- อย่าไปอินPosted 4 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 22 hours ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 3 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 1 week ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
หนีไม่พ้น / โดย ศิลป์ อิศเรศ
คอลัมน์ : ร้ายสาระ
ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ
(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 2-9 พฤศจิกายน 2561)
หนุ่มแคนาดาอยู่ๆก็เกิดอาการกระวนกระวายลาออกจากงาน เก็บข้าวเก็บของมาหาที่กบดานในอเมริกา เดินทางวกวนไปตามรัฐต่างๆโดยไม่ยอมบอกใครว่าหนีอะไรมา แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด
แบลร์ อดัมส์ หนุ่มแคนาดาวัย 31 ปี เป็นหัวหน้าคนงานบริษัทรับเหมาก่อสร้างในเมืองเซอเรย์ รัฐบริติชโคลัมเบีย เขามีบุคลิกยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นที่รักของลูกน้องและเพื่อนร่วมงาน ไม่มีวี่แววว่าจะมีพฤติกรรมสร้างปัญหาให้กับใครได้ จนกระทั่งถึงฤดูร้อนปี 1996 พฤติกรรมของเขาก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือโดยกะทันหัน
แบลร์แสดงสีหน้ากังวลใจ หน้าตาบูดบึ้ง อารมณ์แปรปรวน บางครั้งก็เหม่อลอย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนถึงขั้นเดินออกจากสำนักงานกลับบ้านโดยไม่ล็อกประตู เมื่อกลับถึงบ้านก็แสดงอาการกระวนกระวาย นอนไม่หลับ จนแม่ของเขาเอ่ยปากถามว่ามีเรื่องอะไรรบกวนจิตใจ แต่แบลร์กลับตอบว่าเขาบอกไม่ได้
หนีข้ามประเทศ
วันที่ 7 กรกฎาคม 1996 แบลร์ถอนเงินฝากทั้งหมดในธนาคารที่มีอยู่กว่า 6,000 ดอลลาร์ และเบิกทรัพย์สินทองคำและเครื่องประดับเพชรพลอยจากตู้นิรภัยธนาคารเก็บลงกระเป๋าคาดเอว เดินทางออกจากเมืองโดยไม่บอกทั้งทางบ้านและเพื่อนๆที่ทำงาน
2 วันต่อมาแบลร์ปรากฏตัวขึ้นที่ท่าเรือเฟอร์รี่เมืองวิกตอเรีย พยายามเดินทางข้ามฝั่งไปยังเมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน ประเทศอเมริกา แต่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกิดความสงสัย เพราะแบลร์เป็นหนุ่มโสดเดินทางคนเดียว พกเงินจำนวนมาก และยังมีทรัพย์สินจำนวนมากอีกด้วย พฤติกรรมคล้ายกับพวกพ่อค้ายาเสพติด จึงปฏิเสธไม่ยอมให้แบลร์เดินทางเข้าอเมริกา
แบลร์ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ เขาหลบเลี่ยงเดินเท้าเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติ 2 วันต่อมาก็ถูกตำรวจตระเวนชายแดนรวบตัวได้ แบลร์ถูกส่งตัวกลับแคนาดาอีกครั้ง ทั้งๆที่จริงๆแล้วคนแคนาดาที่ไม่มีประวัติอาชญากรสามารถเดินทางเข้าออกอเมริกาได้ง่ายๆ อาจเป็นเพราะขณะนั้นแบลร์มีอาการลุกลี้ลุกลน กระวนกระวาย จนทำให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกิดความสงสัย
ระหว่างหาวิธีเดินทางออกนอกประเทศ แบลร์ใช้ช่วงเวลานี้เขียนใบลาออกจากงานอย่างเป็นทางการ ร่ำลาเพื่อนฝูงโดยบอกว่าเขาจะไม่กลับมาอีก วันต่อมาแบลร์จองตั๋วเครื่องบินไปยังเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ก่อนออกเดินทางแบลร์ไปหาเพื่อนคนหนึ่ง บอกกับเพื่อนว่ามีคนพยายามฆ่าเขา ด้วยเหตุนี้เขาจึงอยากหลบหนีไปที่อเมริกา
ไร้จุดหมาย
วันที่ 10 กรกฎาคม 1996 แบลร์ยกเลิกตั๋วเครื่องบินไปแฟรงก์เฟิร์ต เปลี่ยนใจไปเช่ารถขับมาที่เมืองซีแอตเติล รัฐวอชิงตัน ประเทศอเมริกา ตามแผนการเดิม เมื่อเดินทางมาถึงเขาก็ซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียวเพื่อเดินทางไปยังกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งอยู่อีกซีกด้านหนึ่งของประเทศอเมริกา
