- อย่าไปอินPosted 2 days ago
- ปีดับคนดังPosted 3 days ago
- เรื่องยังไม่จบPosted 4 days ago
- ต้องช่วยผู้หญิงขึ้นจากขุมนรกPosted 5 days ago
- คนดีสยบทุกอย่างได้Posted 6 days ago
- จัดการได้ก็ทำเถอะPosted 1 week ago
- ชวนทำบุญครั้งสุดท้ายPosted 1 week ago
- อย่าไปซ้ำเติมPosted 2 weeks ago
- คงมีโอกาสดีได้นะPosted 2 weeks ago
- ช่วยสร้างบรรยากาศชื่นมื่นPosted 2 weeks ago
แรงจริงไม่ต้องกั๊ก
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 20 พ.ย.2561)
“ดังแต่ท่อล้อไม่หมุน-เสียงดีไม่มีคะแนน” เป็นประโยคที่สะท้อนความเป็นจริงเมื่อดูจากท่าทีของนักการเมืองและพรรคการเมืองซึ่งถูกมองว่าจะสนับสนุน “ลุงตู่” หวนคืนเก้าอี้นายกฯหลังเลือกตั้ง เมื่อทั้งในนามตัวบุคคล ในนามพรรคการเมือง ต่างเลี่ยงบาลี ไม่กล้าประกาศให้การสนับสนุนอย่างชัดเจน ตรงกันข้ามกับนักการเมืองและพรรคการเมืองอีกฝ่ายที่กล้าประกาศเสียงดังฟังชัดวันละหลายๆรอบว่าไม่เอา ไม่สนับสนุน เมื่อการเมืองต้องอาศัยเสียงจากประชาชน ดูแค่นี้ก็รู้ได้ว่ากระแสไหนเกาะแล้วได้คะแนน กระแสไหนเกาะแล้วเหนื่อย
แม้ระดับความชัดเจนในกำหนดวันเลือกตั้งยังไม่ 100% ว่าจะเป็นเมื่อไรกันแน่ แต่ความชัดเจนในสังกัดค่ายของนักการเมืองก็มีความชัดเจนในระดับกว่า 90% ขึ้นไปแล้ว
จากนี้คงไม่มีรายการบิ๊กเนมทางการเมืองย้ายพรรคอย่างเซอร์ไพรส์ให้เห็นอีก เพราะที่โยกย้ายกันทุกวันนี้ส่วนมากก็ไม่ได้เซอร์ไพรส์อะไร เป็นไปตามกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้แทบทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม แม้นักการเมืองจะเลือกข้างเลือกสังกัดกันค่อนข้างชัดเจนแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เดินสวนทางและยังมีความคลุมเครือกันอยู่ และเป็นที่สงสัยของประชาชนทั่วไปคือ ทำไมข้างที่ไม่เอา “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงประกาศตัวอย่างชัดเจนแต่ฝ่ายเดียว
ทำไมข้างที่ถูกระบุว่าจะสนับสนุน “ลุงตู่” ให้ได้สืบทอดอำนาจต่อไปบนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีจึงไม่กล้าประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่าสนับสนุน “ลุงตู่”
ทั้งที่หลายโพลที่ทำการสำรวจก่อนหน้านี้ก็พบว่าประชาชนอยากให้ “ลุงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป หลายโพลก็สำรวจพบว่าประชาชนชื่นชอบชื่นชมในผลงานของรัฐบาลทหาร คสช.
