเพื่อทำลายกลุ่มก้อนเซลล์มะเร็งนั้น ๆ ประกอบกับการรักษาด้วยเทคนิคการฉายรังสีแบบสามมิติ (3D Conformal) เทคนิคการฉายรังสีแบบปรับความเข้ม หรือ IMRT (Intensity Modulated Radiation Therapy) ซึ่งสามารถกำหนดปริมาณรังสีให้เหมาะกับความหนา – บางของเซลล์มะเร็งได้ และเทคนิคการฉายรังสีแบบปรับความเข้มเชิงปริมาตร VMAT (Volumetric Modulated Arc Therapy) จะใช้ระบบภาพนำวิถีแบบสามมิติมาช่วยในการตรวจสอบตำแหน่งของก้อนมะเร็ง ประกอบกับการช่วยลดระยะเวลาในการฉายรังสี เนื่องจากครอบคลุมเฉพาะก้อนมะเร็งทั้งหมด จึงทำให้การรักษามะเร็งถูกต้องแม่นยำและลดผลกระทบที่จะเกิดกับอวัยวะข้างเคียงของผู้ป่วย นอกจากนี้ความพิเศษสุดของเครื่องฉายรังสียังสามารถหมุนได้รอบตัวผู้ป่วย รวมถึงความเร็ว ปริมาณรังสี และการเคลื่อนที่ของวัตถุกำบังรังสีที่มีขนาดเล็ก โดยกำหนดพื้นที่การฉายรังสีตามลักษณะของก้อนมะเร็งที่มีรูปร่างแตกต่างกันได้อีกด้วย” นายปราโมทย์ กล่าว

2

3


You must be logged in to post a comment Login