- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
เส้นตาย26พฤศจิกาฯ
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
แม้ยังไม่มีความชัดเจนว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีหน้าจริงหรือไม่ แต่นักการเมืองต้องยึดวันที่ 24 กุมภาพันธ์เป็นที่ตั้งเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกเส้นทางเดินบนถนนการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแกนนำพรรคเพื่อไทยจะร่วมเป็นร่วมตายอยู่ที่เดิมโดยต้องรอลุ้นผลสอบยุบพรรค หรือลดความเสี่ยงด้วยการย้ายไปพรรคอื่น ต้องตัดสินใจภายในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ถ้าตัดสินใจผิดอาจได้เป็นแค่คนดู ไม่มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง นั่งรอลงสนามมานานคงไม่มีใครอยากพลาดลงแข่งวันที่ 24 กุมภาพันธ์
ข่าวการเคลื่อนไหวคัดค้านประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่ให้กรรมการสภามหาวิทยาลัยต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ที่ตามมาด้วยคำขู่ว่ากรรมการสภามหาวิทยาลัยจะพากันลาออก จนรัฐบาลทหาร คสช. ต้องเข้ามาแทรกแซงส่งสัญญาณให้ ป.ป.ช. ทบทวนว่ากระทบใครบ้าง ใครได้ใครเสียกับการเคลื่อนไหวนี้ประชาชนคงมีคำตอบอยู่ในใจ
ไม่ว่าสุดท้ายจะแค่เลื่อนบังคับใช้ออกไป หรือยกเลิกประกาศ หรือเดินหน้าบังคับใช้ต่อแล้วเกิดกรณีแห่ยื่นใบลาออกจริง ล้วนกระชากอารมณ์ผู้คนในสังคมให้ฉุกคิดถึงวาทกรรม “คนดี” วาทกรรม “ปราบโกง” ได้เป็นอย่างดี
แน่นอนว่าจะกระทบไปถึงคะแนนนิยมของใครบางคนหากต้องการเดินต่อบนถนนสายอำนาจหลังการเลือกตั้ง
นอกจากความชัดเจนในจุดยืนเรื่องที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความโปร่งใสจะกระทบต่อเส้นทางเดินทางการเมืองแล้ว การที่พรรคประชาธิปัตย์ได้หัวหน้าใหม่เป็นคนหน้าเดิมอย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็จะส่งผลกระทบต่อเส้นทางเดินทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วย เพราะหากนายอภิสิทธิ์ยึดมั่นในจุดยืนที่ประกาศไม่สนับสนุนนายกรัฐมนตรีคนนอก ก็ทำให้ “ลุงตู่” ต้องกระโจนลงสู่เส้นทางการเมืองด้วยการเอาชื่อไปอยู่ในบัญชีพรรคการเมืองเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรี
การเอาชื่อมาอยู่ในบัญชีพรรคการเมืองทำให้ต้องระมัดระวังการเคลื่อนไหวและคำพูดมากขึ้น เพราะจะสุ่มเสี่ยงมีความผิดใช้ฐานอำนาจหน้าที่สนับสนุนพรรคการเมืองได้
อย่างที่ทราบกันว่าต้นเดือนหน้าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ทำให้ “ลุงตู่” ต้องเปิดตัวอย่างชัดเจนถึงอนาคตทางการเมืองว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ หากไปต่อจะเลือกเส้นทางใดระหว่างเล่นการเมืองเต็มตัวด้วยการเอาชื่อไปใส่ในบัญชีพรรคการเมือง หรือนั่งรอเทียบเชิญอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาลไม่ต้องเปลืองตัวระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง
แต่ชั่วโมงนี้อนาคตทางการเมืองของ “ลุงตู่” ยังไม่น่าลุ้นเท่ากับอนาคตทางการเมืองของบรรดาแกนนำพรรคเพื่อไทยที่ต้องตัดสินใจก่อนวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ ว่าจะร่วมหัวจมท้ายอยู่ที่เดิมหรือจะไปหาที่อยู่ใหม่
นอกจากปัญหาความทับซ้อนเชิงอำนาจภายในพรรคที่ทำให้ต้องตัดสินใจแล้ว ยังมีปัจจัยเรื่องยุบพรรคมาเกี่ยวข้องด้วย
อย่างที่ทราบกันว่าหากการเลือกตั้งยังมีตามกำหนดเดิมในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีหน้า ภายใต้ข้อกำหนดคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส. ต้องสังกัดพรรคการเมืองไม่ต่ำกว่า 90 วัน
หมายความว่าหากอยากอยู่กับพรรคเพื่อไทยต่อไปก็ต้องใจตุ๊มๆต่อมๆว่าจะมีการยุบพรรคเกิดขึ้นหรือไม่ ถ้ามีจะเกิดขึ้นช่วงเวลาใด หากการยุบพรรคเกิดขึ้นหลังวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้ หมายความว่าจะขาดคุณสมบัติการเป็นผู้สมัคร ส.ส. ทันที เพราะแม้จะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นได้ แต่จะสังกัดพรรคการเมืองไม่ครบ 90 วัน
ทั้งนี้ ดูตามแนวโน้มแล้วหากจะมีการยุบพรรคเพื่อไทยคงไม่เกิดก่อนวันที่ 26 พฤศจิกายน เพราะกระบวนการสอบยุบพรรคตามที่มีคนไปร้องเรียนไว้ยังอยู่ในขั้นตอนรวบรวมพยานหลักฐาน
กรณีของพรรคเพื่อไทยต่างจาก “ลุงตู่” เพราะไม่ว่าจะเลือกเอาชื่อไปใส่ในบัญชีพรรคการเมืองเสนอเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ไม่มีกฎหมายบังคับหรือกำหนดว่าจะต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองกี่วัน ไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองเลยก็ยังได้
นี่คือความต่างบนเส้นทางแห่งอำนาจของคู่แข่งสองฝ่าย แม้ต่างมีเงื่อนไข มีปัจจัยที่ต้องตัดสินใจ แต่ก็มีความยากง่ายต่างกัน
You must be logged in to post a comment Login