ทั้งที่สำรวจพบว่าประชาชนชื่นชม นักการเมืองและพรรคการเมืองซึ่งต้องการคะแนนเสียงจากประชาชนในการเลือกตั้งกลับไม่ชิงประกาศยืนข้าง “ลุงตู่” เพื่อเอาคะแนนเสียงในส่วนนี้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย แม้จะแสดงออกถึงความชื่นชอบชื่นชม “ลุงตู่” แต่ก็ไม่ประกาศว่าจะหนุนให้เป็นนายกฯ หรือชิงเอาชื่อ “ลุงตู่” มาใส่ในบัญชีชื่อนายกฯของพรรค เพียงแต่พูดในหลักการเท่านั้น
หนำซ้ำยุทธศาสตร์หลักที่ใช้หาเสียงกับประชาชนที่พูดล่าสุดยังกลับไปยุทธศาสตร์เดิมๆคือ ประกาศอุทิศตนต่อสู้กับระบอบทักษิณจนตัวตาย ชัดเจนว่าการประกาศยืนฝั่งตรงข้ามกับระบอบทักษิณจะทำให้ได้คะแนนจากประชาชนมากกว่าการประกาศสนับสนุน “ลุงตู่”
แม้แต่ในพรรคพลังประชารัฐที่ถูกมองว่าตั้งขึ้นเพื่อเป็นกำลังสำคัญในการสืบทอดอำนาจ ทุกคนในพรรคตั้งแต่ระดับหัวหน้าพรรคไปจนถึงแกนนำคนสำคัญๆก็ยังสงวนท่าทีไม่กล้าประกาศชัดว่าพรรคนี้ตั้งขึ้นมาเพื่ออุ้ม “ลุงตู่” กลับมาเป็นนายกฯหลังการเลือกตั้ง
คงพูดแต่ในหลักการเพื่อรักษาระยะห่างกับ “ลุงตู่” ไว้ในระดับที่เหมาะสม
เมื่อ 2 พรรคหลักที่ถูกมองว่าตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุน “ลุงตู่” ไม่กล้าพูดออกมาอย่างชัดเจน ทำให้ความน่าจะเป็นในอนาคตบนถนนการเมืองของ “ลุงตู่” น่าจะออกไปในทางนั่งรอเทียบเชิญอยู่บ้านมากกว่าเอาชื่อมาใส่ในบัญชีชื่อพรรคการเมืองเสนอให้เป็นนายกฯ
เมื่อแนวโน้มความน่าจะเป็นออกมาในทิศทางนี้ก็ต้องย้อนไปพูดถึงผลสำรวจของสำนักโพลต่างๆที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่าได้สะท้อนความรู้สึกนึกคิดที่แท้จริงของประชาชนออกมาหรือไม่
ขณะที่สำนักโพลต่างๆทำการสำรวจความคิดเห็นประชาชนแบบหลวมๆ คือใช้จำนวนตัวอย่างผู้ตอบแบบสอบถามค่อนข้างน้อยระดับพันคนเศษ ขณะที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศมีมากกว่า 40 ล้านคน ก็ปรากฏข่าวจากบางแหล่งอ้างว่ามีหน่วยงานรัฐอย่างน้อย 2 หน่วยงานทำการสำรวจความเห็นประชาชนจำนวนมากในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พบว่าพรรคการเมืองที่ถูกมองว่าเป็นกลุ่มอำนาจเก่ายังถูกเลือกจากประชาชนมากที่สุด
นี่อาจเป็นความจริงที่ทำให้พรรคการเมืองไม่กล้าประกาศหนุนอย่างชัดเจน แถมยังพยายามสลัดให้พ้นภาพความเป็นผู้สนับสนุนเผด็จการที่ฝ่ายตรงข้ามสร้างให้ และเป็นความจริงที่ทำให้เจ้าตัวไม่กล้าประกาศเลือกอย่างชัดเจนว่าจะเดินเส้นทางใดหากอยากกลับคืนสู่อำนาจอีกครั้งหลังเลือกตั้ง
สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนสะท้อนความเป็นไปดังคำพูดที่ว่า “ดังแต่ท่อล้อไม่หมุน” หรือ “เสียงดี ไม่มีคะแนน” เพราะถ้ากระแสแรงจริงคงไม่กั๊กกันแบบนี้
You must be logged in to post a comment Login