ทำไมแบลร์ซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียวทั้งๆที่เขาไม่รู้จักใครในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ขณะที่ตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียวราคา 800 ดอลลาร์ แพงกว่าเป็นเท่าตัวของราคาตั๋วไป-กลับ แบลร์เดินทางไปที่นั่นทำไม? ทันทีที่ลงจากเครื่องบินแบลร์ก็ตรงไปเช่ารถ ขับออกจากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มุ่งหน้าไปยังเมืองน็อกซ์วิลล์ รัฐเทนเนสซี ซึ่งอยู่ห่างออกไป 500 ไมล์
เวลา 17.30 น. แบลร์ขับรถมาถึงเมืองน็อกซ์วิลล์ เขาแวะจอดรถเติมน้ำมัน แต่พอจะขึ้นรถเพื่อขับต่อไปเขาพบว่ากุญแจรถสตาร์ตไม่ได้ แบลร์โทรศัพท์ตามบริษัทให้เช่ารถ เจอราล์ด แซพพ์ ช่างเครื่องยนต์ เดินทางมาให้ความช่วยเหลือ
แม้ว่าแบลร์จะมีท่าทางเป็นปรกติ แต่ภายหลังเจอราล์ดพบว่าแท้ที่จริงแล้วแบลร์สับสน เพราะกุญแจที่แบลร์ใช้สตาร์ตรถเป็นกุญแจของรถนิสสัน อัลติม่า ที่เขาเช่าขับมาจากแคนาคา ส่วนรถที่เขากำลังขับอยู่นี้เป็นโตโยต้า คัมรี เจอราล์ดบอกให้แบลร์ลองล้วงกระเป๋าหากุญแจอีกดอก แต่แบลร์ปฏิเสธที่จะทำตามพร้อมกับยืนยันว่าเขาใช้กุญแจดอกนี้ขับรถคันนี้มา
เจอราล์ดไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับลูกค้า เขาโทรศัพท์เรียกรถยกมารับรถกลับบริษัท ส่วนเจอราล์ดขับรถไปส่งแบลร์ที่โรงแรมแฟร์ฟิลด์ เมื่อไปถึงโรงแรมแบลร์ก็แสดงพฤติกรรมประหลาดอีกครั้ง เขาเดินไปเดินมาในล็อบบี้นานเป็นชั่วโมงเหมือนกำลังรอใครสักคน ในที่สุดแบลร์ก็เดินหาเจ้าหน้าที่โรงแรมเพื่อเปิดห้องพัก
ไปไม่รอด
หลังจากจ่ายเงินค่าเช่าห้องพักแบลร์ก็เดินออกไปนอกโรงแรมทันทีโดยไม่ได้เข้าพัก เช้าวันที่ 11 กรกฎาคม 1996 เวลา 07.00 น. มีคนพบร่างกึ่งเปลือยของแบลร์นอนเสียชีวิตอยู่บนลานจอดรถของสถานที่ก่อสร้างโรงแรมทราเวลลอดจ์ที่อยู่ห่างออกไปครึ่งไมล์
ท่อนล่างสวมแต่กางเกงชั้นใน เสื้อถูกฉีกขาดวิ่น ถุงเท้าถูกสวมแบบกลับด้านในออกด้านนอก รองเท้าถูกถอดโดยข้างหนึ่งถูกนำไปใช้หนุนศีรษะ ข้างตัวพบกระเป๋าคาดเอว เงิน ทอง เครื่องประดับเพชรพลอยยังอยู่ครบ ใกล้ๆกันพบกุญแจรถโตโยต้า คัมรี
พบรอยขีดข่วนฟกช้ำหลายแห่งตามร่างกายคล้ายกับมีการต่อสู้กัน หน้าผากมีแผลฉกรรจ์ จากการชันสูตรระบุสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากถูกกระแทกด้วยของแข็งอย่างแรงบริเวณหน้าท้อง คาดว่าอาวุธที่คนร้ายใช้อาจเป็นไม้เบสบอล หรือไม้กอล์ฟ หรือชะแลง
ไม่ใช่การปล้นทรัพย์อย่างแน่นอน เพราะของมีค่าทุกชิ้นยังอยู่ครบ เบาะแสเพียงอย่างเดียวที่พบคือเส้นผมในมือแบลร์ แต่จากการตรวจหาดีเอ็นเอตำรวจยังไม่พบตัวผู้ต้องสงสัย ได้แต่เพียงสันนิษฐานว่ามีใครบางคนเกิดหมั่นไส้แบลร์ เพราะบริเวณที่พบศพใกล้กับจุดจอดพักรถบรรทุกและใกล้กับจุดที่ผู้หญิงหากินมารอเรียกแขก
ลูกจ้างร้านอาหารบริเวณที่เกิดเหตุให้การกับตำรวจว่า เห็นแบลร์พูดคุยกับชายคนหนึ่งระหว่างเวลา 21.30-22.30 น. ตำรวจสเกตช์ภาพผู้ต้องสงสัยแต่ไม่สามารถสืบหาตัวได้ว่าเป็นใคร
จากการสืบประวัติไม่พบว่าแบลร์มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจมืด ไม่มีเหตุผลว่าทำไมเขาถึงถูกตามล่าข้ามประเทศ ทำไมคนร้ายต้องดึงทึ้งเสื้อผ้าจนอยู่ในสภาพกึ่งเปลือย ทำไมคนร้ายไม่สนใจทรัพย์สินเงินทองจำนวนมากของผู้เสียชีวิต นับตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงทุกวันนี้เป็นเวลากว่า 22 ปีแล้ว ตำรวจยังไม่สามารถให้ข้อมูลอะไรได้มากกว่านี้
1.แบลร์ อดัมส์
2.เส้นทางการเดินทางของแบลร์
3.รถโตโยต้า คัมรี
4.กุญแจรถโตโยต้า คัมรี พบในที่เกิดเหตุ
5.ร่างแบลร์พบในลานจอดรถสถานที่ก่อสร้างโรงแรมทราเวลลอดจ์
6.โรงแรมทราเวลลอดจ์
7.แบลร์เช็กอินที่โรงแรมแฟร์ฟิลด์
8.กระเป๋าคาดเอวพบในที่เกิดเหตุ
9.ของมีค่าในกระเป๋ายังอยู่ครบ
10.ภาพสเกตช์ผู้ต้องสงสัย
You must be logged in to post a comment Login