- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 6 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
หมัดเด็ดน็อกเอาต์
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 16 พ.ย.2561)
ขณะที่กระแสข่าวการยุบพรรคเพื่อไทยยังคงถูกพูดถึงอยู่ทุกวันในหลายแง่มุม ก็เกิดข่าว ป.ป.ช. เตรียมชี้มูลความผิดบุคคลระดับนโยบายในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตระบายข้าวแบบจีทูจีที่ล็อตแรกมีบุคคลระดับรัฐมนตรีว่าการ รัฐมนตรีช่วยว่าการ และอธิบดี ถูกศาลสั่งจำคุกมาแล้ว ความน่าสนใจของเรื่องนี้อยู่ที่ว่าระดับนโยบายที่กล่าวถึงนั้นประกอบด้วยใครบ้าง จะขีดวงไว้แค่รองนายกฯที่กำกับดูแลกับนายกฯในฐานะหัวหน้ารัฐบาล หรือจะเหมาเข่งคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ทั้งยุบพรรค ทั้งเอาผิดระบายข้าวจีทูจี หากเกิดขึ้นจริงน็อกเครือข่ายเพื่อไทยคาเวทีได้เลย
หลักเกณฑ์ที่จะพิจารณายุบพรรคการเมืองในมุมมองของมือกฎหมายรัฐบาลทหาร คสช. อย่างนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี คือ
1.ดูการกระทำว่าทำอะไร ขนาดไหน
2.ดูเจตนา
3.ดูว่าการกระทำนั้นมีข้อยกเว้นอะไรอยู่ที่ไหนหรือเปล่า
ความเห็นนี้บังเอิญไปสอดคล้องกับข้อความล่าสุดที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์บนทวิตเตอร์ Oak Panthongtae (@oak_ptt) ที่ระบุว่า
“สำนักงานปกป้องพวกตัวเองที่ทุจริตและปราบปรามฝ่ายตรงข้ามแห่งชาติรับใบสั่งมา 3 เรื่อง ปกป้องพวกตัวเอง 1 เรื่อง และทำลายฝ่ายตรงข้ามอีก 2 เรื่อง ทั้งหมดนี้ต้องแถลงก่อนเลือกตั้ง..จบข่าว #ประเทศกูมีจนตระกูลกูชินแระ”
แปลความได้ว่าก่อนการเลือกตั้งจะมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น ถึงแม้นายพานทองแท้ไม่ได้บอกว่าสิ่งนั้นคืออะไร แต่หากใครติดตามข่าวสารบ้านเมืองมาตลอดก็คงพอจะเห็นเค้ารางได้บ้าง เพราะช่วงไม่กี่วันมานี้มีความเคลื่อนไหวที่เป็นข่าวอยู่พอสมควร
โดยเฉพาะคดีทุจริตการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตสอง ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะขยายผลให้ถึงผู้บริหารระดับนโยบาย
ส่วนระดับนโยบายที่พูดถึงนั้นหมายถึงใคร และมีใครบ้าง คงต้องรอผลการพิจารณาจาก ป.ป.ช. ว่าจะมีมติชี้มูลความผิดใครบ้าง ซึ่งตามข่าวเห็นว่าการสอบสวนเรื่องนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว
ถ้าดูระดับความคืบหน้าที่เปิดเผยออกมาก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีมติชี้มูลความผิดได้ก่อนการเลือกตั้ง
แม้ยังไม่เป็นที่เปิดเผยว่าผลการสอบสวนชี้เป้าไปที่ใครบ้าง แต่เป้าหมายของการสอบสวนครั้งนี้อยู่ที่ระดับนโยบายในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างแน่นอน
หากยังจำกันได้การสอบทุจริตการระบายข้าวจีทูจีล็อตแรกระดับปฏิบัติตั้งแต่เจ้าหน้าที่รัฐถึงรัฐมนตรีถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุกไปแล้ว โดยนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถูกจำคุก 36 ปี นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ถูกจำคุก 42 ปี นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ถูกจำคุก 40 ปี นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ถูกจำคุก 32 ปี นายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง อดีตเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศ ถูกจำคุก 24 ปี นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร (เสี่ยเปี๋ยง เจ้าของบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด) ถูกจำคุก 48 ปี
ความน่าสนใจของเรื่องนี้อยู่ที่ตัวบุคคลระดับนโยบายที่จะถูกชี้มูลความผิด ถ้าว่ากันตามความเข้าใจก็ต้องเป็นระดับใหญ่กว่ารัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ที่เป็นผู้ปฏิบัติ ซึ่งก็คือรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลหน่วยงานนั้น และนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้กำกับดูแลนโยบายของรัฐบาลทั้งหมด
หรือหากจะทำให้เรื่องใหญ่ไปกว่านั้นก็เป็นคณะรัฐมนตรีทั้งคณะที่มีมติเห็นชอบกับการดำเนินการ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นจริงก็จะเกิดปรากฏการณ์ตายหมู่ของบรรดาบิ๊กเนมทางการเมืองในพรรคเพื่อไทย รวมถึงบิ๊กเนมที่แม้จะย้ายสังกัดไปอยู่พรรคการเมืองอื่นก็ไม่รอด
ยิ่งหากเกิดกรณียุบพรรคเกิดขึ้นจริงตามที่มีกระแสข่าว สองหมัดนี้น็อกเครือข่ายเพื่อไทยคาเวทีได้เลย
ฉายตัวอย่างกันมาขนาดนี้คงต้องรอดูของจริงว่าเป็นอย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ คงอีกไม่นานเกินรอ
You must be logged in to post a comment Login