- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
จุดไฟให้แสบตา
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
การไล่ตรวจยึดปฏิทินปี 2562 ที่มีรูป “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” โดยที่ผู้มีอำนาจรักษากฎหมายยังระบุไม่ได้ว่าผิดมาตราใด และยังยอมรับว่าไม่น่าจะทำให้เกิดความขัดแย้งเพราะมีแจกกันมาก่อนแล้ว ทำให้เกิดคำถามว่าทำไปเพื่ออะไร แม้ในทางการเมืองจะรู้กันว่าทำปฏิทินเพื่อให้ประชาชนระลึกถึงผลงานของอดีตนายกฯทั้ง 2 คน ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลไปถึงพรรคการเมืองที่อดีตนายกฯให้การสนับสนุน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มที่มีความคลั่งไคล้จริงเท่านั้น ไม่ใช่ประชาชนทั่วไปที่อยากได้ เมื่อเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม เป็นเรื่องของแฟนคลับ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง จึงไม่ควรทำให้เป็นประเด็นทางการเมือง ทั้งที่รู้ว่าปฏิทินทำจากกระดาษ เป็นเชื้อไฟอย่างดี หลงเอาไฟไปแหย่ก็ต้องรับสภาพไป
ความเคลื่อนไหวทางการเมืองช่วงนี้นอกจากความน่าสนใจเรื่องการย้ายสังกัดพรรคของบรรดาบิ๊กเนมที่ต้องมีความชัดเจนภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนนี้กับเรื่องปลดล็อกไม่ปลดล็อกแล้ว ยังมีเรื่องแทรกที่น่าสนใจปรากฏขึ้นมาอีกเรื่องหนึ่ง
ความจริงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ อาจเป็นเทศกาลประจำปีที่เกิดขึ้นทุกปีหลังการรัฐประหารเลยก็ว่าได้
เรื่องที่ว่าก็คือการไล่เก็บปฏิทินที่มีรูปของ 2 พี่น้องอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”
ล่าสุดเรื่องเกิดขึ้นทางภาคอีสานที่ใครก็มองว่าเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทย ผู้ใช้เฟซบุ๊ค WassanaKenhla โพสต์ภาพเจ้าหน้าที่ทหารไปพบตัวที่บ้านเพื่อขอดูปฏิทินที่มีภาพ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” พร้อมเขียนบรรยายว่า
“มาหาแต่เช้าเลยมาถามเรื่องปฏิทิน…เอามาจากไหน…ใครให้มา ก็เลยย้อนถามกลับไป แล้วมันผิดตรงไหนคะ ก้อแค่เอาไว้ดูวัน/เดือน นี่หรือประเทศไทย…ข่อยล่ะงึดหลาย”
นอกจากนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊ค KrekyutCompetdee ได้โพสต์ภาพทหารตำรวจตรวจค้นบ้านพักพร้อมข้อความระบุว่า
“วันนี้ไม่อยู่บ้าน มีแขกมาเยี่ยม มาเอาของฝากไปหมดเลย #ปฏิทินเป็นอาวุธร้ายแรง”
กรณีนี้นายอานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ภาพลงเฟซบุ๊คพร้อมคำอธิบายว่า
“วันนี้ (6 พ.ย.) เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารสนธิกำลังกับฝ่ายปกครองกว่า 50 นาย เข้าตรวจยึดปฏิทินรูปทักษิณ-ยิ่งลักษณ์จำนวนหนึ่ง พร้อมคุมตัวลูกชายของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งไปที่ สน.วารินชำราบ จ.อุบลฯ”
การตรวจค้นและยึดปฏิทินรูป “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ได้รับคำอธิบายจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) โดยยอมรับว่า จากการตรวจสอบมีรูปของอดีตนายกฯทั้งสองจริง แต่ยังไม่พบหลักฐานว่าบุคคลใดทำแจก พบว่ามีการแจกที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศาลรัฐธรรมนูญ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดอุบลราชธานี
“ขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตำรวจภูธรภาค 3 ภาค 4 และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล กำลังตรวจสอบให้ชัดเจน ไม่น่าจะก่อให้เกิดความขัดแย้ง เพราะมีการแจกกันมาแล้วก่อนหน้านี้ ยืนยันว่าอดีตนายกฯทั้งสองยังอยู่นอกราชอาณาจักร คงไม่ใช่ผู้ทำแจกแน่นอน ช่วงนี้ในพื้นที่กรุงเทพฯยังไม่มีกลุ่มใดเคลื่อนไหว แต่มีการจับตาความเคลื่อนไหวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ให้ขยายพื้นที่”
จากคำชี้แจงของรอง ผบ.ตร. ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าคนทำ คนแจกปฏิทินที่มีรูปของ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” เข้าข่ายมีความผิดตามกฎหมายใด พร้อมยอมรับด้วยว่าไม่น่าจะทำให้เกิดความขัดแย้ง เพราะมีการแจกมาก่อนหน้านี้แล้ว
คำถามคือถ้าไม่มีความผิดตามกฎหมาย ไม่ทำให้เกิดความขัดแย้ง เหตุใดจึงต้องตรวจยึดปฏิทินดังกล่าว และใช้อำนาจตามกฎหมายใดทำการตรวจยึด
แม้ในทางการเมืองจะเป็นที่ยอมรับกันว่าการทำปฏิทินที่มีรูปของ 2 อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาแจกประชาชนเป็นการทำเพื่อให้ประชาชนระลึกถึงผลงานของอดีตนายกฯทั้ง 2 คน ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลไปถึงพรรคการเมืองที่อดีตนายกฯทั้ง 2 คนให้การสนับสนุน
ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับความเป็นจริงอีกอย่างหนึ่งว่า ไม่ใช่ประชาชนทั่วไปที่อยากได้ปฏิทินที่มีรูป “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” คนที่อยากได้มีเพียงแฟนพันธุ์แท้ที่คลั่งไคล้ตระกูลชินวัตร พรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดงเท่านั้น
แม้แต่คนที่ถูกมองว่ามีแนวคิดทางการเมืองไปในทางสนับสนุนประชาธิปไตย เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงในหลายเรื่อง ก็คงจะมีน้อยคนนักที่อยากได้หรือโหยหาปฏิทินที่มีรูป “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์”
เมื่อเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม เป็นเรื่องของแฟนคลับ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง จึงไม่ควรทำให้เป็นประเด็นทางการเมือง
ปฏิทินทำจากกระดาษ เป็นเชื้อไฟอย่างดี หลงเอาไฟไปแหย่ก็ต้องรับสภาพไป
You must be logged in to post a comment Login