- อย่าไปอินPosted 11 hours ago
- ปีดับคนดังPosted 1 day ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 2 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 4 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 4 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 1 week ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
รู้วิทยาศาสตร์ แต่อย่าขาดความเชื่อในศาสนา
คอลัมน์ สันติธรรม
รู้วิทยาศาสตร์ แต่อย่าขาดความเชื่อในศาสนา
โดย บรรจง บินกาซัน
(โลกวันนี้วันสุข วันที่ 16-23 พฤศจิกายน 2561)
การเรียนศาสนาทำให้เราได้รู้อะไรหลายๆอย่างที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถให้คำตอบได้ นักวิทยาศาสตร์สามารถบอกได้ว่าหุ่นยนตร์ถูกสร้างมาอย่างไรและสร้างมาจากอะไร แต่ถ้าถามนักวิทยาศาสตร์ว่ามนุษย์ถูกสร้างมาอย่างไรและสร้างมาจากอะไร นักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถตอบได้
แต่ถ้าเรียนรู้ศาสนา ศาสนาได้ให้คำตอบไว้แล้วว่ามนุษย์ถูกสร้างมาจากดิน และผู้สร้างมนุษย์คนแรกขึ้นมาคือพระเจ้า ส่วนกระบวนการสร้างมนุษย์จากดินให้เป็นสิ่งมีชีวิตนั้นไม่จำเป็นต้องผ่านโรงงานและใช้เวลายาวนานเหมือนการสร้างหุ่นยนต์ เพียงแค่พระเจ้าบัญชาว่า “จงบังเกิดขึ้นมา” ดินธรรมดาๆก็กลายเป็นมนุษย์ที่มีชีวิตขึ้นมาทันที
แม้นักวิทยาศาสตร์รู้องค์ประกอบทางเคมีของกระดูกและเนื้อหนังของมนุษย์ที่มาจากดิน แต่จนทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่สามารถสังเคราะห์สารเคมีจากดินมาทำเป็นเนื้อหนังและกระดูก ซึ่งเป็นส่วนประกอบทางกายภาพของมนุษย์ได้
นี่แค่เพียงเรื่องกายภาพเท่านั้น ส่วนเรื่องวิญญาณไม่ต้องพูดถึง แม้นักวิทยาศาสตร์เคยพยายามศึกษาวิญญาณ โดยการนำเอาคนไข้ที่ใกล้เสียชีวิตไปใส่ในโลงแก้ว และนำเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์หรือมาตรวัดสิ่งต่างๆที่มองไม่เห็นมาคอยตรวจจับดูว่าเมื่อวิญญาณออกจากร่างคนไข้ วิญญาณเป็นอะไร
แต่เมื่อคนไข้หมดลมหายใจสุดท้าย วิญญาณออกจากร่างไป เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยทุกชิ้นก็ไม่สามารถบอกอะไรได้
มนุษย์อยากรู้เรื่องวิญญาณมานานนับพันปีแล้ว แม้ในสมัยนบีมุฮัมมัด คัมภีร์กุรอานเล่าว่า ทั้งชาวอาหรับและชาวยิวได้ถามท่านว่าวิญญาณคืออะไร นบีมุฮัมมัดได้รับคำบัญชาจากพระเจ้าให้ตอบคนเหล่านั้นว่าความรู้เรื่องวิญญาณอยู่ที่พระเจ้า พระองค์ไม่ให้ความรู้ในเรื่องนี้แก่มนุษย์ ดังนั้น เมื่อพระองค์ไม่ให้ ต่อให้มนุษย์มีความรู้มากเพียงใดมนุษย์ก็จะไม่มีวันรู้เรื่องวิญญาณจนถึงวันสิ้นโลก
ความรู้เรื่องวิญญาณที่พระเจ้าประทานแก่นบีมุฮัมมัดก็คือ วิธีการควบคุมวิญญาณและการขัดเกลาวิญญาณให้สะอาดผ่องแผ้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่มนุษย์ต้องรู้มากกว่าการรู้ว่าวิญญาณคืออะไร
วิญญาณจึงเป็นสิ่งเร้นลับหรือสิ่งพ้นญาณวิสัยที่มีอยู่โดยที่มนุษย์ไม่รู้ว่ามันคืออะไร และความเชื่อในสิ่งเร้นลับ เช่น นรก สวรรค์ ทูตสวรรค์ และญิน ถือเป็นหลักความเชื่อสำคัญในอิสลาม การไม่เชื่อในสิ่งเหล่านี้ถือเป็นการปฏิเสธพระเจ้า เพราะพระเจ้าเป็นผู้สร้างสิ่งเหล่านี้ขึ้นมา
เป็นเรื่องน่าแปลกมากที่พระเจ้าไม่ให้ความรู้ว่าวิญญาณคืออะไร ถูกสร้างมาจากอะไร แต่สิ่งเร้นลับอื่นๆพระองค์ได้ให้ข้อมูลแก่มนุษย์อย่างเพียงพอ เช่น ญินเป็นเผ่าพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างมาจากไฟ มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นมัน แต่มันสามารถมองเห็นมนุษย์ ญินมีทั้งดีและชั่วเหมือนมนุษย์ ญินชั่วถูกเรียกว่าชัยฏอนหรือซาตาน หัวหน้าของซาตานมีชื่อว่าอิบลีส
คัมภีร์กุรอานเล่าว่า อิบลีสไม่พอใจที่พระเจ้าสั่งมันให้ก้มกราบต่ออาดัมเมื่อพระองค์สร้างอาดัมขึ้นมา เพราะมันถือว่ามันถูกสร้างมาจากไฟ แต่อาดัมถูกสร้างมันจากดิน มันจึงเหนือกว่าอาดัม ความทะนงในต้นกำเนิดของมันนี่เองที่ทำให้มันฝ่าฝืนคำบัญชาของพระเจ้าทั้งๆที่พระเจ้าสร้างมันขึ้นมา
การฝ่าฝืนพระเจ้านี้เองที่ทำให้มันต้องถูกลงโทษ มันจึงเคียดแค้นอาดัมที่เป็นต้นเหตุ ดังนั้น มันจึงขอพระเจ้าให้ประวิงเวลาลงโทษมันออกไป และมันขออนุญาตหลอกลวงอาดัมและลูกหลานของเขาจนถึงวันสิ้นโลก เพื่อพิสูจน์ให้พระองค์เห็นว่าอาดัมและมนุษย์ผู้เป็นลูกหลานของเขามีน้อยคนนักที่จะกตัญญูต่อพระองค์
อิบลีสหัวหน้าญินชั่วได้รับอนุญาตให้ล่อลวงมนุษย์ แต่มันไม่มีอำนาจบังคับมนุษย์ให้ทำชั่วตามมัน เพราะพระเจ้าได้ให้สติปัญญา เจตนารมณ์เสรี และศาสนาแก่มนุษย์แล้ว มนุษย์จะเชื่อพระเจ้าและเชื่อลูกหลานของอิบลีสก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมนุษย์เอง
ความรู้เป็นสิ่งจำเป็นในการเรียนวิทยาศาสตร์ แต่ความเชื่อเป็นสิ่งจำเป็นในการศึกษาศาสนา รู้วิทยาศาสตร์ แต่ขาดความเชื่อในศาสนา ชีวิตไม่อาจไปถึงจุดหมายปลายทางที่ดีงาม
You must be logged in to post a comment Login