- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
จาก‘วิชัย’ถึง‘ลุงตู่’
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
การเสียชีวิตของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา กำลังส่งผลสะเทือนถึงรัฐบาลทหารของไทย หลังสื่อต่างประเทศนำเสนอข้อมูลยี่ห้อ รุ่น และราคาเฮลิคอปเตอร์ที่นายวิชัยใช้ ก็ทำให้เกิดเรื่องโป๊ะแตกขึ้นในไทย เพราะมีข้อมูลบ่งชี้ว่าการจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์รุ่นเดียวกันของหน่วยงานราชการไทยโดยซื้อมากถึง 12 ลำ ทำไมซื้อในราคาแพงกว่าเกือบเท่าตัว แถมหลายลำมีข้อมูลว่าไม่สามารถใช้งานได้ตามปรกติ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่ นอกจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนอย่างตรงไปตรงมาแล้ว “ลุงตู่” ต้องทำเรื่องนี้ให้สมกับที่ลั่นคำไว้ว่าจะล้างทุจริต ถ้าพูดอะไรไว้แล้วทำไม่ได้หรือทำเป็นจำไม่ได้ หากลงสู่สนามการเมืองระวังเผชิญชะตากรรมเดียวกันกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่กำลังถูกคำพูดตัวเองไล่ล่าอยู่ในตอนนี้
อุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกทำให้นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และประธานกรรมการ กลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ เสียชีวิตที่ประเทศอังกฤษ นอกจากนำความโศกเศร้าเสียใจมาสู่คนที่รักและคนในวงการกีฬาแล้ว กรณีนี้กำลังส่งผลสะเทือนมาถึงรัฐบาลไทยด้วย
หลังอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกสื่อต่างประเทศนำเสนอข่าวอย่างกว้างขวางและเจาะลึกถึงประสิทธิภาพและราคาของเฮลิคอปเตอร์ลำและรุ่นดังกล่าว ซึ่งก็โป๊ะแตกว่ากองทัพไทยจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์รุ่นเดียวกับของนายวิชัยหลายลำ แต่ทำไมซื้อในราคาที่แพงกว่ากันเกือบเท่าตัว
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กำลังนำเรื่องไปร้องให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สอบหาคนผิดที่จัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกันกับของนายวิชัย แต่ซื้อแพงกว่า
เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวเป็นรุ่นอากัสตา เวสต์แลนด์ เอดับเบิลยู 169 (Agusta Westland AW169) สร้างขึ้นในปี 2559 โดยลีโอนาร์โด บริษัทด้านอุตสาหกรรมการบินและทหารของอิตาลี ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของบริษัทอากัสต้าเวสต์แลนด์กับฟินเมคคานิก้า เฮลิคอปเตอร์ของนายวิชัยมีเลขทะเบียน G-VSKP มูลค่า 6.6 ล้านปอนด์ หรือราว 280 ล้านบาทไทย
แต่การจัดซื้อจัดจ้างเฮลิคอปเตอร์ยี่ห้อเดียวกันของกรมการขนส่งทหารบกในรุ่น AW139 และรุ่น AW149 จากบริษัทอากัสต้าเวสต์แลนด์ เอส.พี.เอ. ประเทศอิตาลี ประมาณ 12 ลำ พบว่าในปี 2555 ในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้บัญชาการทหารบก ได้จัดซื้อ AW139 จำนวน 2 ลำ วงเงิน 43,548,387 เหรียญสหรัฐ หรือ 1,350 ล้านบาท เฉลี่ยลำละ 675 ล้านบาท ขณะที่เฮลิคอปเตอร์รุ่นดังกล่าวมีการประกาศขายเป็นการทั่วไปในราคาเพียง 12 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 396 ล้านบาท มีส่วนต่างจัดซื้อ 2 ลำมากถึง 558 ล้านบาท
ต่อมาในปี 2557 หลังรัฐประหารมีการจัดซื้อ AW139 เพิ่มอีก 2 ลำ วงเงิน 46,062,500 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,474 ล้านบาท เฉลี่ยลำละ 737 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนลำละ 62 ล้านบาท) ซึ่งส่วนต่างของการจัดซื้อครั้งที่ 2 เท่ากับ 692 ล้านบาท
ในปี 2559-2560 มีการจัดซื้อจัดหา AW139 เพิ่มอีก 6 ลำ รุ่น AW149 จัดซื้อในปี 2560 จำนวน 2 ลำ แม้เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวยังคงใช้งานตามปรกติ แต่มีจำนวนเกือบครึ่งที่ถูกสั่งให้งดบิน ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากก่อนหน้านี้
จากส่วนต่างในการจัดซื้อทำให้เกิดข้อสงสัยว่าการจัดซื้อเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และแบบแผนการปฏิบัติราชการหรือไม่ และการใช้จ่ายเงินหรือการใช้ประโยชน์นั้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์ มีความคุ้มค่า ประหยัด เกิดผลสัมฤทธิ์ และมีประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่ง สตง. ต้องตรวจสอบเรื่องนี้ให้เกิดความกระจ่าง
นอกจากนายศรีสุวรรณแล้วยังมีนายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) ที่ออกมาตั้งข้อสังเกตว่ามีการทุจริตในการจัดซื้อหรือไม่ โดยชี้เป้าไปที่การจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ของสำนักนายกรัฐมนตรีที่มีการสั่งซื้อทันทีด้วยวิธีพิเศษ (ขอย้ำ สั่งซื้อด้วยวิธีพิเศษ) หลังการรัฐประหาร จำนวน 2 ลำ จากบริษัท Agusta Westland รุ่น AW139 ราคาขายขณะนั้นเขาติดป้ายราคาเพียง 10 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 310-330 ล้านบาท แต่ไทยกลับซื้อมาในราคาแพงกว่าเท่าตัว คือซื้อมา 2 ลำ ในราคา 1,350 ล้านบาท ทำให้สงสัยว่าน่าจะมีความไม่โปร่งใสหรือน่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่ ซึ่งเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้ไทยซื้อมาใช้นับสิบลำ แต่ยังใช้การได้เพียงครึ่งเดียว นอกนั้นบินไม่ได้แล้ว
“พล.อ.ประยุทธ์อย่าลืมสิ่งที่ประกาศต่อสาธารณะเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2561 ว่าจะสางทุจริตต่อเนื่อง และจะตรวจสอบทุกอย่างไม่ละเลย ประกาศแล้วต้องไปลากตัวมาตรวจสอบและลงโทษให้ได้” นายวีระกล่าว
ทั้งนี้ เชื่อว่าเมื่อข้อมูลถูกเผยแพร่ออกไปสู่วงกว้างจะไม่มีเพียงนายศรีสุวรรณและนายวีระที่แคลงใจการจัดซื้อดังกล่าวว่ามีการทุจริตประพฤติมิชอบเกิดขึ้นหรือไม่ เมื่อมีข้อสงสัย มีข้อมูล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา ที่สำคัญนายกรัฐมนตรีต้องทำเรื่องนี้ให้สมกับที่ลั่นคำเอาไว้ว่าจะล้างทุจริต
ถ้าพูดอะไรไว้แล้วทำไม่ได้หรือทำเป็นจำไม่ได้ หากลงสู่สนามการเมืองระวังเผชิญชะตากรรมเดียวกันกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่กำลังถูกคำพูดของตัวเองไล่ล่าอยู่ในตอนนี้
You must be logged in to post a comment Login